Insight Daily

รีวิว Alldocube iPlay 70 mini Ultra แท็บเล็ตจอ 8.8 นิ้ว 2.5K แรงเต็มสปีด เกมไหนก็โดน

FIRST

Alldocube iPlay 70 mini Ultra เป็นแท็บเล็ตสายเกมมิ่งตัวคุ้ม! จากแบรนด์ “Alldocube” แบรนด์น้องใหม่หน้าเก่าของวงการแท็บเล็ต Android นั่นเองครับ โดย Alldocube iPlay 70 mini Ultra มากับจุดเด่นด้านสเปกที่แรง ให้จอแสดงผลที่คมชัด 2.5K และลื่นไหลด้วยเฟรมเรทสูงถึง 144Hz บนขนาดตัวที่พกพาได้คล่อง พร้อมทั้งยังมีอุปกรณ์เสริมเพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมมาให้ครบด้วย จึงเป็นแท็บเล็ตอีกรุ่นที่อยากแนะนำให้แฟน ๆ Insight Daily ได้รู้จักและเปิดใจใช้งานกันผ่านบทความรีวิว Alldocube iPlay 70 mini Ultra ที่ทุกท่านกำลังอ่านกันอยู่นี้ครับ

Alldocube คือใคร? ทำไมถึงได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว

ก่อนเข้าสู่เนื้อหาบทความรีวิวกัน ผมอยาก Recap ข้อมูลแบรนด์ Alldocube กันสักเล็กน้อย เพื่อให้ข้อมูลที่มาที่ไปของแบรนด์และเสริมความมั่นใจโดยสังเขปให้กับเพื่อน ๆ ครับ

Alldocube เป็นแบรนด์เทคโนโลยีระดับโลก ที่มุ่งเน้นการพัฒนาและจัดจําหน่ายอุปกรณ์อัจฉริยะ เช่น แท็บเล็ตและแล็ปท็อป Alldocube ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 2005 ตลอด 20 ปีทีผ่านมา แบรนด์ Alldocube เติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และได้สร้างความร่วมมือกับบริษัทชั้นนําของโลกอย่าง Intel, Microsoft, Qualcomm, Unisoc และ MediaTek ความร่วมมือเหล่านี้ ช่วยพัฒนา ผลิตภัณฑ์ และบริการทีมีคุณภาพให้แก่ผู้บริโภคทั่วโลก

 

 

สำหรับในประเทศไทย แบรนด์ Alldocube เป็นแบรนด์สมาร์ทแท็บเล็ต Android ที่บอกได้ว่าเป็น “น้องใหม่แต่หน้าเก่า” เพราะอยู่ในตลาดเมืองไทยมาสักพักแล้ว และมีผู้ใช้งานในไทยบางส่วนรู้จักแท็บเล็ต Alldocube กันมาหลายปีแล้วล่ะครับ โดยเฉพาะในหมู่คนเล่นแท็บเล็ต ‘ราคาประหยัด’ หรือ ‘สายคุ้มค่า’ เน้นสเปกแรง ได้รับประสบการณ์ใช้งานที่ดีบนราคาเข้าถึงได้ ซึ่งแท็บเล็ตของ Alldocube ตอบโจทย์ความต้องการตรงนั้นได้ดีมาก จนมีการแนะนำกันปากต่อปาก และได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เริ่มเป็นที่รู้จักกันในวงกว้างมากขึ้น

ดังนั้นใครที่กังวลใจและไม่กล้าเปิดใจให้กับแบรนด์ใหม่ที่เข้ามาทำตลาด ก็ขอให้อุ่นใจได้เลยว่า Alldocube ไม่ใช่แบรนด์ใหม่กริบอะไรในไทยจนน่ากังวลใจแบบนั้น และตอนนี้ในเรื่องของการดูแลหลังการขาย เขาก็มีตัวแทนนำเข้ามาจัดจำหน่ายและดูแลบริการหลังการขายให้อย่างเป็นทางการแล้ว นั่นคือ บริษัท ที แอนด์ ซี จำกัด ยิ่งการันตีความอุ่นใจได้เลยว่า ถ้าหากมีปัญหาอะไรจะโทรปรึกษาหรือเดินเข้ารับบริการผ่านศูนย์บริการก็ทำได้เลย เอาล่ะครับ น่าจะพอได้ข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์พอสังเขปกันแล้ว เรากลับเข้าสู่ รีวิว Alldocube iPlay 70 mini Ultra กันดีกว่า เลื่อนอ่านต่อได้เลย!

เลือกอ่านตามหัวข้อ

1. Specification / รายละเอียดสเปก
2. Design / งานออกแบบ
3. Display / หน้าจอแสดงผล
4. Performance / ประสิทธิภาพ
5. Battery / แบตเตอรี่
6. Wrap-up / บทสรุป
7. Price & Availability / ราคาและการวางจำหน่าย

Specification

รายละเอียดสเปกของ Alldocube iPlay 70 mini Ultra

อุปกรณ์ภายในกล่อง

⇑ ย้อนกลับไปเลือกหัวข้อ

Design

ดีไซน์ Full Metal Unibody เรียบง่าย เพรียวบาง และพรีเมียม

Alldocube iPlay 70 mini Ultra มากับดีไซน์ตัวเครื่อง ‘Full Metal Unibody’ ดีไซน์ที่เน้นความเรียบง่ายพร้อมกับงานออกแบบเสาอากาศแบบซ่อน ไร้แถบเสาอากาศที่มองเห็นได้ มอบรูปลักษณ์ที่เพรียวบางและพรีเมียม ไปพร้อมความแข็งแรงและทนทาน รวมทั้งยังมากับขนาดตัวที่กะทัดรัดขนาดบางเพียง 7.9 มิลลิเมตร และมีรูปทรงตามหลักสรีรศาสตร์ช่วยให้จับได้กระชับมือ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเล่นเกมเป็นเวลานานโดยไม่เมื่อยล้า

ด้านหน้ามากับจอแสดงผล IPS ขนาด 8.8 นิ้ว ความละเอียดระดับ 2.5K พร้อมกล้องหน้าความละเอียด 5MP ในขณะที่ด้านขวาจะมีปุ่มกดเปิด-ปิดตัวเครื่อง (Power) และปุ่มปรับระดับเสียง (Volume) ส่วนด้านซ้ายจะเป็นช่องสำหรับเพิ่มพื้นเก็บข้อมูลด้วย MicroSD Card รองรับความจุสูงสุด 1TB

ด้านบนและด้านล่างตัวเครื่องจะเป็นตำแหน่งลำโพงคู่สเตอริโอและพอร์ต USB-C ซึ่งมาเป็น USB 3.1 เลยทีเดียว และเมื่อพลิกมาด้านหลังจะมีกล้องหลัง 1 ตัว ความละเอียด 13MP พร้อมไฟแฟลช LED

⇑ ย้อนกลับไปเลือกหัวข้อ

Display

จอคมกริบ! 2.5K บนขนาด 8.8 นิ้ว พกพาคล่องตัว

Alldocube iPlay 70 mini Ultra มากับจอแสดงผลที่สวยและคมมากครับ โดยทาง Alldocube เลือกใช้จอแสดงผล IPS ขนาด 8.8 นิ้ว ความละเอียด 2560×1600 พิกเซล และมีค่ารีเฟรชเรทที่สูงสุดถึง 144Hz เลยทีเดียว ซึ่งเราสามารถเลือกปรับค่ารีเฟรชเรทได้ 4 ค่า คือ 60, 90, 120 และ 144Hz รวมทั้งยังค่าความสว่างสูงสุดที่ 500nits ซึ่งเป็นตัวเลขที่เราสามารถมองเห็นคอนเทนต์บนจอได้เมื่อต้องใช้ท่ามกลางแสงจ้า

ยังไม่พอ! ตัวจอของ Alldocube iPlay 70 mini Ultra ยังมาพร้อมคุณสมบัติรองรับคุณสมบัติ ‘widevine L1’ รับชมคอนเทนต์วิดีโอ HDR ผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งได้ พร้อมทั้งยังสามารถส่งภาพขึ้นจอนอกด้วยความละเอียดระดับ 4K ผ่านช่องต่อ Display port (DP) ได้ด้วย นอกจากนี้ หน้าจอของ Alldocube iPlay 70 mini Ultra ยังใช้เทคโนโลยี LTPS ทำให้ตัวจอสามารถมอบความละเอียดสูง ความสว่างและคอนทราสต์ที่ยอดเยี่ยม แต่ใช้พลังงานต่ำ จึงทำให้เป็นจอแท็บเล็ตอีกรุ่นที่ผมรู้สึกว่า ‘สวย สว่าง และคม’

⇑ ย้อนกลับไปเลือกหัวข้อ

Performance

สนุกได้ทุกเกม เกมไหนก็โดน!

— ชิปเซ็ต Snapdragon 7+ Gen 3 พร้อม RAM 12GB  ขยาย RAM เพิ่มได้สูงสุด 8GB รวม 20GB!

Alldocube iPlay 70 mini Ultra มากับชิปเซ็ต Snapdragon 7+ Gen 3 เป็นชิประดับกลาง-บน ของ Qualcomm ที่ได้รับการอัปเกรดใหม่จากชิป 7 Gen 3 เดิม ให้มีประสิทธิภาพใกล้กับซีรีย์ 8 มากขึ้น รองรับการประมวลผล AI on Device ได้ โดยมีคะแนนทดสอบ Antutu Benchmark ประมาณ 1.4 – 1.7M และทำงานร่วมกับ RAM LPDDR5x 12GB เพราะฉะนั้นในแง่การเล่นเกมก็บอกได้ว่า เล่นได้เกือบทุกเกมที่มีให้เล่นตอนนี้ ส่วนการทำงานก็หายห่วงครับด้วยสเปกมาระดับนี้สามารถสลับหน้าต่างทำงานไปมาได้ไหลลื่น ผมลองเปิด 5-7 แอปฯ แต่งภาพและดูหนังและลองสลับหน้าต่างแอปฯ ไป-มา บอกเลยว่า สลับได้ลื่น ๆ เลยล่ะ

Alldocube iPlay 70 mini Ultra มี “Game Mode” ซอฟต์แวร์ช่วยบริหารจัดการทรัพยากรบนตัวเครื่องขณะเล่นเกมมาให้ด้วย โดยเป็นเกมโหมดที่ลูกเล่นไม่เยอะ ไม่ต้องตั้งค่ามากมาย ใช้งานง่ายมาก ๆ มี 3 คุณสมบัติให้เลือกใช้ ประกอบด้วย 

GAME MODE 

— ประสบการณ์เล่นเกมบน Alldocube iPlay 70 mini Ultra เป็นอย่างไร?

ในการทดสอบการเล่นเกมครั้งนี้ ผมเลือกเกมมาทดสอบด้วยกันทั้งหมด 3 เกม คือ Garena Delta Force, PUBG และ LORDNINE เกมแนว FPS, Battle Royal และ MMO (ตามลำดับ) ซึ่งทั้งสามเกมจะมีความต้องการในด้านการตอบสนองการเล่นที่แตกต่างกัน ทำให้สามารถทดสอบเรื่องของ “Scenario” การเล่นเกมได้ดีทีเดียวครับ และที่สำคัญ ทั้งสามเกมที่เลือกมาจะมีการรีเควสทรัพยากรตัวเครื่องที่มากพอสมควร ดังนั้นถ้าหากอุปกรณ์ไม่แรงพอ ก็อาจมีออกอาการให้เห็นแน่ ๆ

» PUBG
Style game : Battle Royal

เริ่มที่เกมแรกกับ PUBG เกมสไตล์ตะลุมบอนเอาตัวรอด Battle Royal เป็นเกมที่ผมหยิบมาเพื่อนำมาทดสอบประสิทธิภาพเล่นเกมในภาพรวม โดยก่อนเริ่มเกมผมได้ทำการเปิดการตั้งค่ากราฟิกเป็นระดับสูงทั้งหมด ซึ่ง Alldocube iPlay 70 mini Ultra ก็สามารถปรับค่ากราฟิกได้สูงสุดของตัวเกม คือ ระดับ Ultra สำหรับประสบการณ์การเล่นเกม ด้านภาพบนหน้าจอให้สีสันภาพที่สดและคมชัด สามารถเล่นกลางแจ้งแล้วยังมองเห็นคอนเทนต์บนจออยู่ประมาณ 30-40% รวมทั้งสามารถตอบสนองต่อการแตะยิงหรือลากเคอเซอร์ เพื่อมูฟตัวละครได้ทันใจอยู่ครับ แต่ก็ยังมีบางครั้งที่ต้องแตะลากซ้ำอยู่เหมือนกัน ส่วนการประมวลผลกราฟิกหรือการเรนเดอร์ฉากต่าง ๆ ในเกม รวมถึงการแสดงผล HDR ทำได้ไวเลยทีเดียว 

» GARENA Delta Force
Style Game : FPS

เกมที่สอง GARENA Delta Force เป็นเกมแนวสไตล์ FPS ซึ่งจะมีการเอฟเฟ็กต์ระเบิด, ควัน, กระสุน และอาวุธต่าง ๆ ที่ใช้พร้อมกันมากในเกม ดังนั้นถ้านำมาทดสอบการเล่นเกมในด้านความไวในการตอบสนอง “Touch & Shot” และความแรงในการที่ต้องเรนเดอร์ไอเทมและฉากต่าง ๆ พร้อมกันหลาย ๆ ชิ้นแบบเรียลไทม์ เป็นอะไรที่เหมาะดีทีเดียว ซึ่งผลหลังเล่นไป 4 เกม ใช้เวลา 2 ชั่วโมง บนตัวเครื่อง Alldocube iPlay 70 mini Ultra ก็ให้ประสบการณ์การเล่นที่ผ่านตามเกณฑ์ที่ผมตั้งใจจะทดสอบ คือ เล่นได้สนุก ได้อรรถรส จอสีสันคม การเรนเดอร์กราฟิกต่าง ๆ ก็เอาอยู่ ทำได้เรียลไทม์ ส่วนระบบเสียง ถ้าเราเปิด DTS Sound โหมดเกม ก็จะเพิ่มมิติของเสียงยิงและระเบิดขึ้น ซึ่งในภาพรวมก็ถือว่าเก่งทีเดียวครับสำหรับสมาร์ทแท็บเล็ตตัวนี้

» LORDNINE
Style Game : MMO

เกมสุดท้ายที่หยิบมาทดสอบคือ LORDNINE เกมใหม่ที่พึ่งเข้า Play Store ตัวเกมจะเป็นแนว MMO และออนไลน์เก็บเลเวลด้วย ดังนั้นจึงตั้งใจหยิบมาเล่นเพื่อทดสอบด้านการรับส่งสัญญาณเครือข่ายและกราฟิกเอฟเฟ็กต์สกิลต่าง ๆ ของตัวละครเป็นพิเศษ ด้วยการที่ตัวเกมเป็นแบบเก็บเลเวล เดินเควส จึงไม่ได้ทดสอบการแตะสัมผัสและอัตราการตอบสนองเหมือนสองเกมที่ผ่านมา แต่ในส่วนของการรับส่งสัญญาณ เมื่อเล่นไปสักพัก เข้าสู่ชั่วโมงที่ 2 สัญญาณเครือข่าย (Wi-Fi) จะเริ่มมีสวิงให้เห็น แต่ไม่ถึงขั้นหลุดออกจากเกม ส่วนการประมวลผลด้านกราฟิกเวลาลงสกิลแบบสแปมสกิลเยอะ ๆ ก็มี FPS ร่วงให้เห็นเหมือนกันครับ แต่ภาพรวมก็ไม่ได้ส่งผลต่ออรรถรสในการเล่นมากเท่าไร ดังนั้นส่วนตัวผมให้ผ่านนะ

— ระบบระบายความร้อนขนาดใหญ่

Alldocube iPlay 70 mini Ultra มีขนาดพื้นที่ Cooling บนตัวเครื่องรวมมากถึง 24,570 ตารางมิลลิเมตร โดยเลือกใช้วัสดุสองตัวช่วยกันจัดการอุณหภูมิบนตัวเครื่อง ซึ่งประกอบด้วย VC (Vapor Chamber) และแผ่นกราฟีน (Graphene Sheets) จากที่ผมลองทดสอบเล่นเกมที่ต้องใช้ทรัพยากรตัวเครื่องสูงอย่าง Delta Force และ LORDNINE ติดต่อกันประมาณ 2 ชั่วโมง ก็รู้สึกว่าตัวเครื่องอยู่ในระดับอุ่น ๆ สามารถถือเล่นต่อได้ครับ ก็ถือว่าทำได้ดีอยู่นะในเรื่องของการควบคุมความร้อน

— Gaming Set : Alldocube GamePad JoyStick

อีกหนึ่งความครบเครื่องด้านเกมมิ่ง! กับ Alldocube GamePad JoyStick ที่จะมากับเซ็ตขาย สามารถนำมาเชื่อมต่อกับตัวแท็บเล็ต iPlay 70 mini Ultra ผ่านพอร์ต USB-C เพื่อใช้เป็นจอยในการควบคุมและเล่นเกมบนเครื่องได้ เพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมผ่านแท็บเล็ตให้เหมือนเราเล่นบน Game Handheld หรือเครื่องเล่นเกมพกพา เลยก็ว่าได้ รองรับการใช้งานร่วมกับเกมยอดนิยมอย่าง ROV, PUBG, EA Football, Call of Duty หรือ Delta Force และเกมอื่น ๆ บน Google Play Store เกือบทุกเกม

เชื่อมต่อการเล่นเกมกับจอยสติ๊กด้วยการกด FN + Y ในหน้าเกม

— ระบบเสียงเสียง DTS พร้อมลำโพงคู่เสียงรอบทิศทาง

ในด้านความบันเทิง Alldocube iPlay 70 mini Ultra นอกจากจะมีจอที่เหมาะสมต่อการรับชมคอนเทนต์ที่เล่าไปแล้ว ในด้านของระบบเสียง ยังเลือกใช้ระบบเสียง DTS ทำงานร่วมกับลําโพงคู่ เพื่อให้เสียงรอบทิศทาง เพิ่มความคมชัดและพลังเบสให้หนักแน่นยิ่งขึ้นด้วย Smart PA amplifier ดังนั้นเมื่อต้องพักผ่อนแท็บเล็ตก็สามารถตอบโจทย์และให้อรรถรสในการรับชมรับฟังคอนเทนต์ได้ดีทีเดียวครับ

— Learn & Work ทำงานหรือเรียนก็ลงตัว และมี AI จาก Google เป็นผู้ช่วย

ด้านการเรียนและการทำงาน ถึงแม้จะไม่ใช่จุดเด่นหลักของ Alldocube iPlay 70 mini Ultra แต่ตัวเครื่องก็สามารถตอบรับความต้องการเมื่อจำเป็นต้องนำมาใช้เรียนหรือทำงานได้เหมือนกันครับ เพียงแต่ด้วยขนาดหน้าจอที่อาจจะไม่เหมาะสำหรับการทำงานในสายครีเอเตอร์หรือการเรียนออนไลน์ ที่จำเป็นต้องใช้พื้นที่หน้าจอในการดูภาพ วิดีโอ หรือจดโน็ตต่าง ๆ พร้อมกับรับชมคอนเทนต์การสอนไปด้วย

แต่ในด้านประสิทธิภาพบอกเลยว่า เมื่อต้องใช้งานตัวเครื่องก็พร้อมที่จะตอบสนอง! สามารถรันได้ทุกแอปฯ สายทำงานหรือเรียน แถมยังเรนเดอร์ไฟล์วิดีโอ FHD จากแอปฯ ตัดต่อได้ไวเลยล่ะ นอกจากนี้ด้วยการที่ตัวชิป Snapdragon 7+ Gen 3 มี NPU ในตัวเลยสามารถใช้งานร่วมกับ AI จาก Google อย่าง Gemini ได้ต่อเนื่องและไหลลื่น

ผลการทดสอบประสิทธิภาพด้วย Antutu Benchmark

⇑ ย้อนกลับไปเลือกหัวข้อ

Battery

แบตเตอรี่เยอะจุใจ ใช้งานต่อเนื่องยาวนาน

Alldocube iPlay 70 mini Ultra มากับแบตเตอรี่ Li-on ความจุ 7300mAh รองรับชาร์จเร็ว 20W โดยทาง Alldocube ให้ตัวเลขจากห้องแล็บว่า สามารถเล่น Music Streaming ได้ต่อเนื่อง 60 ชั่วโมง, เล่นวิดีโอต่อเนื่องได้ 16 ชั่วโมง, วิดีโอสตรีมมิ่งต่อเนื่อง 14 ชั่วโมง และเล่นเกมต่อเนื่อง 5-7 ชั่วโมง ซึ่งเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับการใช้งานจริงที่ผมได้ทดสอบไว้ สามารถเล่นเกมต่อเนื่องจนขึ้นเตือนก่อนแบตฯ หมดประมาณ 4-5 ชั่วโมง และรับชมสตรีมมิ่งวิดีโอต่อเนื่องประมาณ 10-12 ชั่วโมงครับ ก็ถือว่าเป็นแท็บเล็ตที่มากับแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวัน 

⇑ ย้อนกลับไปเลือกหัวข้อ

Wrap-up

Alldocube iPlay 70 mini Ultra แท็บเล็ตจอลื่น ภาพสวย ชิปแรง คล่องตัว

บทสรุปสำหรับ Alldocube iPlay 70 mini Ultra จากที่ได้คลุกคลีใช้งานตัวเครื่องมาประมาณ 1 สัปดาห์ ในภาพรวมก็รู้สึกดีกับแท็บเล็ตตัวนี้พอสมควรครับ และรู้สึกว่าคุ้มค่าและน่าใช้กว่าบางดังบางแบรนด์ในระดับเดียวกันด้วย โดยสิ่งที่ผมประทับใจจนกล้าเอ่ยว่าดีกว่าบางแบรนด์ ก็คือ ประสบการณ์ใช้งานที่ใกล้เคียงกับ Pure Android มาก ๆ โดยเฉพาะในแง่ของ bloatware หรือแอปฯ ที่เราไม่ต้องการ ก็ไม่มีมาให้เห็นตั้งแต่เปิดเครื่องเลย ทางแบรนด์ไม่มีการยัดเซอร์วิสของตนเองอย่างพวกสโตร์, แอปพลิเคชั่นไม่ได้ใช้ หรือเกมที่ไม่ได้เล่นมาให้ เปิดมาทุกอย่างก็ใช้ของ Google Service เกือบทั้งหมด

อีกเรื่องก็คือ เรื่องของโฆษณากวนใจ ที่ปกติถ้าหากใช้แท็บเล็ตที่อัดสเปกมาแบบนี้และจำหน่ายในราคาคุ้ม ๆ สิ่งที่ผมบอกตัวเองไว้ก็คือ ต้องเตรียมใจว่าน่าจะได้เจอก็คือ ‘โฆษณา’ ที่มักจะถูกยัดเข้ามาทดแทนรายได้จากส่วนตัวค่าเครื่องที่หายไป แต่สำหรับ Alldocube iPlay 70 mini Ultra ไม่พบอะไรแบบนั้นเลยครับ ตลอดการใช้งานไม่เจอ Ads อะไรเด้งมาให้รำคาญใจเลย

สำหรับประสบการณ์การใช้งาน ในด้านการเล่นเกมตัวเครื่องมากับสเปกที่เพียงพอกับการเล่นเกมเกือบทุกเกมบน Google Play Store แล้วล่ะครับ รวมทั้งยังสามารถประมวลผลและตอบสนองต่อเกมยอดนิยมต่าง ๆ เช่น ROV, PUBG, Delta Force, Call of Duty และอื่น ๆ ได้ระดับกลาง – สูง เลยทีเดียว นอกจากนี้ด้วยขนาดตัวเครื่องที่มากับจอ 8.8 นิ้ว ส่วนตัวผมรู้สึกว่าเป็นขนาดที่กำลังพอดีกับการเล่นเกมนอกบ้าน และเมื่อใช้งานร่วมกับจอยสติ๊กที่มาในเซ็ตยิ่งให้ฟิลการเล่นเหมือนพวก Handheld พอสมควร ในภาพรวมกับการเล่นเกมผมให้ผ่านนะ! สมราคา และสมกับที่เขาขายเรื่องการเป็นแท็บเล็ตสำหรับการเล่นเกม

สำหรับการใช้เป็นอุปกรณ์เรียนและทำงาน ส่วนตัวรู้สึกว่า อาจจะเหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่ต้องมูฟหรือเคลื่อนย้ายตลอดวันมากกว่า เช่น พกติดตัวไปอ่านเนื้อหาเรียน, ใช้โน็ตเนื้อหาในคลาสเรียน หรือต้องเดินทางแล้วมีแก้เอกสารงาน ส่งอีเมล์ ด้วยข้อจำกัดด้านขนาดจอที่อาจจะเหมาะกับไลฟ์สไตล์เหล่านี้มากกว่า ส่วนด้านประสิทธิภาพทำได้สบายอยู่แล้วสำหรับไลฟ์สไตล์เรียนและทำงาน 

สุดท้ายคือด้านการพักผ่อน ด้วยสเปกจอที่ให้มา, มีลำโพงสเตอริโอ และติดตั้งซอฟต์แวร์เสียง DTS มาให้ด้วย ดังนั้นถ้าจะใช้ดูหนัง ฟังเพลง ผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งต่าง ๆ ในช่วงพักผ่อน Alldocube iPlay 70 mini Ultra ก็สามารถให้ประสบการณ์พักผ่อนมาตรฐานของแท็บเล็ตได้ดีเลยล่ะครับ แถมยังมีความคล่องตัวใช้พื้นที่ในการวางน้อย และสามารถถือรับชมรับฟังนาน ๆ ก็ได้ เป็นความบันเทิงฉบับพกพาก็ว่าได้

เมื่อรวมทั้งหมดเข้าด้วยกัน Alldocube iPlay 70 mini Ultra เป็นแท็บเล็ตที่ “จอลื่น ภาพสวย ชิปแรง คล่องตัว” ไปได้กับทุกไลฟ์สไตล์ และเป็นสมาร์ทแท็บเล็ต Android อีกแบรนด์ที่ผมเชื่อว่า จะให้ประสบการณ์ใช้งานในส่วนของ UI กับทุกคนได้ดีทีเดียวครับ ใครที่อยากได้แท็บเล็ตขนาดพกพา มีสเปกที่พร้อมตอบรับทุกการใช้งานในระดับกลาง บนราคาสมเหตุสมผล ก็อยากให้ลองเปิดใจกับน้องคนนี้จาก Alldocube ดูครับ รับรองว่าจะทำให้คุณยิ้มแน่นอน

⇑ ย้อนกลับไปเลือกหัวข้อ

Price & Availability

ราคา การวางจำหน่าย และโปรโมชัน

Alldocube iPlay 70 mini Ultra พร้อมให้เป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ ในราคา 12,990 บาท โดยจะวางจำหน่ายเป็นเซ็ต ซึ่งภายในเซ็ตจะมากับอุปกรณ์ ดังนี้

วางจำหน่ายผ่านทางหน้าร้าน True , BaNANA และร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศใกล้บ้านคุณ รวมถึงช่องทางออนไลน์

— บริการหลังการขาย

รับประกันสินค้า 12 เดือน หรือ 1 ปี เสียส่งซ่อมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย สามารถแจ้งเคลมได้ทั้งแบบออฟไลน์ผ่านศูนย์บริการ realme service 17 สาขาทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ผ่าน LINE Official @alldocube.th

#Alldocube #iPlay70miniUltra #แรงเต็มสปีดเกมไหนก็โดน

⇑ ย้อนกลับไปเลือกหัวข้อ

—————
▶︎ อัปเดตข่าวสาร และบทความต่างๆ
คลิกดูต่อที่ insight-daily.com ได้เลย!

Exit mobile version