Insight Talk — ระบบเสียง Dolby Audio กับ Dolby Atmos ต่างกันอย่างไร?
เมื่อพูดถึงมาตรฐานระบบเสียงที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก Dolby บริษัทผู้คิดค้นนวัตกรรมด้านระบบเสียงมากมาย และหนึ่งในระบบเสียงที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบันคงหนีไม่พ้น “Dolby Audio” กับ “Dolby Atmos” ดังนั้นในครั้งนี้ เรามาทำความรู้จักกันสักหน่อยว่าระบบเสียงทั้งสองอย่างนี้แตกต่างกันอย่างไรบ้าง… ถ้าพร้อมแล้วเราไปกันเลย
Dolby Audio คืออะไร?
เทคโนโลยีเสียงดิจิตอลแบบ 2 มิติ ที่เข้ามาช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพเสียงให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการดูถ่ายทอดสดกีฬา ดูวิดีโอสตรีมมิ่ง เล่นเกม รวมถึงการดูหนังจากแผ่น Blu-ray เสียงก็จะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในแบบเซอร์ราวด์ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งชุดลำโพงโฮมเธียเตอร์แต่อย่างใด เพียงแค่มีอุปกรณ์ที่รองรับ เช่น สมาร์ตทีวี โน้ตบุ๊ก สมาร์ตโฟน และแท็บเล็ต ก็สามารถสัมผัสประสบการณ์ได้ทันที
Dolby Atmos คืออะไร?
เทคโนโลยีเสียงแบบ 3 มิติ ด้วยการจำลองมิติเสียงโอบล้อมแบบ 360 องศา จึงมีคุณภาพเสียงเสมือนในโรงภาพยนตร์นั่นเอง แต่หากคุณต้องการใช้ระบบเสียง Dolby Atmos จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ที่รองรับด้วย เช่น ชุดโฮมเธียเตอร์ ซาวด์บาร์ เป็นต้น รวมถึงคอนเทนต์ที่นำมาใช้ก็ต้องรองรับด้วยเช่นกัน โดยปัจจุบันผู้ให้บริการวิดีโอสตรีมมิ่งรายใหญ่อย่าง Netflix ก็มีคอนเทนต์ที่รองรับ Dolby Atmos แล้วเช่นกัน
Dolby Audio และ Dolby Atmos แตกต่างกันอย่างไร?
Dolby Audio รองรับเสียงรอบทิศทางได้สูงสุด 7.1 แชนเนล แต่ในขณะที่ Dolby Atmos มีคุณภาพเสียงที่เหนือชั้นกว่าด้วยเสียงโอบล้อมรอบทิศทาง 360 องศา จึงส่งผลให้เสียงมีความแม่นยำและสมจริง ซึ่งปัจจุบันมาตรฐานของ Dolby Atmos รองรับได้ถึง 9.1.2 แชนเนล
อุปกรณ์ที่รองรับ Dolby Audio และ Dolby Atmos มีรุ่นไหนบ้าง?
ปัจจุบันถือได้ว่ามีหลากหลายแบรนด์ที่รองรับ ถ้าเป็นทางฝั่งโน้ตบุ๊กก็จะมีตั้งแต่ Microsoft, Lenovo, ASUS, Samsung, Razer, Dynabook เป็นต้น ส่วนในฝั่งโมบายดีไวซ์ก็จะมี Apple, Samsung, Sony เป็นต้น นอกจากนี้ในฝั่งสมาร์ตทีวีก็จะมี LG, Sony, Samsung, TCL, VIZIO, Philips เป็นต้น
กล่าวโดยสรุป
Dolby Audio และ Dolby Atmos ต่างมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน แต่มีสิ่งหนึ่งเหมือนกันคือทั้งสองระบบจะมอบประสบการณ์ด้านเสียงที่ดีขึ้นและเพิ่มอรรถรสในการดูคอนเทนต์ของคุณได้อย่างแน่นอน
▶︎ อัปเดตข่าวสาร และบทความต่างๆ
คลิกดูต่อที่ insight-daily.com ได้เลย!



