ตั้งแต่ช่วงโควิดเป็นต้นมา… เคยสงสัยกันไหมว่าทำไมราคาสมาร์ตโฟนถึงปรับสูงขึ้นทุกปี? และมีปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผลให้สมาร์ตโฟนมีราคาที่สูงขึ้น ดังนั้นในครั้งนี้ทางทีมงาน Insight Daily ได้ทำการรวบรวมข้อมูลที่คาดว่าน่าจะเป็นปัจจัยหลักในการปรับขึ้นราคามาให้แล้ว

ปัจจัยที่ 1: ต้นทุนค่าการวิจัยและพัฒนา (Research & Development)
อย่างที่ทราบกันว่าแต่ละแบรนด์กว่าจะสร้างเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมขึ้นมาสักอย่าง นอกเหนือจากไอเดียแล้วยังจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรหลายอย่าง เช่น เงินทุน ทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ประกอบกับเทรนด์เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แบรนด์จึงต้องปรับตัวและยิ่งต้องใส่ใจเรื่องวิจัยและพัฒนามากขึ้นเพื่อนำมาเป็นจุดขาย รวมถึงเพื่อแข่งขันกับคู่แข่ง ดังนั้นต้นทุนค่าการวิจัยและพัฒนาจึงถือเป็นหนึ่งปัจจัยในการกำหนดราคาขายนั่นเอง
ปัจจัยที่ 2: ต้นทุนการผลิตพุ่งสูงขึ้น!
ตั้งแต่ช่วงโควิดเป็นต้นมาราคาสมาร์ตโฟนก็มีแนวโน้มสูงขึ้นแทบทุกปีเนื่องด้วยสาเหตุวิกฤตชิปเซ็ตขาดตลาด แม้ว่าวิกฤตดังกล่าวจะเริ่มคลี่คลายแล้วก็ตาม แต่ล่าสุด Trendforce บริษัทวิจัยตลาดเผยว่าราคาสมาร์ตโฟนจะปรับสูงขึ้นอีก เนื่องจากต้นทุนการผลิตชิปหน่วยความจำ (DRAM) สูงขึ้น โดยผู้ผลิตชิปหน่วยความจำรายใหญ่อย่าง Samsung และ Micron คาดการณ์ว่าต้นทุนจะสูงขึ้นประมาณ 15-20 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงการมาของเทคโนโลยี AI ยิ่งทำให้มีความต้องการชิปหน่วยความจำเพิ่มมากขึ้นจนขาดตลาดอีกด้วย
ปัจจัยที่ 3: ภาวะเงินเฟ้อ!
เงินเฟ้อนับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาสมาร์ตโฟน เนื่องจากกระทบต่อต้นทุนการผลิตโดยตรง เช่น ราคาวัตถุดิบสูงขึ้น ค่าแรงสูงขึ้นส่งผลให้ผู้ผลิตสินค้าต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้น ทำให้ต้องปรับราคาสินค้าขึ้นตามไปด้วย
▶︎ อัปเดตข่าวสาร และบทความต่างๆ
คลิกดูต่อที่ insight-daily.com ได้เลย!