HONOR X9b 5G สมาร์ตโฟนระดับกลางรุ่นใหม่ของ X Series ที่ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “All Angle Ultra Tough” จึงมั่นใจได้ในเรื่องความอึด ถึก ทน รวมถึงยังมาพร้อมกับสเปกและฟีเจอร์แบบจัดเต็มไม่เป็นสองรองใคร

สเปก HONOR X9b 5G

• หน้าจอ : AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว (2652 x 1200 พิกเซล, 120Hz)
• CPU : Qualcomm Snapdragon 6 Gen 1 (Octa-core)
• GPU : Adreno A710
• RAM : 12GB
• ROM : 256GB
• ระบบปฏิบัติการ : Android 13 (MagicOS 7.2)
• กล้องหลัง :
• กล้องหลัก (Ultra-Clear) 108 ล้านพิกเซล
• กล้องมุมกว้าง (Ultra-Wide) 5 ล้านพิกเซล
• กล้องมาโคร (Macro) 2 ล้านพิกเซล
• กล้องหน้า : 16 ล้านพิกเซล
• ถ่ายวิดีโอ :
  • กล้องหลัง 4K (3840 x 2160 พิกเซล, 30fps)
  • กล้องหน้า 1080P (1920 x 1080 พิกเซล)
• แบตเตอรี่ : 5800mAh (SuperCharge 35W)
• เครือข่าย : 5G:NR, 4G (LTE FDD/FDD), 3G (WCDMA), 2G (GSM)
• การเชื่อมต่อ : Wi-Fi (802.11 a/b/g/n/ac, 2.4 GHz, 5 GHz), Bluetooth 5.1, NFC
• ซิมการ์ด : รองรับ 2 ซิมการ์ด (Nano-SIM)

ดีไซน์
รุ่นนี้ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันภายใต้ดีไซน์รูปทรงนาฬิกาจึงมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งสะท้อนความพรีเมียมได้อย่างลงตัว ด้วยความที่ตัวเครื่องบางเพียง 7.98 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 185 กรัม จึงจับถือถนัดมือและพกพาได้สะดวก

อีกสิ่งที่แสดงถึงความเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ HONOR ก็คือกล้องดีไซน์วงแหวนให้ความรู้สึกเรียบหรู และในส่วนของฝาหลังเป็นสีดำ Midnight Black

ระบบปฏิบัติการ (Operating System) 

HONOR X9b 5G รันบน Android 13 ครอบทับด้วย MagicOS 7.2 โดยภาพรวมของ UI ถูกออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ Flow Design ที่เน้นความเรียบง่ายเป็นมิตรกับผู้ใช้ ซึ่งจากการใช้งานยังให้ความรู้สึกรวดเร็ว ลื่นไหล และมีความเสถียรระดับหนึ่งเลยทีเดียว

ด้วยความที่เป็น MagicOS 7.2 เวอร์ชันล่าสุดจึงได้รับการพัฒนาและปรับปรุงมาเป็นอย่างดี รวมถึงยังมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่มาด้วย อาทิ

HONOR Connect : ฟีเจอร์แชร์ไฟล์หรือคอนเทนต์แบบไร้สายระหว่างอุปกรณ์ของตระกูล HONOR

 YOYO : ฟีเจอร์ผู้ช่วยอัจฉริยะ

นอกจากนี้ MagicOS 7.2 ยังได้รับการอัปเดต Security Patch ประจำเดือนมกราคม 2024 เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นจึงมั่นใจได้ถึงความปลอดภัย 

ฟีเจอร์เด่นของ HONOR X9b 5G

จอแสดงผล
จุดเด่นสำคัญของรุ่นนี้ก็คือมีจอแสดงผลเทคโนโลยี Ultra-Bounce Anti-Drop ที่มีคุณสมบัติพิเศษรองรับการกระแทกรอบด้านแบบ 360 องศา ดังนั้นจึงการันตีได้ในระดับหนึ่งว่าสามารถช่วยปกป้องสมาร์ตโฟนไม่ให้จอแตก นอกเหนือจากความทนทาน จอแสดงผลของรุ่นนี้ยังตอบโจทย์ด้านมัลติมีเดียได้อย่างดี ด้วยเทคโนโลยี AMOLED ความละเอียดระดับ 1.5K (2652 x 1200 พิกเซล) มีอัตรารีเฟรชเรทสูงถึงระดับ 120Hz ซึ่งความละเอียดและรีเฟรชเรทระดับนี้เรียกได้ว่าเพียงพอต่อการใช้งานในยุคปัจจุบันแทบจะทุกด้านแล้ว

หลังจากทดสอบใช้งานพบว่าหน้าจอสามารถแสดงผลในด้านสีสันได้โดดเด่นตามสไตล์หน้าจอ AMOLED รวมถึงภาพยังให้ความรู้สึกสมูทแบบสุดๆ คงต้องยกความดีความชอบนี้ให้กับรีเฟรชเรท 120Hz ดังนั้นจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับดูหนังและเล่นเกม

แบตเตอรี่

อีกหนึ่งความโดดเด่นที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือเรื่องของแบตเตอรี่ โดยรุ่นนี้มาพร้อมความจุที่มากถึง 5800mAh เรียกว่าเป็นรุ่นที่มีความจุสูงระดับต้นๆ ในตลาดเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบ SuperCharge 35W 

ก่อนทดสอบความอึดของแบตเตอรี่เราได้ทำการเปิดโหมด Performance ซึ่งโหมดนี้จะกินพลังงานมากกว่าปกติเพื่อดึงประสิทธิภาพออกมาสูงสุด จากนั้นทดสอบใช้งานแอป YouTube ปรับความละเอียด 1080p ความสว่างหน้าจอ Auto ระดับเสียงประมาณ 60% เล่นต่อเนื่องนาน 7 ชั่วโมงแบตเตอรี่ยังเหลือ 41% จากเดิม 84% ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าสามารถใช้งานได้ตลอดวันโดยไม่ต้องชาร์จอย่างแน่นอน

มาตรฐาน IP53
ใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างมั่นใจด้วยคุณสมบัติกันละอองน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP53

ระบบเสียง Histen
เทคโนโลยีการปรับจูนเสียงให้อัตโนมัติเพื่อเสียงที่มีมิติยิ่งขึ้น

• ดูหนังแนะนำให้เลือกโหมด 3D Audio ระบบจะจำลองเสียงให้แบบเซอร์ราวด์ 3 มิติ
• ฟังเพลงแนะนำให้เลือกโหมด Natural จะให้มิติเสียงที่คมชัด
  

 

กล้อง
รุ่นนี้แม้ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟนระดับกลางแต่มาพร้อมกล้องความละเอียดสูงระดับ 108 ล้านพิกเซล ภายในมีเซนเซอร์ขนาด 1/1.67 นิ้ว รวมถึงมีเลนส์มุมกว้าง (Ultra-Wide) และเลนส์มาโคร (Macro) มาให้ด้วย ถือว่าครอบคลุมการใช้งานได้ดีระดับหนึ่งเลย แต่สิ่งที่เป็นไฮไลต์อีกหนึ่งอย่างของรุ่นนี้ก็คือระบบซูม 3 เท่า โดยไม่สูญเสียรายละเอียด

หลังจากทดสอบใช้งานพบว่ากล้องตอบสนองรวดเร็ว ไม่มีอาการชัตเตอร์แล็กให้เห็น ระบบโฟกัสค่อนข้างเร็วและแม่นพอสมควร ในส่วนโทนสีดูเป็นธรรมชาติ สีสันไม่ได้จัดจ้าน โดยภาพรวมถือว่าตอบโจทย์การถ่ายภาพทั่วไปได้ครบและภาพที่ได้มีคุณภาพดีระดับหนึ่งเลย

โหมดกล้องที่น่าสนใจ
โหมด Aperture (ชัดลึก – ชัดตื้น)

โหมด Portrait (ภาพถ่ายบุคคล)

โหมด Pro (ปรับตั้งค่ากล้องเองอย่างอิสระ)

ทดสอบเล่นเกม
ชิปเซ็ต Snapdragon 6 Gen 1 แม้ว่าจะเป็นชิประดับกลาง แต่จากการทดสอบพบว่าสามารถตอบสนองเกมในยุคปัจจุบันได้อย่างสบาย โดยเกมที่เราหยิบมาทดสอบ ก็จะมี Asphalt 9: Legends และ Arena Breakout ซึ่งสามารถทำอัตราเฟรมเรตได้ 60 fps นั่นหมายความว่าสามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล อีกทั้งยังได้ภาพกราฟิกที่สวยงามอีกด้วย

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง HONOR X9b 5G

สรุป
HONOR X9b 5G นับเป็นสมาร์ตโฟนระดับกลางอีกหนึ่งรุ่นที่มีความครบเครื่องในทุกด้าน สำหรับใครที่กำลังมองหาสมาร์ตโฟนในช่วงราคาหมื่นต้นๆ อยู่ รุ่นนี้น่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียว