รีวิวแบบจัดเต็ม – ATLAS FALLEN
insight gaming ขอนำเสนอ ……. atlas fallen …… ผลงานจากผู้พัฒนา Deck13 โดยมีผู้จัดจำหน่ายอย่าง Focus Entertainment เชื่อว่าชาวเกมมิ่งบางคนอาจจะยังสงสัยว่านี่คือเกมอะไร แนวไหน จะสนุกหรือไม่ เราจะพาคุณไปหาคำตอบกับเรา
เนื้อเรื่อง/แนวเกม
เริ่มกันที่เกมนี้คือ แนว Action / RPG ที่คุณจะได้สวมบทบาทเป็นคนงานคนนึง มนุษย์ธรรมดาๆ ที่ดันไปเจอกับสิ่งของลึกลับ และมอบพลังให้กับตัวละคร ซึ่ง เจ้าของเดิมเรียกมันว่า Gauntlet ดูจากภายนอกมันคือถุงมือที่เปล่งแสงได้ ไม่น่าจะมีอะไรพิเศษมากกว่านั้น แต่ด้านในนั้นได้มีจิตวิญญาณของ Nyaal (ไนเอล) เทพผู้ถูกเนรเทศ โดยระหว่างทางที่เราผจญภัยนั้น เขาจะเป็นผู้สอนการใช้ถุงมือ และทริคต่างๆ ซึ่งสิ่งแรกที่ต้องเรียนรู้คือการใช้อาวุธ เพื่อต่อสู้กับปีศาจทราย
ระบบ/เกมเพลย์
อาวุธหลักของเกมนี้จะมีด้วยกัน 3 ประเภท คือ “ขวาน” ที่เปลี่ยนเป็นค้อนได้, “ดาบ” ทีตวัดให้กลายเป็นแซ่ และ ”สนับมือ” ที่ต่อยได้อย่างเมามัน ซึ่งจะสามารถสลับอาวุธทั้ง 3 ชิ้นนี้ได้อย่างอิสระ แต่ที่จะวางแผนให้การต่อสู้ของคุณลื่นไหล คือ การติดตั้งสกิล โดยจะเป็นเป็น 3 tier ซึ่งแต่ละ tier จะมีเกจพลังอยู่ด้านล่างของหลอด HP เรียกว่า Momentun (โมเมนตั้ม) ยิ่งเราตีมอนสเตอร์ เกจพลังนี้จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น จะส่งผลให้ อาวุธของเราตีแรงขึ้น ขนาดใหญ่ขึ้น รูปร่างดุดันขึ้น พร้อมกับได้รับสกิลที่เราติดตั้งไว้ รวมถึงจะสามารถใช้ท่าไม้ตายได้ โดยจะแบ่งออกเป็น 3 ช่อง ตาม tier นั่นเอง
ใช่ว่าจะมีแต่ข้อดี ข้อเสียก็มีเช่นกัน การที่เกจพลังเพิ่มมากขึ้น ตัวละครก็ต้องรับดาเมจมากขึ้นเช่นกัน ถ้าคุณคิดว่าสามารถ parry หรือหลบได้ตลอด ตีไปเรื่อยๆจนมอนสเตอร์ตายก็ดีเช่นกัน เพราะอาวุธของเราดาเมจจะแรงมาก แต่ถ้าคิดว่าเรายัง parry หรือหลบไม่เก่ง ก็ขอแนะนำให้กดใช้ท่าไม้ตายจะดีกว่า เซฟตัวเอง และทำดาเมจไปด้วย
เกริ่นถึงการ parry ไปแล้ว ปล่อยค้างไว้ก็คงไม่ดี ซึ่งเจ้า parry ที่ว่านี้คือการสร้างเกราะทราย (sandskin) เพื่อป้องกันดาเมจได้อย่างสมบูรณ์แบบ ถ้าเป็นมอนสเตอร์ระดับกีกี้ โดยเข้าไปทีเดียวก็จะเป็นน้ำแข็งทันที แต่ถ้าเป็นมอนสเตอร์ขนาดใหญ่ จะต้องกะจังหวะดีๆ ต่อเนื่อง 3 ครั้ง บอสก็จะเป็นน้ำแข็ง เป็นระบบที่ทำให้เราสามารถทำดาเมจกับมอนสเตอร์ได้อย่างฟรีๆ ในระยะเวลาหนึ่งเลยทีเดียว
ซึ่งเป็นระบบที่สำคัญมากๆของเกมนี้ เพราะมันจะทำให้คุณเล่นสนุกขึ้น และต่อสู้กับมอนสเตอร์ได้ง่ายขึ้นด้วย โดยเกมก็ไม่ได้ใจร้ายให้เรากะจังหวะเองทั้งหมด วิธีการ parry มันก็ดูง่ายมาก ก่อนที่มอนสเตอร์จะโจมตีเรา จะมีแสงสีแดงขึ้นมาแวบหนึ่ง ให้เรากดให้ทัน ก็จะสามารถป้องกันได้นั่นเอง เราขอแนะนำใช้ให้คล่องๆ เพื่อลดความยากของเกม และลดอาการหัวอุ่นไปด้วย
การต่อสู้กับมอนสเตอร์ขนาดใหญ่ ตัวเกมจะแบ่งชิ้นส่วนของมอนสเตอร์เอาไว้ ถ้าเราไล่ทำลายทีละจุด ก่อนที่จะสังหาร จะทำให้เราได้ไอเทมดีๆมากขึ้น โดยจะมีหลอด HP ระบุให้เราเห็น และสามารถดูได้ว่าจะเลือกทำลายส่วนไหนก่อน
นอกจากตีมอนสเตอร์แล้ว เราก็ยังต้องทำภารกิจต่างๆไปด้วย ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ เควสหลัก, เควสรอง, และงานจิตอาสา โดยระบบเกมทำให้เราเล่นได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องวิ่งวนหาว่าแต่ละเควสต้องไปทางไหน จะมีตำแหน่งชี้ และบอกระยะทาง ทำให้เราไม่ต้องเสียเวลากับแต่ละเควสนาน เพราะถ้าให้วิ่งหา!เองจริงๆ บอกเลยว่าสาหัส เพราะ map กว้างมากกกกกก ยิ่งถ้าอยู่กลางทะเลทรายด้วยแล้ว เคว้งคว้างเลย
แต่ถ้าเควสไหนที่ไม่มีตำแหน่งบอก เราจะต้องเปลี่ยนมาใช้ Nyaal’s sense และมองไปรอบๆ จะเห็นเส้นแสงสีฟ้าๆ ยาววววววว บอกตำแหน่งเราอยู่ ให้เราไปที่ตรงนั้นได้เลย
ตัวละครเกมนี้จะไม่มีเลเวลเหมือนกับ RPG เกมอื่นๆ แต่จะต้องอัพเกรดชุดเกราะ และเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ซึ่งสาเหตุที่ต้องเปลี่ยนไปเรื่อยๆนั้นก็เพราะ ชุดเกราะแต่ละชุด จะสามารถอัพเกรดได้เพียงแค่ 3 ระดับเท่านั้น และเมื่อไปเจอกับมอนสเตอร์ที่ระดับสูงกว่าจะทำให้สู้ยากขึ้น เราจึงต้องหาเกราะเปลี่ยน และเมื่อถึงขั้นสูงแล้ว ก็ค่อยมาเลือกอีกทีว่าชุดเกราะตัวไหนจะเข้ากับเราที่สุด
ด้านกราฟฟิก/บรรยากาศ
โดยรวมเกมนี้ map จะอยู่ในพื้นที่ของทะเลทราย อาจจะมีป่าที่อุดมสมบูรณ์บ้าง มีซากปรัก หักพัง ของสิ่งก่อสร้างที่เกิดจากสงครามบ้าง ถึงส่วนใหญ่จะดูแล้วมีแต่ทะเลทราย ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าแห้งแล้งมากนัก เพราะผู้พัฒนาจัดองค์ประกอบของฉากได้อย่างลงตัวมาก บวกกับการเดินทางของเรานั้น ถ้าใครที่ชอบสำรวจทุกซอก ทุกมุม เกมมีระบบที่ทำให้เราไม่ต้องวิ่งให้เมื่อยอย่าง sand slide จะเหมือนกับตัวละครเล่นกระดานโต้คลื่น แต่อยู่บนทราย ซึ่งมันเพลิดเพลินมากๆ แต่ถ้าใครรู้สึกว่าเราออกมาไกลเกินไปแล้ว ก็หาจุด ทั่งตีเหล็ก ซึ่งเป็นทั้งจุดเซฟ ฮิล อัพเกรดของต่างๆ รวมถึงสามารถ fast travel ไปทั่งตีเหล็กในตำแหน่งอื่นได้ด้วย
รายละเอียดของภาพ และ texture ส่วนตัวยังรู้สึกไม่ค่อยประทับใจมากนัก ด้วยเหตุที่ลงเครื่อง Next Gen แต่ภาพของเกมยังไปไม่ถึงขั้นนั้น อาจจะเป็นเพราะว่าลงในหลาย Platforms ด้วย จึงทำให้ผู้พัฒนาไม่สามารถปล่อยของได้อย่างเต็มที่
ส่วนรายละเอียดอื่นๆ เช่นการเคลื่อนไหลของตัวละคร เอฟเฟคพลัง การออกท่าสกิล ถือว่าทำได้ดี เพราะทุกอย่างดูสมูธ ลื่นไหลไปหมด เอฟเฟคสกิลทำออกมาได้สวยงาม แปลกตา ยิ่งบวกเข้ากับมุมกล้องเวลาใช้สกิลนั้น ให้อารมณ์เหมือนกำลังดูหนังอยู่เลย เพราะการเคลื่อนไหวของมุมกล้องมีลูกเล่นเคลื่อนที่ตามจังหวะต่างๆที่สำคัญ ตรงจุดนี้ทำให้สนุกขึ้นมากในการเล่นเกมนี้
สรุป
ถ้าถามว่าเกมนี้เหมาะกับใคร ส่วนตัวคิดว่าใครที่ชอบเกมแนวต่อสู้ ผจญภัย ตีมอนสเอตร์ จัดเซทสกิลอัพเกรดตัวละคร ฟาร์มหาของ สำรวจและดื่มด่ำบรรยายกาศ มองหาเกมที่เล่นได้ยาวๆ แบบเพลินๆ เกมนี้เหมาะกับคุณมากๆ ส่วนตัวผมนั้นถือว่าชอบเกมนี้เลยที่เดียว ถึงแม้เนื้อเรื่องจะไม่แน่นมาก แต่ก็ทำให้ดูมีสีสันแบบไม่น่าเบื่อเกินไป บวกกับระบบเกมเพลย์ที่ออกแบบมาได้ลงตัว ทำให้เล่นแล้ว ก็อยากจะเล่นอีก
คะแนนสำหรับเกมนี้ผมขอให้ 8 / 10
ทั้งหมดคือความคิดเห็นส่วนตัวจาก insight gaming เท่านั้น ที่เหลือคุณต้องเป็นผู้ตัดสินด้วยตัวเองนะจ๊ะ
































