Insight Daily

Insight Talk — USB-C ของ Android กับ Apple ต่างกันอย่างไร? ใช้ร่วมกันได้จริงหรือไม่?

อีพีนี้อยากชวนทุกคนมาคุยเรื่องสายชาร์จกันสักหน่อยครับ ทุกวันนี้ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็เห็นสายต่อแบบ USB-C กลายเป็นมาตรฐานใหม่ที่ทั้ง Android และ Apple (iPhone, iPad, MacBook) หันมาใช้เหมือนกันแล้ว แต่หลายคนอาจยังสงสัยและไม่รู้ว่า ถึงจะหน้าตาเหมือนกัน แต่การใช้งานจริงกลับมี รายละเอียดที่ต่างกันอยู่ไม่น้อยนะ มาครับผมจะเล่าให้ฟัง

» ความต่างของสาย USB-C ระหว่าง Android และ Apple

Android

Apple (iPhone / iPad / MacBook)


» สายที่ใช้กับ Android ใช้ร่วมกันกับ iPhone ได้ไหม?

คำตอบ : ใช้ได้ แต่มีรายละเอียดตามการใช้ดังนี้

การชาร์จ

การโอนถ่ายข้อมูล


» ผลดีและผลเสียเมื่อใช้สาย/หัวร่วมกัน

ข้อดี

ข้อเสีย


» วิธีเลือกซื้อสาย USB-C ที่คุ้มที่สุด

ดูสเปกของมือถือ/อุปกรณ์ตัวเองก่อนว่าเป็น USB-C เวอร์ชั่นไหน?

เลือกสายที่มีมาตรฐานชัดเจน

เน้นคุณภาพสายและหัวชาร์จ


» ทำไมพินไม่เท่ากัน?

หัว USB-C ตามมาตรฐานจริงๆ จะมี สูงสุด 24 พิน แต่ไม่จำเป็นว่าทุกสายจะต้องใส่ครบเสมอไป เพราะฟังก์ชันของสาย ไม่ได้เหมือนกันทั้งหมด จำนวนพินจะขึ้นกับฟีเจอร์ใช้งานของสาย USB-C ที่ต้องการ

สายชาร์จอย่างเดียว (Charging Only)

สายชาร์จ + โอนข้อมูลทั่วไป

สายชาร์จเร็ว (PD, QC, SuperVOOC ฯลฯ)

สายความเร็วสูง (USB 3.2, Thunderbolt, USB4)


» สรุปง่ายๆ

ดังนั้น เวลาซื้อสาย USB-C ถ้าอยากใช้งานได้เต็มที่ ควรเช็กสเปกที่กล่อง/ร้านขาย ว่าสาย รองรับมาตรฐานอะไร ไม่ใช่ดูแค่ภายนอกครับ


» สรุป

USB-C ของ Android และ Apple ถึงจะหน้าตาเหมือนกัน แต่รายละเอียดการใช้งานไม่เหมือน 100% การเลือกสาย/หัวชาร์จที่ “ถูกต้อง” จะช่วยยืดอายุอุปกรณ์และใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ เลือกสาย USB-C ให้ตรงรุ่น ตรงสเปกดีกว่าใช้แบบ “อะไรก็ได้” เพราะผลเสียอาจมากกว่าที่คิด

—————
▶︎ อัปเดตข่าวสาร และบทความต่างๆ
คลิกดูต่อที่ insight-daily.com ได้เลย!

 

Exit mobile version