เปิดตัว Poco F2 Pro จอ sAMOLED ชิป SND 865 กล้อง 64 MP ในราคา 17,990 บาท
สิ้นสุดการรอคอย! สำหรับแฟนคลับของ PocoPhone หรือ Poco ล่าสุดบริษัท Poco ประกาศเปิดตัว Poco F2 Pro อย่าเป็นทางการแล้ว โดยยังคงชูจุดขายด้วยสเปกตัวเครื่องระดับท็อปในราคาเข้าถึงง่ายเหมือนเดิม ซึ่งหลังเปิดตัวสื่อต่างประเทศก็ต่างพากันตั้งฉายา “Flagship Killer” คนใหม่ของวงการไปเรียบร้อย
Poco F2 Pro เลือกใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 865 ซึ่งเป็นชิปรุ่นล่าสุดและที่ดีที่สุดจาก Qualcomm ยังและเป็นหนึ่งในรุ่นแรกที่ได้รับการปรับปรุงไดรเวอร์ GPU ด้วย นอกจากนี้ Poco ยังใส่เทคโนโลยีลดความร้อนของตัวเครื่องอย่าง LiquidCool 2.0 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้การวางแผ่นวัสดุลดความร้อนคุณภาพสูงด้วยกันทั้งหมด 3 ชั้น ประกอบด้วย แกรไฟต์, กราฟีน และสุดท้าย “ซุปเปอร์ VC” ที่มีขนาดใหญ่กว่าโทรศัพท์คู่แข่งในตลาดตอนนี้ ซึ่ง Poco กล่าวว่า เทคโนโลยีใหม่ตัวนี้จะช่วยให้การระบายความร้อนบนเครื่องมีประสิทธิภาพมากขึ้นเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ Poco F2 Pro ยังทำงานบน Android OS เวอร์ชั่น 10 ครอบทับด้วย UI MIUI เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดที่รองรับ Dark mode ตั้งแต่แกะกล่องด้วย
ในขณะที่รายละเอียดสเปกตัวเครื่องอื่นๆ มีดังนี้
- หน้าจอขนาด 6.67 นิ้ว เต็มจอแบบ AMOLED พร้อมการรับรองแสงสีฟ้าต่ำจาก TÜV Rheinland
- ซิปเซ็ต Qualcomm® Snapdragon™ 865 บนเทคโนโลยี 7 นาโนเมตร รองรับการใช้งาน 5G
- กล้องหลัง AI 4 ตัวความละเอียด 64 ล้านพิกเซล และการถ่ายภาพวิดีโอระดับ 8K
- เลนส์อัลตร้าไวด์ (ultra-wide) ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล มุมมอง 123 องศา
- เลนส์มาโคร (Macro) ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
- เลนส์ depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4700mAh (typ) รองรับการชาร์จเร็ว 33 วัตต์ (ใช้เวลา 63 นาทีเพื่อชาร์จ 100%)
- หน่วยความจำภายในขนาด : RAM 8GB + ROM 256GB || RAM 6GB + ROM 128GB
- ตัวเครื่องมีด้วยกัน 4 สี ได้แก่ สี Neon Blue, สี Electric Purple, สี Cyber Grey และสี Phantom White
- ระบบปฏิบัติการ MIUI for POCO based on MIUI 11, Android 10
โดย Poco จะเปิดวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 19 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้ผ่านร้านค้าออนไลน์ชั้นนำในยุโรปด้วยราคาเริ่มต้นที่ 500 ยูโร หรือราวๆ 17,990 บาท ส่วนประเทศไทยคงต้องติดตามข่าวกันอีกครั้งครับว่า รอบนี้ทาง Xiaomi ประเทศไทย จะนำเข้ามาจำหน่ายในบ้านเราด้วยหรือไม่
ที่มา : GSMArena





