4 เหตุผลของการมีเทคโนโลยีที่วางใจได้ไว้ดูแลลูกน้อยในวัยสำรวจโลกกว้าง
เด็กๆ ช่วงวัยอนุบาล ไปจนถึงประถมต้น เรียกได้ว่าอยู่ในวัยที่กำลังสงสัยในสิ่งต่างๆ รอบตัว อยากรู้อยากเห็น อยากลองเล่น ลองทดสอบสิ่งต่างๆ ด้วยตัวของเขาเอง ถ้าคุณพ่อคุณแม่อยากจะส่งเสริมให้น้องหาความรู้สำรวจโลก ไปพร้อมๆ กับการดูอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ ดังนั้นจึงควรมีเพื่อนที่ใกล้ชิดไปด้วยกันกับลูกของเราทุกฝีก้าวไว้คอยดูแลความปลอดภัย และมอนิเตอร์ลูกของเราได้ โดยที่เขาเองก็สนุกกับเทคโนโลยีนี้ไปด้วย โดยอุปกรณ์ที่เด็กๆ จะพกง่ายไม่หาย มีดีไซน์และยังสร้างความบันเทิงให้เด็กได้ด้วย ก็คือนาฬิกาข้อมืออัจฉริยะสำหรับเด็ก ที่ได้รับความนิยมมากในหมู่คุณพ่อคุณแม่ที่อยากหาอุปกรณ์ไว้ติดต่อสื่อสารกับลูกน้อย ที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่มีประโยชน์และสมวัย
1. รับรู้ความเคลื่อนไหวทุกฝีก้าว วางใจได้ว่าลูกไม่ได้หลงไปในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย
ในทุกๆ วัน เราต้องรู้อยู่แล้วว่าตารางของลูกเป็นอย่างไร แต่อาจจะมีบ้างที่ เช่น เมื่อเลิกเรียนลูกอาจจะวิ่งเล่นกับเพื่อนในบริเวณใหม่ๆ ถ้าหากกังวลว่าระหว่างเล่นอยู่ลูกจะเดินเพลินจนหลงไปที่อื่น นาฬิกาอัจฉริยะที่ใช้ควรจะมี GPS ที่สามารถติดตามได้ว่าลูกอยู่ที่ไหน ทำให้ผู้ปกครองสามารถติดต่อกับลูกได้ง่ายขึ้น โดยจะสามารถอัปเดทให้ผู้ปกครองเห็นได้ใกล้เคียงเวลาจริงมากที่สุด เพื่อให้ติดตามตัวเด็กได้ในเวลาอันรวดเร็ว และในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน เด็กจำเป็นต้องสามารถติดต่อพ่อแม่ได้
GPS บนนาฬิกายุคนี้เป็นมากกว่าการใช้สัญญาณดาวเทียม เพราะมีการนำปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มาใช้ โดยไม่ได้เพียงระบุตำแหน่งของเด็ก แต่ยังสามารถบันทึกเส้นทาง และรับรู้ได้ว่าสถานที่ใดเป็นสถานที่ที่คุ้นเคย ทั้งหมดนี้เพื่อให้ผู้ปกครองสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยได้ เพื่อคลายกังวลในการติดต่อสื่อสารกับลูก ยกตัวอย่างเช่นหัวเว่ยได้พัฒนาเทคโนโลยี Network Positioning Algorithm ไว้บน HUAWEI WATCH KIDS 4 Pro ซึ่งเป็นระบบที่สามารถบันทึกตำแหน่งล่าสุดของเด็กที่สวมใส่ได้ทุก 2 นาที และแจ้งเตือนให้พ่อแม่ทราบเมื่อเด็กออกนอกเส้นทาง หรือไปที่ผิดแปลกนอกเหนื่อจากที่ผู้ปกครองตั้งค่าระบบ Safe Zone ไว้ในแอปฯ HUAWEI FamCare
2. ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือฉุกเฉินพร้อมถ่ายภาพอัตโนมัติ พ่อแม่รับรู้สถานการณ์ได้รวดเร็วและทันท่วงที
การเรียนรู้นอกห้องเรียนอะไรจะดีไปกว่าการพาลูกไปทัศนศึกษาค้นพบความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ในวันหยุดสุดสัปดาห์พ่อแม่อาจพาน้องๆ ไปเปิดโลกผ่านการแคมปิ้งต่างจังหวัด หรือเที่ยวอุทยานแห่งชาติต่างๆ ให้เขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศอย่างใกล้ชิด และถ้ามีเทคโนโลยีที่ไว้ใจได้อย่างสมาร์ทวอทช์สำหรับเด็กไปด้วย พ่อแม่ก็ปล่อยให้น้องสำรวจเส้นทางที่เขาอยากไปเองได้เลย โดยอย่าลืมย้ำกับเด็กว่าถ้าหากเจอเหตุการณ์ที่ดูเสี่ยงภัยให้รีบติดต่อพ่อแม่ทันที ถ้าเป็นฟีเจอร์ของ HUAWEI WATCH KIDS 4 Pro เด็กสามารถกดปุ่ม FUN บนนาฬิกาไว้ 5 วินาทีนาฬิกาก็จะโทรหาพ่อแม่ผ่าน One-Step SOS Call ให้ได้เลย และหากเกิดเหตุฉุกเฉินในเวลากลางคืน นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ของหัวเว่ยนี้ก็จะเป็นตัวช่วยในการหาตัวเด็กได้ โดยใช้ไฟ LED เรืองแสงป้องกันพลัดหลง และด้วยพลังงานแบตเตอรี่ 800 mAh ที่เมื่อชาร์จไฟเพิ่มเพียง 20 นาที ก็ใช้งานต่อได้ยาวๆ พ่อแม่ก็อุ่นใจได้ว่าเราจะยังสามารถติดต่อลูกได้เสมอด้วยเทคโนโลยี
3. วิดีโอคอลได้ทุกเมื่อที่ต้องการ
สำหรับเด็กในวัยนี้ คงยังเร็วไปที่จะให้พกโทรศัพท์มือถือ หากจะติดต่อกันและกัน สมาร์ทวอทช์ที่รองรับซิม 4G อาจเป็นทางเลือกที่พกง่ายมั่นใจ และเหมาะสมกับวัยของเด็กมากกว่า หนึ่งในสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ที่ทั้งติดตัวได้ง่าย และสามารถรับสายวิดีโอคอลจากผู้ปกครองบนข้อมือได้เลย หรือจะส่งข้อความสั้นๆ ไปยังสมาร์ทโฟนของผู้ปกครองก็ได้คือ HUAWEI WATCH KIDS 4 Pro รองรับการใช้งานนาโนซิมการ์ด 4G ทำให้รับสายและโทรออกได้ และสมาร์ทวอทช์นี้ยังมาพร้อมกล้องความละเอียด 5 MP เพื่อรับสายวิดีโอคอลผ่านแอปพลิเคชัน HUAWEI FamCare ในคุณภาพระดับ HD ในขณะเดียวกันสามารถบันทึกเบอร์คนในครอบครัวผ่าน Unique Call Light ID เพื่อให้มีแสงเตือนให้ทราบว่าเป็นใครโทรมาได้ด้วย
เมื่อได้เปิดโลก แน่นอนว่าเด็กๆ ก็ย่อมต้องการมีสังคมที่เปิดกว้างออกไปมากกว่าคนในครอบครัว นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ที่ทำมาเพื่อเด็กโดยเฉพาะจึงต้องมีฟีเจอร์สนุกๆ เพื่อตอบโจทย์เด็กๆ อย่าง HUAWEI WATCH KIDS 4 Pro เช่น การเขย่าเพื่อเพิ่มเป็นเพื่อน ให้โอกาสเด็กๆ ได้ทำความรู้จัก แชร์เรื่องราวที่น่าสนใจ และเรียนรู้มากขึ้นจากบุคคลอื่นในวัยเดียวกัน ผ่านการส่งภาพ ส่งข้อความตัวอักษร ข้อความเสียง ส่งอีโมติคอน และส่งวิดีโอ ยาวสูงสุด 15 วินาที
4. ส่งเสริมการทำกิจกรรมนอกบ้าน พร้อมติดตามและเก็บข้อมูลการออกกำลังกาย เข้าใจสุขภาพของลูกน้อย
ผจญภัยก็แล้ว เข้าสังคมก็แล้ว อีกกิจกรรมที่เด็กๆ สามารถพัฒนาตัวเองได้โดยที่พ่อแม่ไม่ต้องห่วง คือการออกกำลังกาย มิใช่เพียงแต่เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและมีพัฒนาการตามวัยเท่านั้น แต่ยังเพื่อให้มีความปลอดภัยในการใช้ชีวิตประจำวันอีกด้วย นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ที่ช่วยสนับสนุนการออกกำลังกายไม่ได้มีแค่เพียงสำหรับผู้ใหญ่ แต่ของเด็กเองก็รองรับโหมดออกกำลังกายง่ายๆ อาทิ การเดิน วิ่ง กระโดดเชือก ซิทอัพ และที่สำคัญที่สุดว่ายน้ำ เพราะเป็นวัยที่การว่ายน้ำให้แข็งถือเป็นเรื่องจำเป็น นาฬิกาที่ใช้จึงควรเป็นโมเดลที่กันน้ำ หรือที่ดีไปกว่านั้นคือช่วยจัดระเบียบการฝึกว่ายน้ำได้ด้วย HUAWEI WATCH KIDS 4 Pro มีมาตรฐานกันน้ำ 5 ATM หรือที่ความลึกประมาณ 50 เมตร สามารถฝึกที่สระใกล้บ้าน หรือไปเล่นน้ำทะเลชิลๆ ก็ได้โดยมีฟังก์ชันการระบายน้ำแบบ One-click เพื่อการใช้งานที่ราบรื่นหลังขึ้นจากน้ำ ด้านการออกกำลังกายอื่นๆ ก็สามารถติดตามผลการพัฒนาร่างกายทางแอปฯ HUAWEI FamCare ได้เลย
Bonus: ฮาร์ดแวร์ต้องได้ ซอฟต์แวร์ต้องโดน
ถ้าขึ้นชื่อว่าเป็นเทคโนโลยีที่จะเป็นเพื่อนคู่ใจเด็กๆ ในการใช้ชีวิตและการสำรวจโลกในวัยกำลังซน สิ่งที่จะดึงดูดเด็กๆ ได้มากที่สุดก็คือการออกแบบที่น่ารักสดใส และหน้าจอที่เลือกเองได้อย่างอิสระ ให้น้องๆ รู้สึกว่านาฬิกาเป็นของตนเองอย่างแท้จริง สมาร์ทวอทช์สำหรับเด็กตัวล่าสุดของหัวเว่ยอย่าง HUAWEI WATCH KIDS 4 Pro มาในตัวเรือน และสายสีน่ารักน่าใช้อย่างสีน้ำเงิน และสีชมพู พร้อม Watch Faces ที่น่าโดนใจบนหน้าจอสัมผัส AMOLED 1.41 นิ้วที่สามารถปรับแสงหน้าจอให้เหมาะสมได้อัตโนมัติตามสภาพแวดล้อม ปลอดภัยต่อสุขภาพตาของน้องๆ ถือเป็นตัวเลือกหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่เตรียมตัวเจอเจ้าตัวเล็กมาขอสมาร์ทวอทช์เครื่องแรกให้กับตัวเองได้เลย
คุณพ่อคุณแม่คนไหนเล็งเห็นว่าสมาร์ทวอทช์เป็นสิ่งที่ลูกต้องมีแน่ๆ แล้ว สามารถค้นหาข้อมูลในตลาดได้ว่า รุ่นไหน ยี่ห้อไหน จะเหมาะกับลูกรักของเรา และถ้าหากสนใจ HUAWEI WATCH KIDS 4 Pro เช็คให้แน่ใจว่าสมาร์ทโฟนที่ใช้เป็นของหัวเว่ยระบบปฏิบัติการ EMUI 10.1 หรือ iPhone รุ่นที่ใช้ iOS 9.0 ขึ้นไปเท่านั้น โดยวางจำหน่ายแล้ว ตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป ในราคาเพียง 6,490 บาท พร้อมของสมนาคุณตุ๊กตา BabyBus มูลค่า 649 บาท เมื่อสั่งซื้อตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม – 12 พฤศจิกายน 2564 ทาง HUAWEI Experience Store









