INSIGHT REVIEW : รีวิว ASUS VIVOBOOK PRO 16 OLED โน็ตบุ๊คตัวแรงสำหรับครีเอเตอร์ตัวเทพ จอ OLED 120Hz ชิป intel i9 การ์ดจอแยก

ASUS VIVOBOOK PRO 16 OLED อีกหนึ่งโน็ตบุ๊คตัวจบของเหล่าครีเอเตอร์ของตลาดในเวลานี้ ตัวเครื่องให้สเปกและคุณสมบัติที่ครอบคลุมการทำงานระดับสูงได้ ทำให้สามารถตอบสนองต่องานตัดต่อวีดีโอความละเอียดสูง การทำภาพกราฟฟิก หรือแม้แต่การเล่นเกมให้ได้อรรถรสยามพักสมองทำได้ดีทั้งหมด 

ASUS-Vivobook-16-OLED
ASUS Vivobook Pro 16 OLED มาพร้อมจุดเด่นหลายมิติมาก ๆ เช่น หน้าจอ OLED ความละเอียดสูง, ชิปเซ็ต Intel i9 Series H หรือการ์ดจอ RTX 4000 Series, ระบบเสียงพร้อม Smart AMP รวมทั้ง Full I/O Ports ที่ใส่พอร์ตมาตรฐานในตอนนี้มาครบ สมกับการเป็นโน็ตบุ๊คที่ทาง ASUS ประเทศไทยวางตำแหน่งทางการตลาดไว้สำหรับลูกค้าในกลุ่มครีเอเตอร์ หรือผู้ใช้งานระดับแอดแวนซ์ที่ต้องการหรือมองหาโน็ตบุ๊คประสิทธิภาพดี สามารถประมวลผลงานในระดับสูงได้เป็นปัจจัยสำคัญ โดยที่เรื่องวัสดุหรืองานออกแบบเป็นปัจจัยรองลงมา

ASUS-Vivobook-16-OLED

สเปกตัวเครื่อง | SPEC
  • OS: Windows 11 Home | Microsoft Office Home & Student 2021
  • CPU: Intel® Core™ i9-13900H Processor 2.6 GHz
  • Graphic Card: NVIDIA® Geforce RTX™ 4060 Laptop GPU
  • RAM :
    • 8GB DDR5 on board
    • 8GB DDR5 SO-DIMM
  • Storage : 1TB M.2 NVMe™ PCIe® 4.0 SSD
  • Display : 16” 3.2K (3200 x 2000) OLED 16:10
    • Refresh rate 120Hz
    • 100% DCI-P3
    • PANTONE® Validated
    • TÜV Rheinland certified
  • Connectivity :
    • 2x USB 3.2 Type-A
    • 2x USB 3.2 Type-C
    • 1 x Thunderbolt™ 4
    • 1x HDMI 2.1 TMDS
    • 1x 3.5mm Combo Audio Jack
    • 1x Headphone/Headset
    • 1 x RJ45 Gigabit Ethernet
    • 1x DC-in
    • Micro SD card reader
  • Wireless : Wi-Fi 6E + Bluetooth 5
  • Web Camera : 1080P (FHD) พร้อมบานเลื่อนความเป็นส่วนตัวเลื่อนปิดเมื่อไม่ใช้งาน
  • Battery : 96WHrs, 3S2P, 4-cell Li-ion

ASUS-Vivobook-16-OLED

รอบตัวเครื่อง | DESIGN

ASUS Vivobook Pro 16 OLED (K6602) เป็นโน็ตบุ๊คที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์งานออกแบบที่ชื่อว่า “Design to Impress” ซึ่งส่วนตัวผมชอบในไอเดียของงานออกแบบรอบนี้นะ ชอบที่ความแปลกใหม่ของดีไซน์ที่ไม่จำเจไล่ตั้งแต่ฝาหลังตัวเครื่อง เปลี่ยนจากการแปะโลโก้แบรนด์ตรงกลาง มาเป็นการทำแถบ Low-Profile ไว้ที่ด้านข้างตัวเครื่อง พร้อมกับใส่ชื่อ  “ASUS Vivobook” แปลกตาแต่ดูสวยแบบเรียบ ๆ ดีครับ

วัสดุตัวเครื่องยังไม่ใช่อลูมิเนียมทั้งเครื่อง จึงทำให้เวลาเราจับหรือสัมผัสที่ฝาหลังหรือบริเวณรอบ ๆ ทัชแพดจะเป็นรอยคราบนิ้วง่าย แต่รุ่นนี้ได้รับมาตรฐานการเป็นอุปกรณ์ทางการทหาร “US MIL-STD 810H military-grade standard” ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ทนสอบความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่โหดร้าย รวมถึงการตกหล่นสู่พื้นในระดับเอวลงไปด้วย

ยังไม่พอ! รอบนี้ทาง ASUS ยังเพิ่มการเคลือบสารป้องกันแบคทีเรีย หรือ ASUS Antimicrobial Guard รอบตัวเครื่องมาให้ด้วย น่าจะเป็นไม่กี่แบรนด์ตอนนี้ในตลาดเมืองไทย ที่เคลือบสารนี้มาให้ครับ ก็ช่วยเพิ่มความอุ่นใจขึ้นเวลาใช้งาน

ขยับมาเปิดฝาตัวเครื่องกันครับ เมื่อยกฝาเครื่องขึ้นมาก็จะพบกับหน้าจอแสดงผล OLED ขนาด 16 นิ้ว ความละเอียด 3200 x 2000 พิกเซล (Ratio 16 : 10) ซึ่งตัวหน้าจอเป็นหน้าจอสำหรับทำงานโดยเฉพาะ ให้สีสันที่สดคมชัดและสว่างมาก ๆ สามารถทำงานตามร้านกาแฟที่มีกระจกเปิดรับแสงได้สบาย ๆ เลยล่ะครับ รวมทั้งยังได้รับการรับรองมาตรฐานด้านการแสดงสีสันครบถ้วน ประกอบด้วย

  • 0.2ms response time
  • 120Hz refresh rate
  • ค่าความสว่างระดับปกติที่ 400nits และ 600nits เมื่อเข้าสู่ peak brightness
  • 100% DCI-P3 color gamut
  • VESA CERTIFIED Display HDR True Black 600
  • 1.07 billion colors
  • PANTONE Validated
  • Anti-glare display
  • ลดการปล่อยแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายได้มากถึง 70%
  • TÜV Rheinland-certified
  • (Screen-to-body ratio) 87%

ASUS-Vivobook-16-OLED

ความพิเศษของ ASUS Vivobook Pro 16 OLED ตัวนี้อยู่ตรงที่ทาง ASUS ออกแบบให้บานพับหน้าจอของตัวเครื่องสามารถกางออกได้กว้างถึง 180 องศา หรือสามารถกางออกไปเป็นแนวราบได้เลย!! ล่ะ ซึ่งมีประโยชน์ในตอนที่ประชุมโต๊ะกลมกันมาก ๆ เพราะไม่ต้องหมุนเครื่องให้เพื่อนดูบ่อย ๆ กางมันออกไปให้ดูคอนเทนต์บนจอไปพร้อมกันได้เลย

 

เหนือหน้าจอขึ้นไปจะเป็นตำแหน่งของกล้อง Web cam รองรับความละเอียดวีดีโอที่ระดับ 1080P (FHD) และมีบานสไลด์สำหรับเลือ่นปิดเมื่อไม่ใช่กล้อง เพื่อความเป็นส่วนตัวของเจ้าของด้วย

ขยับมาที่แผงคีย์บอร์ดของตัวเครื่องกันบ้าง คีย์บอร์ดของ ASUS Vivobook Pro 16 OLED เป็นคีย์บอร์ดแบบฟลูไซต์ Backlit Chiclet Keyboard with Num-key มีแถบเลขแยกมาให้ทางฝั่งขวา และแถบด้านบนเป็นตัวเลขและปุ่มฟังก์ชั่น ถูกออกแบบภายใต้ไอเดีย “ErgoSense” ปรัชญาออกแบบที่ให้ผู้ใช้เหมือนเป็นหนึ่งเดียวกับแป้นพิมพ์ พร้อมกับสอดแทรกความแตกต่างด้วยการเติมสีส้มที่ปุ่ม ESC และ การใส่ลายที่ปุ่ม Enter  นอกจากนี้บริเวณพื้นผิวปุ่มจะมีการเคลือบพิเศษแรงเสียดทานต่ำ ที่ป้องกันรอยนิ้วมือมาให้ด้วย

ASUS-Vivobook-16-OLED
ส่วนการใช้งานจริงส่วนตัวผมคิดว่า เป็นคีย์บอร์ดที่สามารถใช้ทำงานต่อเนื่องนาน ๆ ได้สบายเลย ให้สัมผัสการพิมพ์ที่ดี การดีดตัวกลับของปุ่มตอบสนองได้ต่อเนื่อง และตอนกดลงไปปุ่มก็ไม่แข็งสู้มือ รองรับแรงกดได้นิ่มนวล ทำให้เราไม่ล้าจากการพิพม์นาน ๆ ถือว่าออกแบบมาได้ดีเลย

รวมถึงทัชแพดก็มีขนาดที่กว้างพอดีกับการใช้งาน ถือว่าทั้งสองส่วนสำคัญนี้ทาง ASUS ทำการบ้านมาดีพอตัวครับ กับการรังสรรค์ให้เหมาะกับการใช้งานของครีเอเตอร์ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของรุ่นนี้

ASUS-Vivobook-16-OLED

รอบข้างตัวเครื่องทั้งซ้ายและขวาเป็นตำแหน่งของพอร์ตเชื่อมต่อและใช้งานต่าง ๆ ที่ทาง ASUS ใส่มาให้แบบ  “Full I/O ports” มีพอร์ตใช้งานตามมาตรฐานในปัจจุบันครบทุกพอร์ตเลยทีเดียว โดยด้านซ้ายตัวเครื่องจะมีพอร์ต MicroSD Card Reader, รูเสียบชุดหูฟังขนาด 3.5 มม. และพอร์ต USB-A 3.2 (Gen1)

ในขณะที่ด้านขวาตัวเครื่องจะมีแถบไฟแสดงสถานะของแบตเตอรี่และการเชื่อมต่อ WiFi และมีพอร์ต

  • USB 3.2 รุ่น 1 Type-C จำนวน 2 ช่อง รองรับการแสดงผล/การป้อนไฟ
  • USB 3.2 รุ่น 1 Type-A จำนวน 1 ช่อง
  • Thunderbolt™ 4 supports display / power delivery จำนวน 1 ช่อง
  • HDMI 2.1 TMDS จำนวน 1 ช่อง
  • RJ45 Gigabit Ethernet จำนวน 1 ช่อง
  • รูเสียบที่ชาร์จไฟ

ด้านหลังตัวเครื่องมีช่องระบายความร้อนด้วยเทคโนโลยี ASUS IceCool Plus และมีการติดตั้งยางกันลื่นมาให้ด้วยครับ

ประสิทธิภาพแรง รับทุกโจทย์ครีเอเตอร์ | PERFORMANCE

ในด้านของประสิทธิภาพการทำงาน ด้วยสเปกฮาร์ดแวร์ที่ทาง ASUS ใส่มาก็น่าจะการันตีได้ว่า Vivobook Pro 16 OLED รุ่นนี้สามารถประมวลผลทำงานในระดับสูงได้และทำได้ดีเลยครับ ผมลองนำไฟล์วีดีโอ FHD ความยาวประมาณ 30-40 นาทีมาตัดบน Premier Pro พร้อมกับเปิด Photo shop ทำภาพปกไปด้วย ทั้งสองโปรแกรมสามารถทำงานพร้อมกันได้ อาจหน่วงบ้างเมื่อเปิดไปนาน ๆ แต่ไม่ได้ส่งผลต่อการทำงานหลัก ส่วนตัวผมถือว่าสอบผ่านนะ ถ้าบอกว่ารุ่นนี้ทำมาสำหรับให้ครีเอเตอร์ทำงานได้จนจบลูปงาน

ASUS-Vivobook-16-OLED

โดยรุ่นที่เรานำมารีวิวในครั้งนี้จะเป็นรหัส K6602 รุ่นท็อป ซึ่งใช้ชิปเซ็ต Intel® Core™ i9-13900H Processor 2.6 GHz (24MB Cache, up to 5.4 GHz, 14 cores, 20 Threads) เป็นหัวใจหลักในการทำงาน พร้อมกับการ์ดจอแยก GPU Nvidia RTX 4060 Laptop GPU8GB GDDR6 และมีเทคโนโลยี MUX switch ในการสับเปลี่ยนการทำงานด้านกราฟฟิกของ GPU ระหว่างออนบอร์ดกับการ์ดจอแยก

ในขณะที่ RAM จากโรงงานจะใส่มาให้รวม 16GB DDR5 (4800MHz) แบ่งเป็นตัวออนบอร์ด 8GB และเป็นสล็อต SO-DIMM อีก 8GB ซึ่งสามารถอัปเกรดได้ในอนาคต และอีกจุดที่ชอบเลยคือ ลำโพงตัวเครื่องที่ขับเสียงได้อรรถรสดีนะ โดยตัวลำโพงเป็นการทำงานร่วมกับ Harman Kardon พร้อมกับใส่ซอฟต์แวร์ปรับ Tune เสียงของ Dolby Atmos มา เลยทำให้เสียงที่ขับออกมาไม่แห้งเลย ฟังได้เพลิน ๆ

ส่วนแบตเตอรี่ก็เป็นอีกจุดที่ผมคิดว่า ถ้าหากเราทำงานทั่วไปที่ไม่ได้มีการเรียกใช้งานการ์ดจอนอก หรือต้องทำงานตัวชิปประมวลผลระดับสูง ตัวเครื่องมีการบริหารการใช้พลังงานที่ฉลาดและอึดอยู่นะ สามารถลากยาวได้ 6-8 ชั่วโมงโดยถอดสายชาร์จออกได้เลย แต่ถ้าหากทำงานตามลูปคอนเทนต์แบบผมที่ใช้ทั้งตัดต่อวีดีโอ ทำภาพกราฟฟิก อัปโหลดไฟล์ขึ้นออนไลน์ จากที่ทดสอบอยู่ไม่เกิน 4-5 ชั่วโมง ระบบก็ขึ้นเตือนพลังงานใกล้หมดแล้วล่ะครับ

ผลการทดสอบประสิทธิภาพการทำงานจากแอปพลิเคชั่น

  • ด้านกราฟฟิกเปิด MUX 
  • ด้านกราฟฟิกปิด MUX 
  • ด้านการประมวลผล – ทำงาน

 

ระบบระบายความร้อนดี ลดอุณหภูมิทันใจ | ASUS IceCool Plus

เมื่อตัวเครื่องประมวลผลในระดับสูงได้ เรื่องของความร้อนที่เกิดขึ้นย่อมทวีคูณตามไปด้วย ซึ่งเป็นเรื่องปกติของโน็ตบุ๊คเลยล่ะครับ สำหรับ Vivobook Pro 16 OLED รุ่นนี้ทาง ASUS ติดตั้งระบบระบายความร้อน ASUS IceCook Plus มาให้ โดยเป็นการใช้พัดลมสองตัวดูดลมจากภายนอกเข้ามาช่วย พร้อมกับทำงานร่วมกับ Heat Pipes ในการลดอุณหภูมิลง

ซึ่งในช่วงที่ผมทดสอบการทำงานของตัวเครื่อง ที่เปิดโปรแกรมหนัก ๆ ของ Adobe สองตัว ทำงานติดต่อกัน 20-30 นาที และทำงานในสภาพแวดล้อมนอกห้องแอร์ มีเพียงพัดลมเป่าไปมาเท่านั้น ตัวเครื่องก็จะอุ่น ๆ ยังอยู่ในระดับที่เราทำงานต่อได้อยู่ตลอดเวลา และเสียงพัดลมทำงานไม่ดังจนรบกวนสมาธิ ส่วนตัวก็ให้ผ่านนะครับ ถึงแม้จะยังไม่เพอร์เฟ็ค แต่ก็ช่วยให้ทำงานต่อเนื่องได้ดี

ระบบความปลอดภัยและซอฟต์แวร์สำหรับครีเอเตอร์ | Security & Software

มากันที่เรื่องราวของความปลอดภัยกันสักหน่อย นอกจากระบบล็อคหน้าจอของ Windows ทั้ง Password, Pin หรือสแกนใบหน้าแล้ว ทาง ASUS ยังติดตั้งระบบสแกนลายนิ้วมือมาให้ด้วยนะครับ โดยเราจะใช้ปุ่ม Power หรือปุ่มเปิด-ปิด ในการแตะสแกนยืนยันลายนิ้วมือ

ส่วนด้านของซอฟต์แวร์นอกจากติดตั้ง Windows 11 Home Edition พร้อมมี Microsoft Office Home & Student 2021 ให้มากับเครื่องแล้ว ทาง ASUS ยังติดตั้ง ProArt Creator Hub ที่เป็นโปรแกรมของทาง ASUS เองมาให้ด้วย โดยปรแกรมนี้จะเปรียบเสมือนเป็นห้องคอนโทลกลางของเครื่องมีแผงแดชบอร์ดภาพรวมให้เราดูการทำงานภาพรวมของตัวเครื่อง

พร้อมกับเปิดให้เราปรับแต่งค่าต่าง ๆ ของเครื่อง เช่น เรียกดูโหมดประสิทธิภาพต่างๆ, ปรับเทียบสีหน้าจอ, เช็คสถานะการทำงานของตัวเครื่อง ปรับตั้งค่าและเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานของตัวเครื่อง เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีโปรแกรม My ASUS โปรแกรมพื้นฐานสำหรับโน็ตบุ๊ตใช้ติดต่อคอลเซ็นเตอร์ เพื่อปรึกษาหรือขอความช่วยเหลือจากพนักงานแบบออนไลน์ได้ รวมถึงยังสามารถปรับแต่ง, อัปเดต หรือดูข้อมูลของตัวเครื่องจากบนโปรแกรมนี้ได้ทั้งหมดเลย

โน็ตบุ๊คทำงานที่ตอบรับทุกโจทย์ครีเอเตอร์ แต่ไม่ได้หรูหราอะไรมากนัก

มาถึงบทสรุปจากมุมมองส่วนตัวผมกันแล้วครับ สำหรับผมจากที่ลองใช้งาน ASUS Vivobook Pro 16 OLED ตัวนี้ทำงานคอนเทนต์ของ InsightDaily อยู่ 1 อาทิตย์ ก็ยอมรับว่า มีทั้งจุดที่ชอบและไม่ชอบทั้งคู่นะ โดยจุดที่ชอบของผมก็จะเป็นเรื่องของประสิทธิภาพการทำงาน ที่ถือว่าสอบผ่านใช้ทำงานคอนเทนต์ได้ลงตัว, หน้าจอแสดงผลที่ช่วยให้เราทำงานคอนเทนต์ภาพหรือวีดีโอได้มีประสิทธิภาพไม่ต่างจากใช้คอมพิวเตอร์ PCs ที่บ้าน และอีกจุดก็คือ เรื่องของพอร์ตการใช้งานที่ใส่มาให้ครบมาก ๆ จนทำให้เราสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ ได้ง่าย

ในขณะที่อีกด้านที่อยากติสักหน่อยก็คง เป็นเรื่องวัสดุที่ยังเป็นรอยง่าย ซึ่งราคานี้น่าจะทำได้ดีกว่านะครับ และอีกจุดก็คงเป็นน้ำหนักตัวเครื่องที่หนักตามประสาของโน็ตบุ๊คสาย Performance แหละครับ แต่ถือเดินทำงานไปมาสักพักใหญ่ก็มีแขนล้าได้เหมือนกันนะ ก็เอาเป็นว่า สำหรับผมมองว่า ASUS Vivobook Pro 16 OLED เป็นโน็ตบุ๊ตที่เหมาะสำหรับคนที่มองเรื่องประสิทธิภาพทั้งด้านการทำงานและผลลัพธ์ของตัวงานเป็นหลัก ส่วนเรื่องงานออกแบบเป็นปัจจัยตามมาครับ

การวางจำหน่ายและโปรโมชั่น | Price & Promotion

ASUS ประเทศไทย วางจำหน่าย ASUS Vivobook Pro 16 OLED ด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่น คือ รุ่นรหัส K6602V รุ่นที่อยู่ในรีวิวนี้ ราคา 69,990 บาท และรุ่น K6602VU ราคา 59,990 บาท ซึ่งจะแตกต่างกันที่การ์ดจอและหน่วยความจำ ใครที่สนใจก็สามารถไปจับจองเป็นเจ้าของกันได้ทั้งทางออนไลน์ผ่าน ASUS Store Online, ASUS Official Shop บน Lazada และ Shopee และช่องทางออฟไลน์ผ่านร้านค้าตัวแทนทั่วประเทศ

ASUS-Vivobook-16-OLED

ขอขอบคุณ ASUS ประเทศไทย

Leave a Reply

Discover more from InsightDaily

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading