Insight Talk — ‘deepseek’ ผู้พัฒนาด้าน AI ที่กำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนในตอนนี้
Insight Talk อีพีนี้ อยากชวนทุกคนพูดคุยและทำความรู้จักกับ “deepseek” บริษัทผู้พัฒนาด้าน AI จากประเทศจีน ที่กำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนอุตสาหกรรม AI ในตอนนี้กันครับ
ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา หลายคนน่าจะเริ่มเห็นชื่อของ deepseek ผ่านหน้าฟีดโซเชียลเต็มไปหมด เพราะหลังการเปิดตัวแพลตฟอร์ม deepseek อย่างเป็นทางการก็สร้างแรงสั่นสะเทือนไปหลายวงการเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นกระดานหุ้นบริษัท AI ที่ติดแดงไปหลายตัว รวมถึง Top Chart บน App Store ของสหรัฐฯ ก็มีการเปลี่ยนแปลงอันดับใหม่ทันทีหลังการมาของ deepseek ด้วยความฮอตระดับนี้ Insight Daily จึงขอพาทุกคนไปรู้จัก “deepseek” แบบรวบรัด พร้อมแล้วตามมาเลยครับ
deepseek คือใคร?
deepseek เป็นบริษัทจากประเทศจีน ที่ประกาศเปิดตัวบริษัทเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม ปี 2023 และเพิ่งประกาศเปิดตัว Chatbot ที่ขับเคลื่อนด้วย AI deepseek R1 เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2025 โดยมีผู้ก่อตั้งบริษัท คือ ‘เหลียง เหวินเฟิง’ (Liang Wenfeng) สำเร็จการศึกษาสาขาวิศวกรรมสารสนเทศและอิเล็กทรอนิกส์ ได้ทำการระดมทุนในการพัฒนา deepseek บางส่วนมาจากเงินกองทุนป้องกันความเสี่ยง (Hedge Fund) แห่งหนึ่งที่เขาเป็นผู้ริเริ่ม
— พัฒนา AI deepseek R1 ด้วยปัจจัยเหมือนอยู่ในภาวะสงคราม
‘เหลียง เหวินเฟิง’ ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลทั้งหมดว่า ตัวเขาใช้วิธีอะไรในการพัฒนา AI ขึ้นมาได้สำเร็จภายใต้ปัจจัยที่ถูกคว่ำบาตรทางด้านเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ แต่มีนักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า เหลียงน่าจะใช้วิธีกักตุนชิป Nvidia A100 ไว้ในคลัง ก่อนที่ปัจจุบันรุ่นใหม่จะถูกสั่งห้ามส่งออกไปยังประเทศจีน
ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า คลังชิปของคุณเหลียงน่าจะมีชิป A100 ตุนไว้เป็นหลัก ซึ่งเป็นชิป Low Performance เนื่องจากเป็นรุ่นเก่าแต่ก็พอที่จะทำให้เขาสามารถพัฒนาและเปิดตัว deepseek ได้
— deepseek R1 ผลิตภัณฑ์ AI ที่สร้างแรงสั่นไปทั่วโลก
deepseek R1 เป็นโมเดล AI ที่ทาง deepseek นำมาใช้งานผ่านแพลตฟอร์ม deepseek Application ในรูปแบบ Chatbot เหมือน ChatGPT ที่กำลังได้รับความนิยมในขณะนี้ ซึ่งหลังเปิดตัวแอปฯ ใน App store ไปก็ได้รับการตอบรับจากผู้ใช้ iOS อย่างล้นหลามจนขึ้นแอปฯ ยอดนิยมอันดับ 1 ทันที
โดย deepseek R1 มีความเก่งและมีความสามารถในการประมวลผลทางคณิตศาสตร์ การเขียนโค้ด และการให้เหตุผลที่เทียบเท่ากับโมเดล o1 ของ OpenAI เลยทีเดียว
คุณสมบัติที่สำคัญของ DeepSeek R1
- การเรียนรู้ด้วยการเสริมแรง (Reinforcement Learning) : โมเดลนี้ ใช้การเรียนรู้ด้วยการเสริมแรงอย่างเต็มรูปแบบ โดยไม่พึ่งพาข้อมูลที่มีการกำกับ (Supervised Data) ซึ่งคล้ายกับวิธีการของ AlphaZero ของ Google DeepMind
- โอเพนซอร์ส : deepseek R1 เปิดเผยโค้ดและรายละเอียดทางเทคนิคทั้งหมดภายใต้สัญญาอนุญาตแบบ MIT ทำให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงและปรับปรุงโมเดลได้อย่างอิสระ
- ประสิทธิภาพและต้นทุน : โมเดลนี้ถูกพัฒนาขึ้นด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่าโมเดลของ OpenAI อย่างมาก และมีประสิทธิภาพในการประมวลผลที่สูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการฮาร์ดแวร์ขั้นสูง เช่น ชิปจาก Nvidia
ทำไมการมาของ deepseek R1 ถึงถูกจับตามอง?
ความน่าสนใจของ deepseek R1 ที่บริษัท AI และบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งให้ความสนใจ คือ
- ตัว AI เติบโตและฉลาดได้ไวมาก เพราะเหลียงใช้เวลาพัฒนาเพียง 2 – 3 เดือนเท่านั้น โดยมีพนักงาน 200 คน ซึ่งก็มาจากการที่ deepseek เปิดให้ deepseek R1 เป็น AI แบบ Open Source นั่นเอง
- ต้นทุนในการดำเนินการต่ำและเมื่อนำไปเทียบกับเจ้าตลาด ยิ่งต่ำกว่ามาก แต่กลับให้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงหรืออาจจะเทียบเคียงกับของเจ้าตลาดเลยนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม คงต้องติดตามกันไปอีกสักพักว่า deepseek R1 และแพลตฟอร์ม deepseek จะสามารถยืนระยะในตลาดโลกได้ดีแค่ไหน เพราะเชื่อว่าเจ้าตลาดเองก็คงจะนิ่งเฉยต่อการมาของ deepseek ไม่ได้เหมือนกัน
สำหรับใครที่สนใจก็สามารถไปดาวน์โหลดตัวแอปฯ deepseek มาคุยเล่นบน App Store กันได้เลยครับ ตอนนี้เปิดให้ดาวน์โหลดแล้ว สำหรับอีพีนี้ก็ขอฝากไว้เพียงเท่านี้ พบกันใหม่อีพีหน้าครับ 😊
—————
▶︎ อัปเดตข่าวสาร และบทความต่างๆ
คลิกดูต่อที่ insight-daily.com ได้เลย!




