TECHINSIGHT NEWS

LG เผยผลประกอบการแกร่งรับไตรมาสแรกปี 2568

บริษัท แอลจี อิเล็กทรอนิกส์ (LG) ประกาศผลประกอบการรวมประจำไตรมาสแรกของปี 2568 คว้ารายได้รวม 22.74 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 5.27 แสนล้านบาท) และกำไรจากการดำเนินงาน 1.26 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 2.92 หมื่นล้านบาท) ซึ่งถือเป็นรายได้ในไตรมาสแรกที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท และเป็นปีที่หกติดต่อกันที่มีกำไรจากการดำเนินงานสูงกว่า 1 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 2.31 หมื่นล้านบาท) ในไตรมาสแรก ผลประกอบการที่แข็งแกร่งนี้มาจากการเติบโตเชิงคุณภาพในกลุ่มธุรกิจหลักของบริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มธุรกิจ B2B กลุ่มธุรกิจด้านการบริการ (เช่น ธุรกิจบอกรับสมาชิกและแพลตฟอร์ม webOS) และช่องทางจำหน่ายตรงถึงผู้บริโภคโดยไม่ผ่านตัวกลาง (D2C)

กลุ่มธุรกิจโซลูชันยานยนต์และระบบทำความร้อน ระบายอากาศ และปรับอากาศ (HVAC) ซึ่งเป็นธุรกิจสำคัญในกลยุทธ์ B2B และแผนการเติบโตในอนาคตของแอลจี สามารถสร้างรายได้และกำไรจากการดำเนินงานรายไตรมาสสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยกำไรจากการดำเนินงานรวมของกลุ่มธุรกิจโซลูชันยานยนต์และกลุ่มธุรกิจโซลูชันเพื่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น 37.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่รายได้เพิ่มขึ้น 12.3%

ด้านกลุ่มธุรกิจโซลูชันเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ซึ่งเป็นธุรกิจหลักและแหล่งสร้างกำไรสำคัญของแอลจี ทำรายได้รายไตรมาสสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน พร้อมทั้งรักษาความเป็นผู้นำตลาดระดับโลกไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ปัจจุบัน ธุรกิจนี้กำลังปรับโฉมครั้งใหญ่ด้วยการนำเสนอรูปแบบธุรกิจใหม่ที่ทันสมัย อาทิ ธุรกิจบอกรับสมาชิก (LG Subscribe) และช่องทางจำหน่ายตรงถึงผู้บริโภคโดยไม่ผ่านคนกลาง (D2C) ในขณะเดียวกัน กลุ่มธุรกิจสื่อและความบันเทิงยังได้แสดงผลประกอบการที่แข็งแกร่ง นำโดยความสำเร็จของบริการแพลตฟอร์มโฆษณาและคอนเทนต์บนระบบ webOS ของแอลจีที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

กลุ่มธุรกิจโซลูชันเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านของแอลจี รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกด้วยรายได้ 6.70 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 1.55 แสนล้านบาท) และกำไรจากการดำเนินงาน 644.6 พันล้านวอน (หรือประมาณ 1.49 หมื่นล้านบาท) โดยมีรายได้เพิ่มขึ้น 9.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ถือเป็นการสร้างสถิติใหม่ให้กับบริษัท และทำให้มีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 9.9% กลุ่มธุรกิจนี้ยังคงรักษาความเป็นผู้นำในตลาดไว้ได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมตั้งเป้าเร่งการเติบโตของธุรกิจบอกรับสมาชิกและช่องทางจำหน่ายตรงถึงผู้บริโภค

สำหรับไตรมาสที่สอง บริษัทคาดการณ์ว่าจะเผชิญกับความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้น อันเนื่องมาจากนโยบายการค้าระหว่างประเทศที่เปลี่ยนแปลงไปและการแข่งขันในตลาดที่ทวีความรุนแรง เพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว แอลจีเตรียมขยายพอร์ตโฟลิโอทางธุรกิจในกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และผลิตภัณฑ์ในกลุ่มตลาดที่มีปริมาณการขายสูง (Volume-zone Products) พร้อมทั้งมุ่งเน้นธุรกิจบอกรับสมาชิกและธุรกิจออนไลน์มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับโอกาสทางธุรกิจในกลุ่ม B2B เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าแบบบิลท์อิน และการจำหน่ายชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สำคัญ อาทิ มอเตอร์และคอมเพรสเซอร์ ให้กับลูกค้าภายนอก ส่วนความพยายามในการเพิ่มผลกำไรจะมุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันด้านต้นทุนผ่านการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน

กลุ่มธุรกิจโซลูชันด้านสื่อและความบันเทิงของแอลจี รายงานรายได้ในไตรมาสแรกที่ 4.95 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 1.15 แสนล้านบาท) และกำไรจากการดำเนินงาน 4.9 พันล้านวอน (หรือประมาณ 113.7 ล้านบาท) แม้ความต้องการซื้อทีวีจากผู้บริโภคยังคงชะลอตัว แต่การเติบโตของธุรกิจโฆษณาและบริการคอนเทนต์บนแพลตฟอร์ม webOS ช่วยสนับสนุนผลประกอบการให้แข็งแกร่งขึ้น โดยรายได้ยังคงอยู่ในระดับเดียวกับปีก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ผลกำไรที่ลดลงเป็นผลมาจากราคาจอแสดงผล LCD ที่ปรับตัวสูงขึ้น และค่าใช้จ่ายด้านการตลาดที่เพิ่มขึ้น

โดยไตรมาสที่สองนี้ บริษัทจะเดินหน้าผนึกกำลังระหว่างธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับจอแสดงผล ซึ่งประกอบด้วยทีวี จอแสดงผลเชิงพาณิชย์ และผลิตภัณฑ์ไอที อาทิ แล็ปท็อปและจอมอนิเตอร์ ที่แม้ตลาดจะฟื้นตัวอย่างช้าๆ แต่บริษัทจะมุ่งเน้นการสร้างผลกำไรผ่านการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมเป็นหลัก ในด้านแพลตฟอร์ม webOS ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง บริษัทจะมุ่งขยายทั้งฐานผู้ใช้งานในตลาดใหม่และประเภทผลิตภัณฑ์ที่รองรับ พร้อมเดินหน้าพัฒนาความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับพันธมิตรผู้ให้บริการคอนเทนต์เพื่อรักษาทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

กลุ่มธุรกิจโซลูชันยานยนต์ของแอลจี สร้างสถิติรายได้และกำไรจากการดำเนินงานสูงสุดในรอบไตรมาส โดยมีรายได้ 2.84 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 6.58 หมื่นล้านบาท) และกำไรจากการดำเนินงาน 125.1 พันล้านวอน (หรือประมาณ 2.9 พันล้านบาท) การเติบโตยังคงได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อคงค้างมูลค่ารวม 100 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 2.32 ล้านล้านบาท) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธุรกิจระบบสาระบันเทิงภายในรถยนต์มีความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้น จากสัดส่วนผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับไตรมาสที่สอง บริษัทตั้งเป้ารักษาการเติบโตของรายได้และเสริมสร้างโครงสร้างผลกำไรที่มั่นคง ด้วยการมุ่งเน้นการผลักดันยอดขายผลิตภัณฑ์ที่สร้างมูลค่าสูง การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานในธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า และการบริหารจัดการทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

กลุ่มธุรกิจโซลูชันเพื่อสิ่งแวดล้อมของแอลจี สร้างสถิติรายได้และกำไรจากการดำเนินงานสูงสุดในรอบไตรมาสเช่นกัน โดยมีรายได้ในไตรมาสแรกที่ 3.05 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 7.07 หมื่นล้านบาท) และกำไรจากการดำเนินงาน 406.7 พันล้านวอน (หรือประมาณ 9.43 พันล้านบาท) ส่งผลให้มีอัตรากำไรจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งที่ 13.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รายได้เพิ่มขึ้น 18.0% และกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 21.2% ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปี 2568 แอลจีได้แยกธุรกิจระบบทำความร้อน ระบบระบายอากาศ และระบบปรับอากาศ (HVAC) เป็นหน่วยธุรกิจอิสระ ซึ่งส่งผลให้ผลการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน จากการจัดสรรทรัพยากรที่มีประสิทธิภาพและโครงสร้างองค์กรที่มุ่งเน้นธุรกิจ B2B

กลุ่มธุรกิจโซลูชันเพื่อสิ่งแวดล้อมถือเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ B2B ของแอลจี ร่วมกับกลุ่มธุรกิจโซลูชันยานยนต์ สำหรับไตรมาสที่สอง บริษัทจะเดินหน้าขยายตลาดผลิตภัณฑ์ระบบทำความร้อน ระบบระบายอากาศ และระบบปรับอากาศรุ่นใหม่สำหรับที่พักอาศัย พร้อมรุกขยายการรับงานติดตั้งระบบปรับอากาศเชิงพาณิชย์ในตลาดเกิดใหม่ นอกจากนี้ บริษัทยังวางแผนขยายฐานลูกค้าโครงการขนาดใหญ่ในภาคอุตสาหกรรมและการผลิตไฟฟ้า รวมถึงศูนย์ข้อมูล AI ด้วยจุดแข็งด้านโซลูชันระบบทำความเย็นขนาดใหญ่พิเศษ

—————
▶︎ อัปเดตข่าวสาร และบทความต่างๆ
คลิกดูต่อที่ insight-daily.com ได้เลย!

 

Leave a Reply