Insight Daily

รีวิว OPPO A78 สมาร์ตโฟนจอ AMOLED 90Hz หน่วยความจำเยอะจุใจ 256GB มีชาร์จเร็ว SuperVOOC 67W

OPPO A78 สมาร์ตโฟนน้องใหม่ในซีรีย์ A ของ OPPO ประเทศไทย หรือจะบอกว่าเป็น OPPO A78 4G ก็ได้ครับ เพราะตัวเครื่องรุ่นนี้รองรับการใช้งานบนเครือข่าย 4G LTE เท่านั้น

แต่ถึงอย่างนั้นทาง OPPO ก็จัดสเปกมาให้ใหม่ ซึ่งมีอัปเกรดคุณสมบัติและฮาร์ดแวร์ทดแทนการหายไปของ 5G หลายจุดพอสมควร อัปเกรดจนรุ่นพี่อย่าง OPPO A78 5G อาจมีงอลกันเลยทีเดียว เอาเป็นว่าเราไปส่องรายละเอียดของ OPPO A78 พร้อมกันครับ! รับรองว่าอาจมีลังเลใจกันแน่นอน

สเปกตัวเครื่อง | SPEC

 


อุปกรณ์ภายในกล่อง

รอบตัวเครื่อง | DESIGN

 

OPPO A78 มาพร้อมการออกแบบตัวเครื่องภายใต้คอนเซ็ปต์ “Ultra Slim Retro” กับการผสมผสานงานออกแบบตัวเครื่องสไตล์เรโทรที่ใช้ขอบตัวเครื่องทั้งสี่เป็นเหลี่ยมเข้ากับตัวเครื่องที่บางเบา และสามารถถือจับใช้งานได้กระชับมือ

ด้านหน้าตัวเครื่องมาพร้อมหน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD+ มีค่า Refresh rate 90Hz และมีค่า Peak Touch Sampling rate อยู่ที่ 180Hz ให้ความสว่างได้สูงสุดที่ 600 nits

ขยับขึ้นไปที่มุมซ้ายบนของหน้าจอจะเป็นตำแหน่งของกล้องหน้าความละเอียด 8MP (F2.0)

ด้านซ้ายตัวเครื่อง มีช่องถาดซิมการ์ด ซึ่งรองรับการใช้งานซิมการ์ดได้สองซิม และ MicroSD Card โดยสามารถใส่ใช้งานพร้อมกันได้

ด้านขวาตัวเครื่อง มีปุ่มกดปรับระดับเสียงเพิ่มลด (Volume) และปุ่มเปิดปิดตัวเครื่อง (Power)

ด้านล่างตัวเครื่อง มีรูชุดหูฟังขนาด 3.5  มิลลิเมตร, พอร์ต USB-C และลำโพงเสียงสเตอริโอ

ส่วนด้านหลังตัวเครื่องของ OPPO A78 โมดูลกล้องทั้งสองได้รับการจัดวางในแนวตั้ง เพื่อสร้างรูปลักษณ์ที่สมดุลยิ่งขึ้น กล้องอยู่ภายในแผงวงรีที่มีพื้นผิวตัดกันเพื่อเพิ่ม โดยครั้งนี้ทาง OPPO ติดตั้งกล้องถ่ายรูป Dual Camera ความละเอียด 50MP + 2MP พร้อมไฟแฟลช LED มาให้

QUALITY PERFORMANCE | ประสิทธิภาพการใช้งานที่สมราคา

 

OPPO A78 มาพร้อมฮาร์ดแวร์ที่ส่วนตัวผมมองว่าคุ้มและสมราคาครับ เพราะเมื่อมองภาพรวมของสเปกก็ถือว่าทาง OPPO ประเทศไทย พยายามใส่สเปกมาให้คุ้มและสมราคาค่าตัวที่สุดแล้วล่ะครับ โดยรอบนี้ทางออปโป้เลือกใช้ชิปประมวลผลที่เป็นหัวใจในการทำงานของสมาร์ตโฟนเป็นมังกรแดง CPU Snapdragon 680 ซึ่งเป็นชิปเซ็ต 4G LTE ที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานในระดับกลางของแบรนด์ Qualcomm 

ทำงานร่วมกับ RAM 8GB LPDDR4x และ ROM 256GB UFS 2.2 ด้านซอฟต์แวร์ทำงานบน ColorOS 13.1 Base on Android 13 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดของ ColorOS ดังนั้นก็จะได้รับอินเทอร์เฟซใหม่ของเมนูต่าง พร้อมกับฟีเจอร์บน Android 13 มาใช้งานด้วย

อินเทอร์เฟซของ ColorOS 13.1 Base on Android 13

นอกจากนี้ทาง OPPO ยังได้พัฒนาระบบ “Dynamic Computing Engine” โซลูชันทางเทคนิคที่ OPPO พัฒนาขึ้นเองสามารถเพิ่มความเร็วในการเปิดแอปได้มากถึง 1.42% และยังช่วยให้แอปต่างๆ มากถึง 19 แอป ทำงานในพื้นหลังได้ ดังนั้นเราจึงสามารถใช้งานข้ามไปมาระหว่างแอปได้ลื่นขึ้น 

คะแนนการทดสอบประสิทธิภาพด้วยแอปพลิเคชั่น

RAM EXPANSION (8GB) | เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานขึ้นอีก

 

ยังคงอยู่กันที่เรื่องของประสิทธิภาพการทำงาน OPPO A78 นอกจากมีฮาร์ดแวร์ที่ดีแล้ว ยังได้ฟีเจอร์ “RAM Expansion” ติดมาด้วย ซึ่งคุณสมบัติของฟีเจอร์นี้ก็คือ การที่เราสามารถเลือกเพิ่มขนาดความจุของพื้นที่ RAM ให้มากขึ้นจากเดิมได้

ซึ่งของเดิมทาง OPPO ก็ใส่มาให้มากถึง 8GB แล้วนะครับ ถ้าใช้งานทั่วไปอย่างเช่น เล่นโซเชียล, ดูหนังออนไลน์ หรือเล่นแอปพลิเคชั่นต่าง ตลอดจนเล่นเกมทั่วไปก็สามารถใช้งานได้สบายมาก แต่ถ้าหากเรามีอีเว้นซ์ที่ต้องการยกระดับการใช้งานให้สูงขึ้นอีก เพื่อตอบสนองต่อกิจกรรมที่จะทำเช่น ใช้แอปพลิเคชั่นหลายแอปฯ ในการทำงาน, การเปิดแอปฯ ประเภท Editor ภาพหรือวีดีโอ รวมไปถึงการเล่นเกมที่ต้องใช้ทรัพยากรมาก เป็นต้น

ฟีเจอร์ RAM Expansion ก็จะเข้ามาช่วยตอบโจทย์ในกิจกรรมเหล่านี้ได้ทันที ซึ่งเราสามารถเลือกปรับเพิ่มขนาดความจุของ RAM จากฟีเจอร์นี้ได้ด้วยกันทั้งหมด 3 ความจุ คือ 4GB, 6GB และสูงสุดที่ 8GB

AMOLED DISPLAY | หนึ่งเดียวในเรทราคานี้ 

 

หน้าจอแสดงผลเป็นสัมผัสแรกที่ประทับใจของผมกับเจ้า OPPO A78 เลยล่ะครับ เพราะครั้งแรกที่เปิดเครื่องเข้าสู่หน้าจอหลัก พอเห็นหน้าจอแล้วก็รู้สึกว่า โอ้ว! เป็นสมาร์ตโฟนราคาหลักพันปลาย ที่หน้าจอที่สวย สีสันสดใส และคมชัดดีมากเลย พอมาดูคุณสมบัติของหน้าจอที่ทาง OPPO ใส่มาให้ครั้งนี้ก็ไม่ประหลาดใจแล้วล่ะครับ เพราะ OPPO A78 ได้รับการติดตั้งหน้าจอแสดงผลพาแนล AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว บนความละเอียดระดับ FHD+ มาให้เลย

ซึ่งจะแตกต่างจากรุ่น 5G ที่ใช้พาแนล LCD รวมทั้งยังใส่ระบบสแกนนิ้วมือบนหน้าจอที่มีความไวต่อการสแกนมาให้ด้วย ซึ่งเป็นรุ่นแรกของตลาดสมาร์ตโฟนในช่วงราคานี้ ตอนนี้ที่ใส่หน้าจอ AMOLED และระบบสแกนนิ้วมือบนหน้าจอมาให้

คุณสมบัติเพิ่มเติมของหน้าจอแสดงผล OPPO A78

67W SuperVOOC | ชาร์จไว 67W พร้อมแบตเตอรี่ที่ใหญ่

 

ในด้านพลังงาน OPPO A78 มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดความจุ 5000 mAh และมาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จไว SuperVOOC 67W ทั้งระบบเลย ซึ่งตรงจุดนี้แหละครับที่เป็นคีย์พอยต์ของรุ่นนี้เลย เพราะนอกจากจะได้แบตเตอรี่ขนาดความจุมาตรฐานของสมาร์ตโฟนในยุคนี้แล้ว ยังได้เทคโนโลยีชาร์จไวที่ปกติทาง OPPO จะใส่ไว้ใน Reno Series ขึ้นไปมาด้วย และยังได้มากถึง 67W เลย ซึ่งทาง OPPO เคลมไว้ว่า สามารถชาร์จ 5 นาที ได้พลังงานกลับเข้าเครื่องประมาณ 19% และชาร์จเต็ม 100% ภายในเวลาประมาณ 44 นาทีเท่านั้น 

คุณสมบัติเทคโนโลยีชาร์จไว SuperVOOC 

จากประสบการณ์การใช้งานมา 3 วันเต็ม ในด้านการควบคุมทรัพยากรบนตัวเครื่องให้มีการกินไฟน้อยของซอฟต์แวร์ ColorOS ส่วนตัวผมคิดว่าทำได้ดีขึ้นจากรุ่นก่อน เยอะเลยนะครับ ซึ่งผมได้นำตัวเครื่องไปทดสอบใช้งานดู ส่วนตัวมองว่าในเรื่องของพลังงงานจัดอยู่ในเกณฑ์ปกติทั่วไปนะครับ ไม่ได้หวือหวาและก็ไม่ได้ซดแบตเตอรี่จนน่าเกลียด

โดยจากแบตเตอรี่เต็มร้อยในช่วงเช้าจนค่ำที่เดินทางกลับบ้าน ตัวเครื่องจะเหลือแบตเตอรี่โดยเฉลี่ยประมาณ 10-20% ตลอด 3 วันที่ได้ทดสอบ โดยไลฟ์สไตล์ของผมก็จะมีเล่นโซเชี่ยล ฟังเพลงสตรีมมิ่งในช่วงเดินทาง ช่วงพักก็มีหยิบมาเล่นเกมรออาหารที่สั่งบ้าง นอกนั้นก็มีรับสายโทรเข้า และคุย LINE ครับ ส่วนการชาร์จแบตฯ จากที่ลองทดสอบดูก็ใกล้เคียงกับที่ทาง OPPO เคลมไว้เลยครับ

Ultra Volume 200% & Stereo | ไปให้สุดในด้านเสียง

 

ในด้านความบันเทิงนอกจากการรับชมคอนเทนต์ภาพยนต์ ซีรีย์ บนจอแสดงผล AMOLED ที่ให้สีสันสวยคมชัดแล้ว OPPO A78 ยังมาพร้อมคุณสมบัติด้านเสียงที่ดี ทำให้การรับชมคอนเทนต์ได้อรรถรสมากขึ้น โดย OPPO A78 มีคุณสมบัติด้านเสียง

กล้องถ่ายรูป Dual camera 50MP | ถ่ายสนุก ลูกเล่นเยอะ

 

OPPO A78 มาพร้อมกล้องถ่ายรูป Dual Camera ประกอบด้วย กล้องหลักความละเอียด 50MP (F1.8) เป็นเซอร์เซอร์ขนาด 1/1.27″ และกล้อง Depth ความละเอียด 2MP (2.4) เซอร์เซอร์ขนาด 1/5″ มีซอฟต์แวร์ AI Camera ช่วยปรับแต่งภาพให้หลังถ่าย

และมีโหมดการถ่ายภาพที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันครบ เช่น โหมดถ่ายกลางคืน, โหมด Portrait, ฟิลเตอร์สี, Retouch และโหมดถ่ายภาพความละเอียดสูง 108MP (Ultra Clear Image) และ 50MP (High-res)

ภาพถ่ายจากกล้อง OPPO A78

กล้องหน้าความละเอียด 8MP (F2.0)

ภาพจากกล้องหน้าความละเอียด 8MP (F2.0)

Conclusion | สรุป

 

OPPO A78 ในมุมมองของผมหลังจากที่ได้ใช้งานมา 3 วันเต็ม ผมมองว่า เป็นสมาร์ตโฟนที่ทาง OPPO ประเทศไทย นำมาจำหน่ายเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าของแบรนด์ที่ชื่นชอบใน A Series แต่ยังไม่อยากขยับไปใช้งานเครือข่าย 5G โดยเฉพาะครับ และการที่จะตัดคุณสมบัติการรองรับเครือข่าย 5G ออกไปอย่างเดียวแล้วมาวางขายเลย คงไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีแน่นอน

ดังนั้นทาง OPPO จึงแต่งหน้าทาปากให้กับเจ้า OPPO A78 ด้วยการจัดสเปกแน่น ใส่มาให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นจอ AMOLED และระบบสแกนนิ้วมือบนหน้าจอ ที่ในตลาดช่วงราคา 8,000 – 9,000 บาท ยังไม่มีแบรนด์ตลาดเจ้าไหนที่กล้าใส่มาให้ (แต่คิดว่าสักพักก็คงมี) ไหนจะได้หน่วยความจำ (ROM) ขนาด 256GB มาอีก

รวมถึงเทคโนโลยีชาร์จไว SuperVOOC 67W ที่ปกติน่าจะอยู่ใน Reno Series ก็จับใส่มาให้ ขนาดรุ่น OPPO A78 5G ยังได้แค่ 33W เลย จึงทำให้ภาพรวมของ OPPO A78 เป็นหนึ่งในสมาร์ตโฟนช่วงราคาไม่เกิน 9,000 บาท ที่น่าสนใจสำหรับเพื่อน ที่มองหามือถือ 4G พร้อมสเปกแน่น ในช่วงราคานี้ครับ

จุดเด่นของ OPPO A78


จุดสังเกตของ OPPO A78

PRICE & PROMOTION | ราคาและการวางจำหน่าย

 

OPPO ประเทศไทย วางจำหน่าย OPPO A78 ในราคา 8,999 บาท มีสีตัวเครื่องให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 2 สี คือ สีดำ Mist Black (ในบทความรีวิว) และสีเขียว (Aqua green) มีโปรโมชั่นเมื่อซื้อ OPPO A78 ในช่วงวันที่ 13 – 31 กรกฎาคม 2566 รับฟรีของสมนาคุณ OPPO Mini Suitcase มูลค่า 1,299 บาท 

ขอบคุณ OPPO ประเทศไทย

Exit mobile version