Insight Review : รีวิว ASUS Zenbook Pro 14 Duo OLED มิติใหม่ของการทำงานด้วยโน็ตบุ๊คสองหน้าจอ
ASUS Zenbook Pro 14 Duo OLED โน็ตบุ๊คสายทำงานเฉพาะทางอีกรุ่นของ ASUS ประเทศไทย ที่มาพร้อมจุดเด่นด้านนวัตกรรมหน้าจอแสดงผล 2 หน้าจอ
กับซอฟต์แวร์ที่ทาง ASUS ทำมาช่วยให้การใช้งานหน้าจอที่ 2 มีความสะดวกและเก่งมากขึ้นครับ รวมทั้งรุ่นนี้ตัวเครื่องมีขนาดมิติที่กระทัดรัดพกพาง่ายด้วย
ASUS Zenbook Pro 14 Duo OLED ตัวที่ผมได้มารีวิวในครั้งนี้จะมีรหัสรุ่นคือ UX8402 มองตัวเครื่องจากภายนอกครั้งแรกยอมรับเลยว่า ตัวผมเองชอบเลยทีเดียว ตัวงานออกแบบของรุ่นนี้ให้ความรู้สึกถึงความพรีเมี่ยมบนงานออกแบบที่เรียบง่าย แต่แฝงความหรูเบา ๆ คิดว่าหลายคนน่าจะชอบกันแน่นอนโดยเฉพาะคุณผู้หญิง ที่น่าจะมีโน็ตบุ๊คที่มีขนาดตัวเครื่องไม่ใหญ่ แต่ให้ภาพลักษณ์เวลาถือเหมือน Business woman มาเป็นตัวเลือกในตลาดตอนนี้
ขนาดมิติรอบตัวเครื่อง : กว้าง 32.35 x แนวลึก 22.47 x ความสูง 1.79 ~ 1.96 เซนติเมตร และน้ำหนักรวมทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 1.7 กิโลกรัม
ฝาหลังของตัวเครื่องวัสดุจะมีผิวสัมผัสมันวาว พร้อมกับมีการแอบใส่ลวดลายไว้ด้วย และมีโลโก้คล้ายกับลูกศรที่ทาง ASUS นำมาใส่แทนโลโก้ของบริษัท ซึ่งจุดนี้แหละครับที่ช่วยทำให้ภาพลักษณ์ของงานออกแบบตัวเครื่องดูน่าค้นหา ลึกลับ
ที่ด้านข้างตัวเครื่องฝั่งขวา จะมีพอร์ตเชื่อมต่อ Thunderbolt™ 4 จำนวน 2 พอร์ต ซึ่งรองรับการแสดงผล/การป้อนไฟในตัว, พอร์ต USB-A (3.2) และไฟแสดงสถานะของแบตเตอรี่และการทำงานตัวเครื่อง
ในขณะที่ฝั่งซ้ายตัวเครื่องจะมีเพียงรูเสียบหูฟัง และช่องระบายอากาศเท่านั้น
หลายคนอาจสงสัยว่า “อ้าว! รุ่นนี้ไม่มีพอร์ตเกี่ยวการเชื่อมต่อการแสดงผลภายนอกเลยหรอ?” ตอนแรกผมก็สงสัยเช่นกันครับ แต่พอหมุนดูรอบตัวเครื่องแล้ว ก็พบว่าทาง ASUS เขาออกแบบให้มีการนำพอร์ตมาไว้ด้านหลังของตัวเครื่องด้วย
ซึ่งพอร์ตที่ย้ายมาด้านหลังก็เป็นพอร์ตที่เราต้องเสียบสายค้างไว้นานตลอด ประกอบด้วย พอร์ต DCI สำหรับเสียบสายชาร์จ, พอร์ต SD Card Reader และพอร์ต HDMI การย้ายพอร์ตเหล่านี้มาไว้ด้านหลัง ตอนใช้งานก็มีส่วนช่วยให้เราทำงานได้ราบรื่นโดยไม่มีสายอะไรเกะกะดีนะ
ด้านล่างตัวเครื่องก็จะมีตัวยางกันลื่นติดตั้งมาให้ด้วย พร้อมกับย้ายสติ๊กเกอร์การรับประกันต่าง ๆ รวมถึงโลโก้ของ Sound by HARMAN/KARDON และ Dolby Vision Atmos ที่เป็นพาร์ทเนอร์ด้านปรับจูนเสียงของรุ่นนี้มาไว้ตรงนี้ทั้งหมด ในขณะที่มุมด้านซ้าย-ขวาจะเป็นตำแหน่งของลำโพงเสียง
มาเปิดฝาตัวเครื่องกัน! เมื่อเราเปิดฝาเครื่องขึ้นมาเราก็จะพบกับตัวเครื่องที่ผมของแบ่งเองออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกคือส่วนของหน้าจอแสดงผลหลักที่มีขนาด 14.5 นิ้ว เป็นหน้าจอพาแนล OLED มีความละเอียด 2880 x 1800 พิกเซล หรือระดับ 2K ซึ่งตัวหน้าจอหลักจะสามารถทัชสกรีนด้วยนิ้ว หรือใช้ปากกาสไตลัส ASUS PEN ก็ได้เช่นกัน
เหนือหน้าจอขึ้นไปจะมีกล้อง Web cam ความละเอียด 720P, พอร์ต IR ช่วยในเรื่องการโฟกัสใบหน้า เมื่อต้องใช้งานในที่แสงน้อย และมีไมค์บิ้วอินสำหรับสนทนามาให้ในตัว
ส่วนที่สองจะเป็นส่วนของหน้าจอแสดงผลที่สองที่ทาง ASUS เรียกว่า “ScreenPad Plus” เป็นหน้าจอแสดงผล IPS ขนาด 12.7 นิ้ว ความละเอียด 2880 x 864 พิกเซล (Refresh rate 120Hz) ตัวหน้าจอจะรองรับการทัชสกรีนทั้งนิ้วและปากกาสไตลัส ASUS PEN เหมือนกับหน้าจอหลัก และสามารถดึงโปรแกรมจากหน้าจอหลักมาแสดงได้ด้วย
หน้าจอที่สองนี้ทาง ASUS ออกแบบด้วยเทคโนโลยี AAS (Active Aerodynamic System) Ultra ซึ่งนอกจากจะช่วยทำให้สามารถติดตั้งหน้าจอที่สองเข้าไปบนเครื่องขนาดกระทัดรัดได้แล้ว ยังเป็นการเพิ่มพื้นที่ในการระบายความร้อนของเครื่องด้วยหลักอากาศพลศาสตร์
ซึ่งทำงานกับระบบระบายความร้อนด้วยพัดลมคู่รอบหมุนสูง ASUS IceCool Plus มาทำงานร่วมกันด้วย ทำให้ช่วยลดอุณหภูมิที่เกิดขึ้นขณะใช้งานได้เร็วและเงียบ โดยทาง ASUS บอกว่าเทคโนโลยีนี้ถูกนำมาใช้งานเป็นครั้งแรกของโลกด้วย
ส่วนที่สามจะเป็นพื้นที่ของ “ASUS ErgoSense keyboard and touchpad” เป็นคีย์บอร์ดแบบ Half-Size ที่มีทัชแพดติดตั้งมาให้ด้วย ช่วยทำให้เราสามารถใช้งานได้สะดวกเวลาต้องเอาตัวเครื่องนั่งทำงานบนตัก หรือในสถานที่จำกัดขณะเดินทาง เป็นต้น
โดยตัวคีย์บอร์ดและทัชแพดถูกออกแบบมาให้มีความเหมาะสมกับหลักสรีระในการพิมพ์คีย์บอร์ดได้ดี ตัวปุ่มกดมีการออกแบบให้มีความเว้าเล็กน้อย และตัวปุ่มมีขนาดกว้าง สามารถรองรับนิ้วตอนสัมผัสลงไปให้มีความพอดีทำให้เราสามารถพิมพ์งานได้ต่อเนื่องโดยที่ไม่ล้านิ้วได้
ในขณะที่ตัวทัชแพดเองก็มีการเคลือบผิวด้วยสารกันน้ำ ทำให้เวลาเราแตะนิ้วลงไปที่พื้นผิวก็จะรู้สึกนุ่ม ๆ และเวลาลากนิ้วเพื่อควบคุมเคอเซอร์ก็ไม่รู้สึกหนืด เหมือนนิ้วติดกับพื้นผิวตัวทัชแพดด้วย ทำให้ใช้งานได้ต่อเนื่องได้ดีเลยครับ
รายละเอียดสเปกของ ASUS Zenbook Pro 14 Duo OLED
- จอแสดงผล (หลัก) OLED ขนาด 14.5 นิ้ว ความละเอียด 2880 x 1800 พิกเซล (2K)
- 16:10 aspect ratio
- LED Backlit
- 0.2ms response time
- 120Hz refresh rate
- 100% DCI-P3
- color gamut, 1,000,000:1
- VESA CERTIFIED Display HDR True Black 500
- 1.07 billion colors
- PANTONE Validated,
- 70% less harmful blue light
- SG S Eye Care Display
- Touch screen
- (Screen-to-body ratio)93%
- รองรับปากกาสไตลัส
- จอที่สอง (ScreenPad™ Plus) ขนาด 12.7 นิ้ว ความละเอียด 2880 x 864 พิกเซล (รองรับการสัมผัสและปากกาสไตลัส)
- ชิปเซ็ต Intel® Core™ i9-13900H Processor 3.2 GHz up to 5.4GHz
- GPU Nvidia GeForce RTX 4060
- RAM LPDDR5 16GB (On-board)
- M.2 NVMe™ PCIe® 4.0 Performance SSD 512GB or 1TB
- พอร์ตการเชื่อมต่อ :
- 1 x USB 3.2 รุ่น 2 Type-A 2 x Thunderbolt™ 4 รองรับการแสดงผล/การป้อนไฟ
- 1x HDMI 2.1 TMDS
- 1x 3.5mm Combo Audio Jack
- 1x DC-in
- Micro SD Express 7.1 card reader
- Windows 11 Home Edition
- กล้องหน้าความละเอียด 720P (HD)
- การเชื่อมต่อไร้สาย :
- Wi-Fi 6E(802.11ax) (Dual band) 2*2
- Bluetooth® 5.3 Wireless Card
- แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 76WHrs, 4S1P, 4 ก้อน
- พาเวอร์ซัฟพลาย :
- ø6.0
- 150W AC Adapter
- Output: 20V DC, 7.5A, 150W
- Input: 100~240V AC 50/60Hz universal

SCREENPAD PLUS
จุดเด่นที่ทำให้ ASUS Zenbook Pro 14 Duo OLED แตกต่างจากโน็ตบุ๊คอื่นในช่วงราคาเดียวกัน ก็คือการที่ ASUS นำเทคโนโลยี ScreenPad Plus หรือหน้าจอแสดงผลที่สองมาติดตั้งลงบนโน็ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14 นิ้ว โดยที่ไม่ได้ทำให้ตัวเครื่องมีน้ำหนักที่มากเกินจนพกพาไม่ได้นี้แหละครับ โดยนอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานกับการมีพื้นที่หน้าจอเพิ่มเข้ามาอีกจอแล้ว
ทาง ASUS ยังทำซอฟต์แวร์พิเศษใส่เข้ามาให้ด้วย ยิ่งช่วยเพิ่มมิติการทำงานได้หลากหลาย สะดวก และคล่องตัวยิ่งขึ้น ทำให้เราใช้เวลาทำงานบนโน็ตบุ๊คได้ใกล้เคียงกับการใช้งาน PCs ที่บ้านเลยล่ะครับ
สำหรับซอฟต์แวร์พิเศษที่ทาง ASUS เพิ่มเข้ามาจะประกอบด้วย
- App Switcher : สลับหน้าต่างของโปรแกรมที่ใช้งานอยู่จากหน้าจอหลักลงมาไว้ที่หน้าจอ ScreenPad Plus
- App Navigator : เป็นโหมดเหมือนหน้า Recent App บน Windows เอาไว้พักโปรแกรมที่จะใช้งาน พร้อมกับเรียกเปิดโปรแกรมอื่น ๆ ที่เราพักไว้ก่อนหน้าได้ทันที
- ViewMax : โหมดที่จะทำให้หน้าจอหลักกับหน้าจอ ScreenPad เป็นหนึ่งเดียวกัน ดังนั้นเวลาเปิดโปรแกรมหรือเปิดดูคอนเทนต์อื่น ๆ ก็จะมีการขยายหน้าต่างแบบเต็มยาวลงมาที่ตัวหน้าจอของ ScreenPad ด้วย รองรับการเปิดไฟล์วีดีโอ ไฟล์ภาพ ด้วยนะครับ
- TouchPad Mode : เปลี่ยนหน้าจอ ScreenPad ทั้งหมดให้เป็นแถบทัชแพด ซึ่งฟีเจอร์นี้จะแก้ปัญหาพื้นที่ของทัชแพดที่เป็น Physical ที่อาจมีบางคนรู้สึกว่ามีพื้นที่ขนาดเล็กไป ก็สามารถมาเปิดใช้งานโหมดนี้ได้เลยครับ ลากกันสนุกแน่นอน
- Task Group : เป็นลูกเล่นที่ให้เราสามารถจัดกลุ่มโปรแกรมที่ใช้งานบ่อย ๆ ไว้ที่แถบช็อตคัตด้านซ้าย ช่วยเพิ่มความสะดวกในการทำงานได้ดีเลยล่ะครับ
- Windows Flick : จะเป็นการเอาโปรแกรมจากหน้าจอหลักลงมาแสดงที่หน้าจอของ ScreenPad โดยที่ไม่มีการปรับ UI การแสดงผลเหมือนโหมด Switcher
- Link to MyASUS : เป็นช็อตคัตสำหรับเรียกหน้าบริการ MyASUS ขึ้นมาทันที
- Control Panel : เป็นซอฟต์แวร์ที่มีหน้า UI แบบแผงควบคุม ซึ่งสามารถใช้งานร่วมกับโปรแกรมสาย Adobe และโปรแกรมอื่น ๆ ได้ ทำให้ปรับเพิ่ม-ลด หรือแมนเนจสิ่งต่าง ๆ ได้จากแผงควบคุมอันนี้ครับ สะดวกสบายมาก ๆ ถ้าใครใช้ทำงานกับโปรแกรมของ Adobe อย่าง Premier Pro, PhotoShop
ASUS Pen 2.0
อีกไฮไลต์ของรุ่นนี้ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการทำงานได้เป็นอย่างดี ก็คือการรองรับปากกาสไตลัส ASUS Pen 2.0 ด้วยนี้แหละครับ เพราะช่วยให้เราสามารถใช้ดราฟไอเดียด้วยปากกาได้เหมือนมี Tablet ด้วย รวมทั้งถ้าหากใครที่ใช้งานในด้านกราฟฟิกด้วย ก็ยิ่งช่วยในการทำงานได้ดีกว่าการใช้เคอเซอร์หรือนิ้วแน่นอนครับ
ตัวปากกา ASUS Pen 2.0 จะมีพอร์ตชาร์จพลังงานในตัวผ่านพอร์ต USB-C รองรับการชาร์จไวในตัว และสามารถตั้งค่าปุ่มกดบนตัวปากกาให้ใช้งานเรียกโปรแกรมแบบช็อตคัตได้ด้วย ตัวปากการองรับแรงกดได้สูงถึง 4096 ระดับ และมีหัวปากกาสำรองมาให้เปลี่ยนในกล่องด้วย เป็นอีกไอเท็มที่ส่วนตัวผมคิดว่าน่าจะได้ใช้งานกันแน่นอน และช่วยให้โน็ตบุ๊ครุ่นนี้มีความครบเครื่องมาก ๆ ในด้านการทำงาน
FULL PERFORMANCE FOR WORK
ASUS Zenbook Pro 14 Duo OLED เป็นโน็ตบุ๊คที่นับว่ามีประสิทธิภาพในการทำงานอยู่ในระดับสูงมาก ๆ นะครับ นอกจากมีคุณสมบัติและเทคโนโลยีที่ทาง ASUS เพิ่มเข้ามาให้แล้ว ยังมีการจัดสเปกมาแบบ FULL-WORK หรือก็คือ ตั้งใจให้สามารถทำงานได้ไม่ต่างจากทำบนเครื่อง PCs ที่บ้านก็ว่าได้ ได้ทั้งชิปเซ็ต Intel i9 13900H กับการ์ดจอ Nvidia RTX4060 ก็ว่าแน่นแล้ว
ในด้านของพลังงานจากประสบการณ์ส่วนตัวที่ลองใช้งานจริงมา ก็ถือว่าทำได้ดีครับ และเกือบจะเพียงพอต่อการทำงานหนึ่งวันได้เลย เพราะจากที่ผมลองนำไปใช้ทำงานด้าน Content นอกบ้านมา โดยตั้งใจทิ้งสายชาร์จไว้ที่บ้านเลย เริ่มจากเปิดทำงานตั้งแต่แบตเตอรี่เต็มร้อย ซึ่งลูปการทำงานของผมก็จะมีการเปิดโปรแกรม PhotoShop ค้างไว้ตลอดการทำงาน เปิดเว็บไซต์สำหรับทำคอนเทนต์ มีการอัปโหลด-ดาวน์โหลดรูปภาพหลายครั้ง
มีพักเล่นเกม ROO บ้าง 1-2 ชั่วโมง ปรับหน้าจอ 120Hz ไว้ตลอด ปรับแสงสว่างระดับกลาง โดยผลการทดสอบที่ได้คือ ตัวเครื่องสามารถใช้ทำงานต่อเนื่องได้ประมาณ 5 ชั่วโมงกว่าก่อนจะขึ้นเตือนสีแดง 15% เลยคิดว่าถ้าหากลากใช้จนหมดน่าจะไปต่อเกือบ ๆ 6 ชั่วโมงได้ ซึ่งส่วนตัวของผมถือให้ผ่านเลยครับสำหรับการทำงานคอนเทนต์นอกบ้าน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพด้วยโปรแกรมทดสอบ
ASUS Zenbook Pro 14 Duo OLED สำหรับผมที่ได้ใช้งานมาตลอด 1 สัปดาห์ ยอมรับเลยว่ามีความชอบและประทับใจเป็นอย่างมากครับ โดยเฉพาะหน้าจอแสดงผลที่สองหรือ ScreenPad Plus ที่ช่วยให้ผมทำงาน แล้วรู้สึกคล่องตัว สะดวก และทำงานได้ไหลลื่นคล้ายกับการทำงานด้วยคอมพิวเตอร์ PCs ที่บ้าน ที่ผมมีจอสองจอเอาไว้ทำงานได้เป็นอย่างดีครับ ถึงแม้จะไม่เหมือนเป๊ะแต่ก็ใกล้เคียงกันจนไม่ติดขัดอะไร
นอกจากนี้ตัวเครื่องของ Zenbook Pro 14 Duo OLED ยังมีความกระทัดรัด น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถพกพาได้แบบพอดีไม่หนักจนหลังแอ่น ซึ่งคุณผู้หญิงน่าจะชอบกันแน่นอนครับ ส่วนอีกจุดที่ชอบก็คือ การออกแบบพอร์ต DC-In และพอร์ต HDMI ไว้ด้านหลังตัวเครื่อง เพราะตอนทำงานที่เราต้องเสียบสองสายนี้ค้างไว้ มันช่วยให้สายไม่มาเกะกะเวลาเราลากเมาส์เลย
ในส่วนของข้อติก็คือ ระบบระบายความร้อนของตัวเครื่อง ที่ช่วยอุณหภูมิรอบข้างได้ดี แต่สำหรับด้านใต้ตัวเครื่องกับมีความร้อนสะสมสูงมาก ๆ เวลาใช้งานแบบ Full-Load แล้วถ้านำมาวางบนตักรับรองมีสะดุดได้เลย ตรงจุดนี้แนะนำให้วางบนโต๊ะหรือหาชุดพัดลมระบายความร้อนมาใช้งานคู่กันก็จะช่วยได้ครับ
มาถึงตรงนี้ผมก็สรุปให้เลยว่า จากที่ได้ใช้งาน ASUS Zenbook Pro 14 Duo OLED มา โน็ตบุ๊คตัวนี้มีความเหมาะกับคนที่ทำงานสายเฉพาะทางอย่างเช่น ทำงานด้านกราฟฟิก, โปรแกรมเมอร์, หรือแม้แต่สตรีมเมอร์เกมด้วย และกำลังต้องการคอมพิวเตอร์พกพาที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานนอกสถานที่ได้ไม่ต่างจากการใช้คอมพิวเตอร์ PCs ที่บ้านทำงานกันมากนัก โน็ตบุ๊ครุ่นนี้จะตอบโจทย์ให้คุณได้ลงตัวแน่นอนครับ
ทาง ASUS ประเทศไทย มีจัดโปรโมชั่นพิเศษ ณ ตอนนี้ โดยจะวางจำหน่าย ASUS Zenbook Pro 14 Duo OLED (UX8502VV) ในราคาพิเศษ 64,990 บาท ครับ ใครที่สนใจก็สามารถไปจับจองกันได้ผ่าน ASUS Store Online หรือผ่านร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ทั่วประเทศ
ขอขอบคุณ ASUS ประเทศไทย













































