Insight Daily

รีวิว vivo Y39 5G สมาร์ตโฟนหน้าจอ 120Hz แบตเตอรี่ 6500mAh ทนทานรอบด้าน เอาอยู่ ทุกความท้าทาย!

vivo Y39 5G สมาร์ตโฟน ‘Y Series’ รุ่นล่าสุดของ vivo ประเทศไทย ที่เพิ่งเปิดตัวและวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการรับต้นไตรมาส 2 ประจำปี 2568 พอดี โดยเตรียมมาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับลูกค้าแฟนคลับของ vivo ที่กำลังมองหามือถือ vivo เครื่องใหม่สำหรับใช้งานในช่วงปีใหม่ของไทยด้วย

ในภาพรวม vivo Y39 5G ยังคงเอกลักษณ์ของ Y Series เช่นเคย กับความคุ้มค่า คุ้มราคา และเป็นสมาร์ตโฟนที่เน้นมอบประสบการณ์การใช้งานในทุกมิติให้กับลูกค้าเป็นหลัก ดังนั้นจึงไม่ได้มีการใส่ลูกเล่นหรือฟีเจอร์การใช้งานที่แพรวพราวเหมือนในรุ่นพี่ แต่จะมุ่งเน้นไปในจุดที่จำเป็นต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันมากกว่า

อย่างเช่น เรื่องของแบตเตอรี่ที่ต้องเพียงพอและใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน ความทนทานต่อการใช้งานหลากหลายรูปแบบ รวมถึงหน้าจอแสดงผลที่ต้องตอบรับทุกโจทย์เวลาแสง สามารถใช้ได้ทั้งกลางวันท่ามกลางแดดจัด หรือกลางคืนที่เน้นความเป็นส่วนตัว ซึ่งทั้งหมดที่เกริ่นมานี่แหละครับ คือตัวตนของ vivo Y39 5G สมาร์ตโฟนที่ ‘เอาอยู่ ทุกความท้าทาย’ ที่เรากำลังพาไปจะรู้จักกันในบทความรีวิวนี้

เลือกอ่านตามหัวข้อ

1. Design / งานออกแบบ
2. Battery / แบตเตอรี่
3. Durability / ความทนทาน
4. Entertainment / ความบันเทิง
5. Performance / ประสิทธิภาพ
6. Camera / กล้องถ่ายรูป
7. Conclusion / บทสรุป
8. Price & Availability / ราคาและการวางจำหน่าย


 /   สเปกตัวเครื่องของ vivo Y39 5G 

    อุปกรณ์ภายในกล่อง 

ย้อนกลับไปเลือกหัวข้อ


 / Design   ดีไซน์สวย ทันสมัย พรีเมียม จับมุมไหน… ก็เอาอยู่ 

vivo Y39 5G มากับงานออกแบบตัวเครื่องตามปรัชญา “โฉบเฉี่ยว ทันสมัย” กับการผสมผสานงานศิลป์ระหว่างความแปลกใหม่กับความสวยพรีเมียมตามสไตล์ของ vivo ที่เป็นเอกลักษณ์เข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัวเลยทีเดียวครับ พอเห็นแล้วก็ชวนนึกถึง vivo V30e 5G สมาร์ตโฟน vivo ที่ออกแบบได้สวยและโฉบเฉี่ยวสไตล์เดียวกัน และก็รู้สึกถึงการพัฒนาและเติบโตขึ้นจากตอน vivo Y28 ด้วย ตอนนั้นก็รู้สึกว่าสวยแล้วนะ พอมาจับ vivo Y39 5G ตอนนี้ อื้ม… สวยขึ้นมากเลย

โดย vivo Y39 5G มาพร้อมกับออปชันสีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 2 สี คือ

ในด้านการถือจับใช้งานตัวเครื่องก็ต้องชมว่า vivo ทำการบ้านมาดีทีเดียว ออกแบบให้ตัวเครื่องเบาบาง เฟรมตัวเครื่องเป็นแบบเงา และฝาหลังโค้งเป็นมุมเล็กน้อยประมาณ 40% ทั้งสี่ด้าน ทำให้สามารถหยิบจับได้สบายมือ และถือตัวเครื่องในแนวตั้งหรือแนวนอนก็ทำได้ถนัดมั่นใจและกระชับมือดีเยี่ยม

ด้านหน้ามากับจอแสดงผล LCD ขนาด 6.68 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD+ เป็นจอแสดงผลแบบ Flat หรือแบนราบ

บริเวณปุ่มกดเปิด-ปิดเครื่องทาง vivo ออกแบบให้แนบลงไปกับตัวเครื่อง ทำให้รู้สึกพรีเมียมพอสมควร 

ด้านหลังตัวเครื่องครั้งนี้ออกแบบโมดูลกล้องให้เป็นทรงกลมแบบเดียวกับสมาร์ตโฟนเรือธงของ vivo บริเวณรอบนอกตกแต่งด้วยลวดลายเพชรแบบ 2 ชั้น ที่มักพบบนนาฬิกาหรู ให้ความรู้สึกพรีเมียมและดูทันสมัยมากขึ้น ในขณะที่วงแหวนกล้องมีลักษณะคล้ายเซรามิก มีความเงางาม เพิ่มความโดดเด่นให้กับตัวกล้อง

ย้อนกลับไปเลือกหัวข้อ


 / Battery   แบตเตอรี่ BlueVolt 6500mAh ใช้งานยาวนาน เอาอยู่ตลอดวัน 

แบตเตอรี่เป็นจุดเด่นหลักของ vivo Y39 5G ในครั้งนี้เลยก็ว่าได้ครับ เพราะมากับขนาดความจุใหญ่ถึง 6500mAh ใช้เทคโนโลยี BlueVolt ของ vivo จึงทำให้ตัวเครื่องไม่ได้หนักและหนาตามขนาดของแบตเตอรี่ที่ใหญ่ และมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานกว่าแบตเตอรี่ทั่วไป จากการใช้ Silicon Carbon โดยทาง vivo การันตีให้เลยว่าในระยะเวลา 5 ปีที่ใช้งาน สุขภาพแบตเตอรี่จะไม่น้อยกว่า 80% แน่นอน แม้จะผ่านการชาร์จไปมากถึง 1,500 รอบก็ตาม

นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติลดความร้อนระหว่างการใช้งานด้วยแผ่นระบายความร้อนขนาดใหญ่ 30,000 ตารางมิลลิเมตร ที่ติดตั้งมากับตัวเครื่อง พร้อมกับมีระบบชาร์จ Smart Charging อัลกอริทึมช่วยถนอมแบตเตอรี่จากการชาร์จอัจฉริยะ และยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยระหว่างการชาร์จข้ามคืน ปรับแรงดันไฟตามความเหมาะสม ยืดอายุการใช้งาน และควบคุมความร้อน ไปจนถึงการหยุดชาร์จเมื่ออุณหภูมิสูงเกินไป

ประสบการณ์การใช้งานจริงที่ผมลองทดสอบนำ vivo Y39 5G ออกไปใช้งานในหนึ่งวัน เริ่มต้นออกจากบ้านด้วยแบตเตอรี่เต็ม 100% จากนั้นก็ใช้นำทางไปถ่ายงานรีวิว เปิดเพลงสตรีมมิงและต่อ Bluetooth ให้กับรถยนต์ฟังเพลงระหว่างเดินทาง พอถึงหน้างานก็เริ่มใช้งานกล้องถ่ายรูปเป็นหลัก ตามด้วยเปิดเกมให้น้องนางแบบเล่นพักเบรกในช่วงที่อากาศกำลังร้อนระอุ

ทดสอบใช้งานแบตเตอรี่ vivo Y39 5G ใน 1 วัน

โดยตลอดการใช้งานทั้งหมดผมเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi จาก Mobile Hotspot มือถืออีกเครื่องเป็นหลัก จนเลิกงานก็ขับรถกลับบ้าน มีใช้เปิดเพลงและนำทางกลับบ้านเหมือนเดิม จนถึงบ้านประมาณ 3-4 ทุ่ม แบตเตอรี่ก็เหลือให้ใช้งานมากถึง 73% เลยทีเดียวเป็นอะไรที่เยอะที่สุดตั้งแต่รีวิว vivo Y Series มานานหลายปีเลยครับ

ย้อนกลับไปเลือกหัวข้อ


 / Durability   ตัวเครื่องทนทาน แข็งแกร่ง เอาอยู่รอบด้าน 

vivo Y39 5G มากับโครงสร้างอลูมิเนียมที่มีคุณสมบัติในการดูดซับแรงกระแทก ช่วยลดความเสียหายของฮาร์ดแวร์ภายในตั้งแต่มุมของหน้าจอ เมมบอร์ด ไปจนถึงแบตเตอรี่ได้ เมื่อเกิดมีการตกหรือกระแทกขึ้นมา รวมทั้งตัวเครื่องยังทนทานต่อรอยขีดข่วนได้มากถึง 2,500 ครั้ง

ในขณะที่กระจกหน้าจอของ vivo Y39 5G ทาง vivo เลือกใช้กระจก SCHOTT Xensation® α กระจกกันกระแทกจากผู้ผลิตสัญชาติเยอรมัน ซึ่งได้รับการรับรองในด้านการต้านทานการร่วงหล่นจาก SGS ระดับ 5 ดาว (SGS Five-Star Overall Unit Drop Resistance Certification) และผ่านการทดสอบจากมาตรฐานการตกกระแทกทางทหารสหรัฐ (Military-Grade Certification) ด้วย การันตีเรื่องความแข็งแรง ทนทานได้เลยครับ

และนอกจากจะมาพร้อมฮาร์ดแวร์ในด้านการป้องกันและโครงสร้างที่แข็งแกร่งแล้ว ตัวเครื่องยังผ่านมาตรฐานการทนน้ำทนฝุ่น IP64 และสามารถแตะสัมผัสใช้งานหน้าจอได้ในขณะที่หน้าจอแสดงผลยังเปียกน้ำหรือนิ้วมือมีคราบน้ำมันหรือมีเหงื่อออกอยู่ด้วย เรียกว่าครอบคลุมทุกโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันมาก ๆ ครับ โดยเฉพาะพี่ ๆ ไรเดอร์ที่ต้องใช้งานสมาร์ตโฟนนอกสถานที่บ่อย อาจเจอทั้งฝุ่น ฝน หรือบางครั้งหยิบมือถือมาตอบงานถ่ายรูปอาจมีทำร่วงบ้าง ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ ช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น และยืดอายุการใช้งานตัวเครื่องได้ยาวนานขึ้นด้วยนั่นเองครับ

ย้อนกลับไปเลือกหัวข้อ


 / Entertainment   ครบเครื่องทั้งภาพและเสียง เอาอยู่ทุกโจทย์ความบันเทิง 

    ลำโพงสเตอริโอ ปรับเสียงดังสุด 400% 

vivo Y39 5G มาพร้อมลำโพงเสียงสเตอริโอคู่คุณภาพ Hi-Res Audio และสามารถปรับระดับเสียงได้ดังสุดถึง 400% Volume โดยเราสามารถเร่งระดับเสียงบนตัวเครื่องให้ดังกว่าปกติ (100%) ขึ้นได้อีก 2 ระดับ คือ 200% และไปสุดที่ 400% ได้ ซึ่งเสียงที่ขับออกมาผ่าน ลำโพงคู่สเตอริโอ ไม่มีอาการเสียงแตกแต่อย่างใด แต่มิติและรายละเอียดของเสียงจะดรอปลงจากระดับเสียง 100% เล็กน้อย ก็เป็นอีกฟีเจอร์ที่หลายคนน่าจะชอบกันครับโดยเฉพาะใครที่ชอบเปิดเพลงทำงานไปด้วย

    หน้าจอลื่น 120Hz สู้แสง พร้อมมาตรฐานการปกป้องดวงตา 

จอแสดงผลของ vivo Y39 5G เป็นอีกจุดเด่นที่ตอบโจทย์การใช้งานกลางแจ้งได้ดีทีเดียวครับ เพราะนอกจากจะเป็นจอแสดงผลขนาดใหญ่ 6.68 นิ้ว HD+ มีค่ารีเฟรชเรท 120Hz แล้ว ช่วงให้การมองข้อความเยอะ ๆ สมูธตาขึ้น อ่านง่ายแล้ว ตัวจอแสดงผลยังมีคุณสมบัติสู้แสง (High-brightness Display) ด้วย โดยมีค่าความสว่างสูงสุดที่ 1000nits เป็นค่าความสว่างที่สามารถใช้งานหน้าจอท่ามกลางแดดสุดเดือดของเมืองไทยแล้วยังคงมองคอนเทนต์บนหน้าจอเห็นอยู่

นอกจากนี้ตัวจอของ vivo Y39 5G ยังผ่านมาตรฐานแสงสีฟ้าต่ำจาก TÜV Rheinland ในด้านการป้องกันดวงตา และยังมาพร้อมเทคโนโลยีปกป้องดวงตาที่ช่วยลดแสงสีฟ้าและอาการเมื่อยล้าของดวงตาเมื่อใช้งานระยะเวลานานได้ ซึ่งประกอบด้วย

ย้อนกลับไปเลือกหัวข้อ


 / Performance   ชิปประมวลผล Snapdragon 4 Gen 2 หนักแค่ไหนก็เอาอยู่ 

หัวใจหลักของการประมวลผลทำงานในครั้งนี้ ทาง vivo เลือกใช้งาน CPU Snapdragon 4 Gen 2 ซึ่งเป็นชิปประมวลผล Octa-core ความเร็ว 2.2GHz ผลิตด้วยเทคโนโลยี 4nm ทำงานร่วมกับ RAM 8GB LPDDR4x และ ROM ขนาด 256GB UFS 3.1 ซึ่งตัว Type ของ ROM ครั้งแรกที่เห็นสเปกก็ตกใจเลย ไม่คิดว่าทาง vivo จะใส่ UFS 3.1 ที่มีค่า Read-write ที่สูงมาให้ใน Y Series

    อินเตอร์เฟซ Funtouch OS 15 บน vivo Y39 5G    

ดังนั้นแน่นอนว่า การประมวลผลบนตัวเครื่องตั้งแต่ระดับการใช้งานพื้นฐานไปจนถึงระดับแอดวานซ์อย่าง เล่นเกม, สตรีมมิ่ง หรือตัดคลิปสั้น FHD ทำได้สบาย สามารถประมวลผลแอปพลิเคชันพื้นหลังได้มากขึ้นและสลับใช้งานแอปฯ ต่าง ๆ ได้ต่อเนื่อง ดังนั้นประสบการณ์ในภาพรวมของการใช้งานเทียบกับสเปกตัวเครื่องก็นับว่า ‘ทำได้สมราคา’ และอาจมีเกินราคาไปเล็กน้อยด้วยครับ

กล่าวถึงการทำงานต่าง ๆ บนตัวเครื่องไปแล้ว ก็มาเล่าประสบการณ์ในมุมการเล่นเกมบน vivo Y39 5G กันบ้างครับ จากที่ได้ทดสอบเล่นเกมยอดนิยมอย่าง PUBG, Free Fire หรือ ROV บนตัวเครื่องไป ก็ไม่มีปัญหาอะไร ตัวเครื่องสามารถปรับการแสดงผลกราฟิกได้ในระดับ HD และมอบประสบการณ์การเล่นเกมได้สนุก การแตะการสัมผัสหน้าจอขณะเล่นมีอาการดีเลย์น้อยมาก ๆ ซึ่งก็เพียงพอที่จะทำให้เราเล่นเกมได้สนุกและไม่หัวร้อนครับ

นอกจากนี้ ยังมี Ultra Game Mode มาให้เราเลือกปรับแต่งทรัพยากรได้เองด้วย ซึ่งก็ช่วยให้ตัวเครื่องสามารถรีดเค้นประสิทธิภาพตอนเล่นเกมได้ดียิ่งขึ้น

    คะแนนทดสอบประสิทธิภาพด้วย Benchmark    

ย้อนกลับไปเลือกหัวข้อ


 / Camera   กล้องถ่ายรูป 50MP เอาอยู่ทุกช็อต ถ่ายสนุกทุกโมเมนต์ 

กล้องถ่ายรูปของ vivo Y39 5G ครั้งนี้มาแบบ Dual Camera ซึ่งประกอบด้วย กล้องหลักความละเอียด 50MP มีค่ารูรับแสง F1.8 และมีโหมดถ่ายภาพความละเอียดสูง Ultra HD 50MP ให้ใช้งาน ในขณะที่เมื่อต้องถ่ายภาพพอร์ตเทรตก็จะทำงานร่วมกับกล้องตัวที่สองที่เป็นกล้อง Bokeh ความละเอียด 2MP ค่ารูรับแสง F2.4 ในการละลายพื้นหลังให้เกิด Bokeh และมิติของแบบให้สวย นอกจากนี้ยังมีไฟแฟลช LED แสงสีขาวติดตั้งมาช่วยเพิ่มมิติในการถ่ายรูปมาให้ด้วย

ในขณะที่โหมดถ่ายภาพบนตัวเครื่องจะเป็นโหมดถ่ายภาพมาตรฐานทั้งหมด เช่น Night, Portrait, Video หรือ โหมดถ่ายภาพความละเอียดสูง 50MP เป็นต้นครับ แต่ที่พิเศษคือ ทาง vivo ใส่คุณสมบัติ AI ในการแก้ไขภาพหลังถ่ายมาให้ด้วยสองอย่าง คือ AI Erase และ AI Enhance

    หน้าอินเทอร์เฟสและเมนูกล้องถ่ายรูป    

สำหรับภาพรวมของประสบการณ์การถ่ายรูปด้วยกล้อง vivo Y39 5G สำหรับผมรู้สึกว่า ผลงานภาพถ่ายที่ออกมาสามารถคาดหวังได้และทำได้สวยสมราคา เป็นไปตามมาตรฐานแบรนด์ vivo ที่เราไว้ใจได้เรื่องภาพนิ่งครับ ถึงแม้จะไม่ใช่รุ่นดังของแบรนด์ แต่ทาง vivo ก็ไม่ได้ทิ้งให้น้องวายต้องโดดเดียว เพราะทำกล้องออกมาได้ดี ให้สีสัน รายละเอียด และความคมของภาพที่ถือว่าทำได้ดีและสมราคา เอาเป็นลองไปชมและพิจารณาด้วยตัวเองผ่านตัวอย่างภาพถ่ายที่ผมเก็บมาฝากกันครับ

    ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง vivo Y39 5G    

» โหมดภาพถ่าย «

» โหมดภาพคน «

» โหมดภาพคน พร้อมลูกเล่นฟิลเตอร์ «

» โหมดกลางคืน «

    ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า vivo Y39 5G    

» โหมดภาพถ่าย «

» โหมดภาพคน «


    ฟีเจอร์กล้องที่น่าสนใจ 

LIVE Photo โหมดถ่ายภาพที่ตัวกล้องจะทำการบันทึกภาพ ก่อนเรากดชัตเตอร์ถ่ายประมาณ 1-3 วินาที ซึ่งจะมอบประสบการณ์ Short VDO + Photo พร้อมกัน เมื่อมาดูย้อนหลังก็จะทำให้นึกถึงช่วงเวลานั้น ๆ ได้ง่ายและกินใจมากขึ้น

Dual View VDO โหมดถ่ายภาพวิดีโอที่จะใช้งานบันทึกภาพวิดีโอจากกล้องหน้าและกล้องหลังพร้อมกันในเฟรมเดียว เหมาะสำหรับใช้บันทึกภาพวิดีโอแนว Daily VLOG, Trip หรือโมเมนต์สำคัญที่อยากให้มีทั้งคนและบรรยากาศรอบข้าง

AI Erase ฟีเจอร์แก้ไขภาพหลังถ่าย โดยจะใช้คุณสมบัติของ AI มาช่วยลบวัตถุที่เราไม่ต้องการในภาพถ่ายออกไป การใช้ฟีเจอร์นี้จำเป็นต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วย

AI Photo Enhance อีกหนึ่งฟีเจอร์ AI ที่ใช้แก้ไขภาพหลังถ่าย โดยฟีเจอร์นี้จะใช้คุณสมบัติของ AI มาปรับปรุงและเพิ่มความคมชัดของภาพ รวมถึงฟื้นฟูรายละเอียดสำคัญในภาพ เช่น ดวงตา ปาก และสี ให้คมชัดขึ้น เหมาะสำหรับใช้งานกับไฟล์ภาพถ่ายเก่า ๆ ที่เราต้องการให้ภาพคมสวยขึ้น รวมถึงภาพถ่ายที่เรา Crop ภาพมาก็สามารถนำมาปรับปรุงรายละเอียดให้ชัดขึ้นได้เช่นกัน การใช้ฟีเจอร์นี้จำเป็นต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วย

ย้อนกลับไปเลือกหัวข้อ


 / Conclusion   บทสรุปของมือถือที่ ‘เอาอยู่ ทุกความท้าทาย’ 

มาถึงบทสรุปสำหรับผมกับ vivo Y39 5G กันแล้วครับ ส่วนตัวที่ได้ใช้ชีวิตกับน้องเขามาประมาณ 1 สัปดาห์ ความประทับใจแรกที่เกิดขึ้นก็คือ เรื่องของการงานออกแบบที่ทาง vivo ทำได้ขึ้นมาก ๆ ถ้าเทียบกับตอนจับ vivo Y28 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องของสีของตัวเครื่องที่ทำได้พรีเมียมและสวยขึ้นมาก ย้อนกลับไปตอนได้จับ vivo Y28 สีพีชว่ากินใจแล้ว ครั้งนี้เจอสีฟ้า Ocean Blue เข้าไป ตกหลุมรักเลย นอกจากนี้ ในเรื่องของขนาดและการออกแบบตัวเครื่องมาให้สามารถจับถือได้อยางมั่นใจ กระชับมือมากขึ้น ก็เป็นอีกจุดที่น่าประทับใจครับ

ต่อมาก็คือเรื่องของสเปกฮาร์ดแวร์ที่ใส่มาให้คุ้มราคา โดยเฉพาะแบตเตอรี่ที่น่าจะโดดเด่นที่สุดในช่วงราคานี้แล้วล่ะครับ ด้วยการนำเทคโนโลยี BlueVolt ลงมาใส่ให้ vivo Y Series ด้วย เราจึงได้เห็นขนาดแบตเตอรี่ที่มีความจุมากถึง 6500mAh บนตัวเครื่องที่บางและเบาของ vivo Y39 5G ซึ่งไม่ได้หนักและหนาขึ้นตามขนาดแบตเตอรี่เหมือนในรุ่นอื่น ๆ

และเมื่อนำองค์ประกอบทั้งหมดมารวมกัน ผมคิดว่ามือถือรุ่นนี้ น่าจะเหมาะกับใครที่กำลังอยากได้มือถือเครื่องใหม่ ที่มีความทนทาน สมบุกสมบัน พร้อมกับแบตเตอรี่อึด ๆ ที่สามารถเอาไปรับงานหรือสแตนบายขายของได้สบาย ๆ รวมทั้งสเปกที่ครบเครื่อง ไปได้กับทุกโจทย์ใช้งานและงานออกแบบที่สวย ในราคาที่จับต้องได้

โดยเฉพาะพี่ ๆ หรือน้อง ๆ ไรเดอร์ ที่มักจะสอบถามกันเข้ามาเยอะเลยว่า มีมือถือรุ่นไหนที่จอสู้แสงและให้แบตเตอรี่มาเยอะๆ บ้าง อยากได้ไปวิ่งงานตลอดวัน ซึ่งผมก็แนะนำรุ่นนี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกได้เลยครับ อาจจะมีจุดสังเกตตรงระบบ GPS หรือการนำทาง จากที่ผมลองใช้นำทางมาหลายครั้ง ก็ยังพบมีหลุดมีเพี้ยนบางเล็กน้อย เช่น เราอยู่อีกฝั่งของถนนแล้ว แต่ระบบยังคิดว่าเรายังไม่ได้ข้ามมา เป็นต้น แต่ก็สามารถรี Position กลับมานำทางให้ตรงได้ไวอยู่เหมือนกันครับ

ย้อนกลับไปเลือกหัวข้อ


 / Price & Availability   ราคาและการวางจำหน่าย 

vivo Y39 5G สมาร์ตโฟนที่ ‘เอาอยู่ ทุกความท้าทาย’ พร้อมวางจำหน่ายแล้ววันนี้ ในรุ่นความจุ 8GB + 256GB พร้อมสองตัวเลือกสีสุดสดใส สีฟ้า Ocean Blue และสีม่วง Galaxy Purple ในราคาเพียง 7,999 บาท เป็นเจ้าของได้ที่ vivo Brand Shop ทุกสาขา, vivo Official Store บน Lazada, Shopee, Tiktok Shop และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ

#vivoY395G #เอาอยู่ทุกความท้าทาย

ย้อนกลับไปเลือกหัวข้อ

—————
▶︎ อัปเดตข่าวสาร และบทความต่างๆ
คลิกดูต่อที่ insight-daily.com ได้เลย!

 

Exit mobile version