“จะซื้อสมาร์ตโฟนเครื่องใหม่ แล้วเครื่องที่ใช้อยู่จะเอาไปขายที่ไหนดีนะ?” เป็นคำถามที่หลายคนถ้าไม่ได้ช่ำชองการเล่นมือถือแบบซื้อมา-ขายไปอยู่บ่อย ๆ น่าจะมีเกิดขึ้นมาในหัวทุกครั้งที่อยากจะเปลี่ยนมือถือเครื่องใหม่กันใช่ไหมล่ะครับ บางคนเลือกที่จะปลดระวางให้กับคนในครอบครัวหรือแฟน บางคนอาจจะเลือกที่จะขายต่อให้เพื่อน ในขณะที่บางคนก็อาจจะเลือกโพสต์ขายเองผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ หรือบางคนก็จำใจนำไปขายที่ร้านตู้กระจก ซึ่งแต่ละช่องทางก็ได้เงินมากน้อยแตกต่างกันไป แต่บางครั้งช่องทางเหล่านี้สำหรับคุณผู้หญิงที่ตัวคนเดียว หรือคนที่ไม่ได้ถนัดด้านขายของมือสองก็อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดูไม่ค่อยสะดวกเท่าไรนัก
วันนี้ Insight Daily มีอีกช่องทางสำหรับการขายมือถือหรือขายเพื่อเอางบมาซื้อเครื่องใหม่มาบอกเล่ากันครับ ซึ่งเป็นประสบการณ์จริงของตัวเองที่เคยได้ใช้บริการ แล้วรู้สึกว่าสะดวกและปลอดภัยดี จึงอยากเอามาแนะนำให้ทุกคนได้มีทางเลือกเพิ่มกันด้วย
ขอเกริ่นสักนิดนะครับ ด้วยความที่ส่วนตัวเป็นคนเล่นมือถืออยู่แล้ว จึงค่อนข้างที่จะเปลี่ยนมือถืออยู่บ่อยครั้งมาตั้งแต่สมัยตอนเรียน โดยปกติก็จะใช้วิธีโพสต์ขายเองตามเว็บบอร์ดหรือกระทู้บนเว็บไซต์ชื่อดังเอง เพราะได้ราคาดี ตรงใจ แต่! ด้วยลักษณะนิสัยที่เป็นคนมีโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง ดังนั้นจึงรู้สึกอึดอัดอยู่บ้าง เวลาที่เราต้องไปพูดคุยหรือไปเจอกับคนที่ไม่รู้จักมาก่อน (คนที่มาซื้อ) แต่ก็เลือกใช้วิธีนี้มาตลอด จนปัจจุบันไม่ค่อยมีโอกาสเปลี่ยนมือถือบ่อยแล้ว

แต่เมื่อช่วงปีที่ผ่านมา หลังจากมีเป้าหมายว่าจะเปลี่ยนมือถือใหม่ จึงได้มีโอกาสทดลองใช้บริการของ remobie / www.remobie.com ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจรับซื้อสมาร์ตโฟนมือสองโดยตรง แล้วรู้สึกประทับใจครับ ซึ่งการเริ่มต้นใช้บริการก็ไม่ได้ยากอะไร เพียงแค่เราเข้าเว็บไซต์ของเขา จากนั้นก็เลือกรุ่นที่เราจะขาย ใส่รายละเอียดเกี่ยวกับตัวเครื่อง ระบบก็จะแสดงราคาประเมินขึ้นมาให้ และถ้าเราพอใจราคา ก็แจ้งนัดหมายวัน เวลา และสถานที่ได้เลย
โดยก่อนถึงวันนัดหมายประมาณ 2 – 3 วัน จะมีเจ้าหน้าที่โทรมายืนยันรายละเอียดกับเราก่อน และเมื่อถึงวันนัดหมาย เราก็แค่ไปรอตามสถานที่ที่นัด (ที่บ้าน ออฟฟิศ หรือห้างใกล้บ้านก็ได้นะ นัดได้หมดเลย) จากนั้นก็จะมีน้องพนักงานมาตรวจรับเครื่อง สำหรับการตรวจรับ ก็จะมีการทดสอบเครื่องโดยเน้นไปที่การใช้งานเครื่องพื้นฐาน โทรเข้าออก กล้องถ่ายรูป ลำโพง การสั่น พอร์ตปุ่มต่าง ๆ ใช้เวลาประมาณ 5 – 10 นาที เท่านั้น
หลังจากตรวจเช็กเสร็จแล้ว พนักงานตรวจรับก็จะแจ้งราคาหน้างานว่าได้ราคาเท่าไร ถ้าตรงตามที่เราให้ข้อมูลไว้บนเว็บไซต์ก็จะได้ตามนั้นเลย แต่ถ้าหน้างานมีรายละเอียดไม่ตรงก็โดนหักไปตามจุด ซึ่งต้องย้ำว่าราคาบนเว็บไซต์เป็นเพียงราคาประเมินเท่านั้นนะครับ หน้างานอาจมีเปลี่ยนแปลงตามสภาพเครื่องจริง
หากถ้าเราโอเคกับราคา น้องพนักงานก็จะขอเลขบัญชีหรือพร้อมเพย์ของเรา แล้วทำการแจ้งไปยังออฟฟิศ รอประมาณ 2 – 3 นาที เงินก็จะเข้าบัญชีเรา ซึ่งหลังจากนั้นพนักงานตรวจรับก็จะทำการเคลียร์เครื่องอีกครั้งเพื่อความปลอดภัยต่อข้อมูลเรา โดยรวมแล้วใช้เวลาในการขายประมาณ 15 – 20 นาที ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยครับ
เรียกได้ว่าเป็นอะไรที่ค่อนข้างสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัยดีเลยล่ะ ส่วนเรื่องของราคาหลายคนอาจสงสัยว่าโดนกดไหม? จากเคยเช็กดู ก็จะหายไปจากราคาที่เราขายเองอยู่ประมาณ 2,000 – 4,000 บาท และถ้าเทียบกับราคาร้านตู้เราจะได้ราคาที่สูงกว่าประมาณ 1,000 – 3,000 บาท ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่กดขายกับทางเว็บไซต์ด้วย เพราะถ้าเรากดขายในช่วงที่มือถือเปิดตัวใหม่ คนก็จะขายกันเยอะ ราคาก็จะดรอปลงเยอะมาก ๆ ดังนั้นก็ต้องเลือกช่วงเวลาขายให้ดีด้วยเหมือนกัน ตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคนแล้วครับว่า ราคาที่หายไปกับความสะดวกที่เราได้รับสามารถแลกเปลี่ยนกันได้ไหม
นอกจากนี้ทาง remobie เขายังเป็นพาร์ทเนอร์กับบรรดาค่ายมือถือด้วย ดังนั้นถ้ากดผ่านโครงการเทรดอินของแต่ละค่ายก็จะได้ราคาขายบวกเพิ่มตามโปรโมชันของแต่ละเจ้าเข้ามาอีก ซึ่งตอนนี้ก็มี AIS และ True
แล้วถ้าไม่ใช้ remobie ยังมีเจ้าไหนอีกไหม? ก็จะมี www.kaitorasap.co.th ซึ่งรูปแบบการให้บริการก็เหมือนกัน และราคาก็พอ ๆ กัน ใครสะดวกของเจ้าไหนก็เลือกใช้กันได้เลย
แต่ก็อย่างที่บอกไปนะครับว่า เราแค่มาแนะนำนะ เพราะใช้บริการด้วยตนเองแล้วรู้สึกว่าโอเคดี และเนื้อหาโพสต์นี้ไม่ได้รับการสปอนเซอร์ใด ๆ จากทั้งสองบริษัทนะครับ เป็นประสบการณ์จริงจากที่เคยได้ใช้บริการมา
—————
▶︎ อัปเดตข่าวสาร และบทความต่างๆ
คลิกดูต่อที่ insight-daily.com ได้เลย!