TECHINSIGHT NEWSSMART WATCHES

เปิดตัว HUAWEI WATCH ULTIMATE DESIGN Royal Gold ตัวเรือนเซรามิกม่วงแร่หายากประดับทองคำ 18K

หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (ประเทศไทย) ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการเปิดตัวสมาร์ทวอทช์ระดับลักชัวรี HUAWEI WATCH ULTIMATE DESIGN Royal Gold มุ่งสู่ความเป็นที่สุดด้วยดีไซน์หรูหรากับหน้าปัดขอบเซรามิกสีม่วงที่ทำจากแร่หายาก (Rare-earth) ตัดกับทองคำ 18K ตัวเรือนทำจากโลหะเหลว (Liquid Metal) ที่แข็งแกร่งทนทาน รองรับการดำน้ำลึกได้สูงสุด 150 เมตร สื่อสารใต้น้ำได้ผ่านคลื่นโซนาร์ ดูแลสุภาพแม่นยำระดับโปรด้วย Multi-sensing X-TAP Technology มอบประสบการณ์การใช้งานอย่างอิสระด้วย eSIM ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สุดหรูที่สมาร์ทอย่างเหนือระดับ เตรียมวางจำหน่ายในประเทศไทยวันที่ 9 มกราคม 2569 ที่ราคา 109,990 บาท พิเศษ! รับของสมนาคุณมูลค่าสูงสุด 18,317 บาท เมื่อสั่งจองตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2568 – 8 มกราคม 2569 ผ่านหน้าร้าน HUAWEI Experience Store และตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ รวมถึงร้านค้าอย่างเป็นทางการบนช่องทางออนไลน์ ทั้ง HUAWEI Store, Lazada, Shopee และ TikTok Shop

บรรทัดฐานใหม่แห่งดีไซน์สมาร์ทวอทช์ระดับไฮเอนด์ พิถีพิถันด้วยวัสดุที่ทนทานทั้งตัวเรือนและหน้าปัด

HUAWEI WATCH ULTIMATE DESIGN Royal Gold ยกระดับมาตรฐานการออกแบบสมาร์ทวอทช์ด้วยวัสดุชั้นเลิศและงานหัตถศิลป์อันประณีต ขอบตัวเรือนรังสรรค์จากเซรามิกสีม่วงที่ทำจากแร่หายาก (Rare-earth) เป็นครั้งแรกของหัวเว่ย ผ่านการเผาด้วยอุณหภูมิสูงถึง 1,400 องศาเซลเซียส เพื่อให้ได้เฉดสีม่วงอันเป็นเอกลักษณ์ ประดับตกแต่งด้วยทองคำ 18K จำนวน 10 ชิ้นที่ผ่านการฝังด้วยมืออย่างพิถีพิถัน ตัวเรือนผลิตจากโลหะเหลวเซอร์โคเนียม (Zirconium-based liquid metal) ซึ่งโดดเด่นด้านความทนทาน แข็งแรงกว่าสแตนเลส 2.7 เท่า สายนาฬิกาไทเทเนียมสีม่วงขลิบทอง ผลิตจากไทเทเนียมอัลลอยด์เกรดการบินและอวกาศ (TC4) เคลือบด้วยไอออนสีม่วงที่มีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษ มอบความแวววาวสม่ำเสมอและทนทานต่อการสึกหรอ หน้าปัดกระจกแซฟไฟร์มีความแข็งระดับ 9 ตามมาตรวัดความแข็งของโมห์ส (Mohs) ให้ความใสกระจ่างและป้องกันรอยขีดข่วนได้ดีเยี่ยม

ดูแลสุขภาพครบถ้วนด้วย Multi-sensing X-TAP Technology ระบบเซ็นเซอร์สุขภาพรุ่นใหม่ที่ละเอียดและแม่นยำขึ้น [1]

สมาร์ทวอทช์ HUAWEI WATCH ULTIMATE DESIGN Royal Gold มาพร้อมระบบ HUAWEI TruSense ซึ่งใช้เทคโนโลยี X-TAP ติดตามสุขภาพและวิเคราะห์ค่าทางสุขภาพได้อย่างแม่นยำและครอบคลุม เหมือนมีผู้ช่วยบริหารจัดการสุขภาพระดับมืออาชีพบนข้อมือ รองรับฟีเจอร์อย่าง Health Glance, Health Insights, การตรวจวัดค่าความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือด (SpO2) [2] ผ่านปลายนิ้ว การวิเคราะห์อารมณ์และความเครียด การประเมินคุณภาพการนอนหลับ ให้ข้อมูลสุขภาพที่ครบถ้วนและเข้าใจง่ายทั้งด้านสุขภาพกายและสุขภาพจิต รวมถึงแจ้งเตือนความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้

ใช้งานอิสระ โทรผ่าน eSIM ได้โดยไม่ต้องพกโทรศัพท์

รองรับการใช้ eSIM สามารถโทรตรงจากสมาร์ทวอทช์ได้โดยไม่ต้องพกโทรศัพท์ตลอดเวลาทั้งสองโหมดแบตเตอรี่ (Standard Mode และ Power Saver Mode) ทำงานร่วมกับระบบตัดเสียงรบกวนด้วย AI มอบการสนทนาที่คมชัดแม้ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง นอกจากนี้ยังควบคุมการใช้งานได้อย่างสะดวกสบายด้วยการแตะหรือปัดหน้าจอเพื่อรับสาย ถ่ายรูปจากระยะไกล หรือควบคุมแอปพลิเคชัน รวมทั้งรองรับแอปพลิเคชันอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเพลง หรือแอปพลิเคชันนำทาง ยกระดับความสะดวกสบายให้กับกิจวัตรประจำวัน

สวมใส่ดำน้ำได้ลึกสูงสุด 150 เมตร มาตรฐานระดับมืออาชีพ สื่อสารใต้น้ำด้วยโซนาร์ พร้อมฟังชัน SOS

HUAWEI WATCH ULTIMATE DESIGN Royal Gold Edition มาพร้อมระบบกันน้ำใหม่ที่ยังคงฟังก์ชันเสียงสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน แต่สามารถรองรับการดำน้ำได้ลึกถึง 150 เมตร [3] ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับนักดำน้ำมืออาชีพ มาพร้อมเทคโนโลยีการสื่อสารผ่านโซนาร์ของหัวเว่ย [4] ช่วยให้สามารถสื่อสารใต้น้ำระหว่างอุปกรณ์ได้ในระยะ 30 เมตร และมีฟังก์ชันส่งข้อความฉุกเฉิน (SOS) จากใต้นำได้ไกลถึงรัศมี 60 เมตร ใช้งานได้แม้ไม่มีสัญญาณ เพื่อความปลอดภัยกรณีเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ช่วยให้นักดำน้ำมั่นใจและปลอดภัยยิ่งขึ้นในการสำรวจโลกใต้น้ำ

นอกจากนี้ ยังเอาใจคนรักกอล์ฟด้วยโหมดสนามกอล์ฟระดับโปร พร้อมแผนที่สนามแบบ 3 มิติกว่า 17,000 แห่งทั่วโลก ซูมดูรายละเอียดได้ เสริมประสิทธิภาพด้วยฟีเจอร์อัจฉริยะ AI Caddie และระยะชดเชยความชัน (Plays-Like Distance) เพื่อความแม่นยำสูงสุดในทุกวงสวิง

HUAWEI WATCH ULTIMATE DESIGN Royal Gold ใหม่นี้ ไม่เพียงทลายขีดจำกัดทางสุนทรียศาสตร์ของสมาร์ทวอทช์และเทคโนโลยีบนอุปกรณ์สวมใส่ แต่ยังสร้างนิยามใหม่ให้กับสมาร์ทวอทช์ระดับไฮเอนด์ มอบประสิทธิภาพระดับมาสเตอร์พีซและสไตล์อันประณีตในทุกๆ วัน ใช้งานต่อเนื่องได้นานสูงสุด 11 วัน [5] รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบไร้สาย HUAWEI WATCH Wireless SuperCharger (2nd Generation) ซึ่งแถมมาให้กับตัวเครื่อง โดยชาร์จเพียง 15 นาที สามารถใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน เตรียมวางจำหน่ายในประเทศไทยวันที่ 9 มกราคม 2569 ที่ราคา 109,990 บาท

พิเศษ! รับของสมนาคุณมูลค่าสูงสุด 18,317 บาท ได้แก่ HUAWEI Care+ รับประกันอุบัติเหตุใน 2 ปี มูลค่า 9,990 บาท, ฟีเจอร์กอล์ฟอัลติเมทตลอดอายุการใช้งาน มูลค่า 3,490 บาท, สายนาฬิกา HUAWEI รุ่นสายขนาดสแตนดาร์ด มูลค่า 2,990 บาท, สายนาฬิกาดำน้ำ HUAWEI รุ่นสายยาวพิเศษสำหรับดำน้ำ มูลค่า 1,490 บาท และ HUAWEI Health+ Membership ระยะเวลา 3 เดือน มูลค่า 357 บาท (เงื่อนไขและรายละเอียดเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด) เมื่อสั่งจองตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2568 – 8 มกราคม 2569 ผ่านหน้าร้าน HUAWEI Experience Store และตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ รวมถึงร้านค้าอย่างเป็นทางการบนช่องทางออนไลน์ ทั้ง HUAWEI Store, Lazada, Shopee และ TikTok Shop

[1] ผลิตภัณฑ์นี้ไม่ใช่อุปกรณ์ทางการแพทย์ และข้อมูลการตรวจสอบและผลลัพธ์มีไว้สำหรับอ้างอิงเท่านั้น และไม่ได้มีไว้สำหรับการวินิจฉัยหรือใช้ทางการแพทย์
[2] ผลการตรวจวัดเป็นเพียงข้อมูลอ้างอิงเท่านั้น และไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในทางการแพทย์
[3] ผลิตภัณฑ์นี้ผ่านการรับรองมาตรฐานการกันน้ำระดับ 20 ATM ตามมาตรฐาน ISO 22810:2010 และมาตรฐานอุปกรณ์ดำน้ำ EN 13319 สามารถสวมใส่เพื่อดำน้ำ (ความลึกสูงสุด 150 เมตร) รวมถึงกิจกรรมในน้ำตื้น เช่น การว่ายน้ำในสระหรือชายฝั่งทะเล ทั้งนี้ ประสิทธิภาพการกันน้ำอาจลดลงตามการใช้งานและการสึกหรอในชีวิตประจำวัน (อาทิ การสัมผัสกับสารเคมีในครัวเรือนบ่อยครั้ง) จึงขอแนะนำให้นำอุปกรณ์เข้ารับการตรวจสอบและบำรุงรักษา ณ ศูนย์บริการ HUAWEI ที่ได้รับอนุญาตอย่างสม่ำเสมอ
[4] ระบบสื่อสารผ่านคลื่นโซนาร์ช่วยให้นักดำน้ำในรัศมี 30 เมตร สามารถรับส่งข้อความและอีโมจิ หรือส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ (SOS) ได้โดยตรงจาก HUAWEI WATCH ULTIMATE DESIGN Royal Gold หรือ HUAWEI WATCH Ultimate 2 โดยเมื่อเปิดใช้งานระบบนี้ ผู้รับจะสามารถส่งต่อสัญญาณ SOS ดังกล่าวได้ ซึ่งจะช่วยขยายขอบเขตสัญญาณไปได้ไกลถึง 60 เมตร อย่างไรก็ตาม ปัจจัยภายนอกอาจรบกวนสัญญาณและลดระยะการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพลงได้ หากการส่งข้อความล้มเหลว นาฬิกาจะพยายามส่งซ้ำโดยอัตโนมัติภายใน 25 วินาที พร้อมแจ้งสถานะการส่งให้ทราบผ่านเสียงเตือน
[5] ใช้ได้สูงสุด 11 วันเมื่อใช้โหมดประหยัดพลังงาน และใช้งานได้ยาวนาน 4.5 วันเมื่อใช้งานโหมดมาตรฐาน

/ บทความรีวิวล่าสุด

Xiaomi 15T Pro สมาร์ตโฟนตัวคุ้มแห่งปี กล้อง Leica สเปกเรือธง ในราคาระดับกลาง
8 จุดเด่น ASUS ProArt P16 (H7606WX) ครีเอเตอร์ซีรีส์ ตอบโจทย์ทุกงานครีเอทีฟ
รีวิว vivo X300 สมาร์ตโฟนเรือธงขนาดคอมแพกต์ที่ครบเครื่อง ซูมไกลด้วยกล้อง ZEISS APO Telephoto
รีวิว realme C85 5G สมาร์ตโฟนสายอึด สเปกจัดเต็ม! แบตเตอรี่ 7000mAh กันน้ำกันฝุ่น IP69 Pro จอสว่างสุดในระดับราคา!
รีวิว OPPO Find X9 Pro สมาร์ตโฟนที่มากับกล้องที่ดีที่สุดจาก OPPO

—————
▶︎ อัปเดตข่าวสาร และบทความต่างๆ
คลิกดูต่อที่ insight-daily.com ได้เลย!

 

Leave a Reply