REVIEWMOBILE

รีวิว Infinix HOT 50 Pro+ สมาร์ตโฟนดีไซน์บางเบา จอ Amoled 3D-Curved 120Hz ลำโพงคู่ เล่นเกมสนุก สเปกจัดเต็ม ในราคาสุดคุ้ม!

เรียกได้ว่ากระแสร้อนแรง HOT สุด ๆ ในตอนนี้ สำหรับ Infinix HOT 50 Pro+ สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดจากแบรนด์อินฟินิกซ์ ที่เปิดราคาค่าตัวมาไม่ถึง 7,000 บาท! ด้วยสเปกแบบฮอต ๆ หน้าจอ Amoled 3D-Curved 120Hz ดีไซน์พรีเมียมสวยงาม พร้อมน้ำหนักที่เบาเพียง 162 กรัม และบางเพียง 6.8 มิลลิเมตร จนนาทีนี้ได้ชื่อว่าเป็น ‘เกมมิ่งโฟนที่บางที่สุดในโลก’

ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต MediaTek Helio G100 ทำงานร่วมกับ RAM 8GB + ROM 256GB ใช้งานลื่นไหล ไม่สะดุด พร้อมการรับรอง TÜV SÜD 5-Year Fluency ครั้งแรกของโลก และยังจัดเต็มเอาใจสายเกมมิ่งด้วย E-sports Level Touch สนุกไปกับความเร็วและอัตราการสัมผัส Instant Touch Sampling Rate ที่ 2160Hz และความละเอียดจอสูง 16 เท่า พร้อมด้วย Infinix AI ∞ ผู้ช่วยอัจฉริยะที่จะทำให้การใช้งานสมาร์ตโฟนในด้านต่าง ๆ สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

Infinix HOT 50 Pro+ มากับกล้องหลัง 2 ตัว ความละเอียดสูงสุด 50MP และกล้องหน้าความละเอียด 13MP พร้อมลำโพงคู่ Sound by JBL แบตเตอรี่ขนาด 5,000mAh รองรับชารจเร็ว 33W มาตรฐานกันฝุ่นกันน้ำ IP54 และเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ทั้งหมดนี้ คือเหตุผลที่ทำให้ Infinix HOT 50 Pro+ ฮอตร้อนแรงแบบฉุดไม่อยู่ ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไรบ้าง มาติดตามกันต่อเลยค่ะ

เลือกอ่านตามหัวข้อที่สนใจ

ข้อมูลสเปกตัวเครื่องของ Infinix HOT 50 Pro+

  • หน้าจอแสดงผล 3D-Curved 120Hz AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD+ (1,080 x 2,436 พิกเซล)
    — Refresh Rate : 60Hz / 120Hz
    — Touch Sampling Rate : Up to 360Hz
    — Instant Touch Sampling Rate : 2160Hz
    — Cover Glass : Corning® Gorilla® Glass 5
    — Peak Brightness : 1300nits
    — Color Gamut : 100% DCI-P3
    — PWM Dimming : 2160Hz
  • CPU : MediaTek Helio G100 (6nm), Octa-core, Up to 2.2GHz
  • GPU :  Mali-G57
  • หน่วยความจำ RAM 8GB (LPDDR4X) + 8GB Extended RAM
  • หน่วยความจำ ROM 256GB (UFS 2.2)
  • ช่องใส่ซิมการ์ดแบบ 3-Slot รองรับ Dual Nano-SIM + Micro SD สูงสุด 1TB
  • กล้องหลัง 2 ตัว ประกอบด้วย
    — กล้องหลักความละเอียด 50MP (HI-5022Q,1/2.8” Sensor, 6P lens, F1.6, AF, FOV:77.3°)
    — กล้อง Depth ความละเอียด 2MP (F/2.4, FOV 89°, FF)
    — ไฟแฟลช Rear Double Flash
  • กล้องหน้า ความละเอียด 13MP (GC13A0, 1/3.06” Sensor, 5P Lens, F2.2, FF, FOV:82°)
    — ไฟแฟลช Front Flash
  • เครือข่าย
    — 2G : B2 / B3 / B5 / B8
    — 3G : B1 / B2 / B4 / B5 / B8
    — 4G : B1 / B2 / B3 / B4 / B5 / B7 / B8 / B20 / B28A / B28B / B38 / B41 (120M) / B40
  • การเชื่อมต่อ
    — Wi-Fi 802.11 (a / b / g / n / ac)
    — Bluetooth
    — GPS, OTG, FM, NFC
    — พอร์ต USB Type-C
  • ระบบเซนเซอร์ G-Sensor, E-compass, Light Sensor (Front and Back), Gyroscope, Proximity Sensor, Fingerprint (In-display Fingerprint), Motor
  • ลำโพงคู่สเตอริโอ Sound by JBL
  • แบตเตอรี่ 5000mAh พร้อมชาร์จไว 33W
  • ระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย XOS 14.5
  • มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP54
  • ตัวเลือกสี : สีดำ Sleek Black, สีเงิน Titanium Grey และสีม่วง Dreamy Purple
  • ขนาดตัวเครื่อง 164.10 x 74.43 x 6.80 มม.
  • น้ำหนัก 162 กรัม

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • ตัวเครื่อง Infinix HOT 50 Pro+
  • อแดปเตอร์ 33W
  • สายชาร์จ USB Type-A to Type-C
  • เข็มจิ้มถาดซิม
  • เคสป้องกันรอยตัวเครื่อง (Hard Case)
  • ฟิล์มกันรอยหน้าจอ
  • ชุดทำความสะอาดติดฟิล์มโทรศัพท์
  • คู่มือการใช้งานและใบรับประกันสินค้า
  • QR Code สิทธิพิเศษ Infinix HOT 50 Series x FREE FIRE

ย้อนกลับไปเลือกหัวข้อ


— A New Design Standout

Infinix HOT 50 Pro+ มาพร้อมคำนิยาม “พลังไร้ขีดจำกัดในดีไซน์ที่บางเบา” (Slim down, Power up) ชูความโดดเด่นด้านความบางและเบา โดยเป็น World’s Slimmest เกมมิ่งโฟนที่บางที่สุดในโลก เพียง 6.8 มิลลิเมตร พ่วงมากับน้ำหนักตัวที่เบาเพียง 162 กรัมเท่านั้น

โดยมาพร้อมกับสถาปัตยกรรมการออกแบบแห่งอนาคต “TitanWing Architecture” ที่ผสมผสานระหว่างดีไซน์บางเฉียบและความทนทานเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว พูดให้เข้าใจง่าย ๆ – บางกว่า แต่ก็ทนทาน, บางกว่า แต่ก็แข็งแกร่ง, บางกว่า แต่ก็คงความเย็น (ระบายความร้อนได้ดี) นั่นเอง

สำหรับทางด้านของดีไซน์นี้ นอกจากจะเน้นหนักในเรื่องของความบางเบา เพื่อประโยชน์ทางด้านการใช้งานให้สามารถจับถือได้กระชับและสบายมือแล้ว ยังมาพร้อมงานออกแบบทางด้านสีสันและการจัดวางองค์ประกอบต่าง ๆ ของตัวเครื่องที่โดดเด่นเช่นเดียวกัน ให้ภาพลักษณ์ของความหรูหรา พรีเมียม และทันสมัย สวยมาก (ดูแค่นี้คิดว่าราคาเกินหมื่นไปแล้ว)

Infinix HOT 50 Pro+ มีขนาดรอบตัวเครื่องที่ 164.10 x 74.43 x 6.80 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 162 กรัม มาพร้อมกับสีตัวเครื่องให้เลือกทั้งหมด 3 สี คือ สีดำ Sleek Black, สีม่วง Dreamy Purple และสีในบทความรีวิวนี้ สีเงิน Titanium Grey

ด้านหลังตัวเครื่อง ใช้โมดูลกล้องรูปทรงสี่เหลี่ยมโดยวางตัวกล้องรูปทรงลูกบาศก์ (Cube) เรียงเป็นแถวลงมา โดยมีกล้องหลัง 2 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลักความละเอียด 50MP (F/1.6) และกล้อง Depth ความละเอียด 2MP (F/2.4) ทางด้านขวาของโมดูลกล้องมีไฟแฟลชแบบ Rear Double Flash มาด้วย

หน้าจอแสดงผล AMOLED แบบโค้ง (AMOLED 3D-Curved) ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD+ (1,080 x 2,436 พิกเซล) อัตรา Refresh Rate สูงสุด 120Hz และค่าความสว่างได้สูงสุด 1300nits

ด้านหน้าใช้ดีไซน์การวางกล้องหน้าแบบเจาะรู (กล้องหน้าความละเอียด 13MP) ขอบจอบนทางด้านซ้ายมีไฟแฟลช สำหรับการใช้งานกล้องหน้า และมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่บนหน้าจอด้านล่าง

ด้านบนตัวเครื่อง มีลำโพงเสียง และไมค์ตัดเสียงรบกวน

ด้านขวาของตัวเครื่อง มีปุ่มเพิ่มเสียง-ลดระดับเสียง และขยับลงมาเป็นปุ่มเพาเวอร์ สำหรับเปิด-ปิดเครื่อง และพักหน้าจอ ส่วนทางด้านซ้ายของตัวเครื่อง ไม่มีปุ่มและพอร์ตการใช้งานใด ๆ

ส่วนทางด้านล่างของตัวเครื่อง มีถาดซิมการ์ดแบบ 3-Slot รองรับ Dual Nano-SIM + Micro SD สูงสุด 1TB ถัดมาทางด้านขวาเป็นรูไมโครโฟน พอร์ต USB Type-C และลำโพงเสียงอีก 1 ตัว


— A New Performance Standout

Rich Colors, Refresh Your View

Infinix HOT 50 Pro+ ใช้หน้าจอแสดงผล AMOLED ขอบโค้ง (AMOLED 3D-Curved Display ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD+ อัตรา Refresh Rate สูงสุด 120Hz โดยสามารถเลือกปรับใช้งานได้ทั้งแบบให้สลับอัตราการรีเฟรชอัตโนมัติ หรือจะเลือกปรับด้วยตัวเองระหว่าง 60Hz และ 120Hz ก็ได้ ซึ่งทางด้านของสีสันก็ต้องบอกเลยว่าสีสันสดใส คมชัด สมจริง ตามความครอบคลุมของสีที่กว้าง (100% DCI-P3) สามารถแสดงสีสันได้ถึง 1 พันล้านสี พร้อมค่าความสว่างสูงสุดถึง 1300nits ใช้งานกลางแจ้งได้สบาย ๆ หายห่วง

ทางด้านของประสิทธิภาพการใช้งานหน้าจอนี้ ยังมีการเพิ่มขีดความสามารถเพื่อเอาใจคอเกมด้วย E-sports Level Touch ให้สามารถเลือกปรับการควบคุมในระดับอีสปอร์ตได้ โดยการเลือกระดับความไวและอัตราการสัมผัส Instant Touch Sampling Rate ที่ 2160Hz ให้การสัมผัสที่ตอบสนองได้รวดเร็วทันใจยิ่งขึ้น

สำหรับการใช้งานจริง ต้องบอกว่าจุดนี้เป็นอีกหนึ่งจุดที่ประทับใจมากเลยทีเดียวค่ะ ด้วยการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ที่รวดเร็วทันใจ การปัดไปมาลื่นไหล นอกจากจะเหมาะกับสายเกมแล้ว สายดูซีรีส์ ดูสตรีมมิ่ง หรือเสพคอนเทนต์ต่าง ๆ ก็ใช้งานได้แบบฟิน ๆ ไม่แพ้กัน

——————————–

New Chip, New Leap

Infinix HOT 50 Pro+ ขับเคลื่อนประสิทธิภาพและความแรงด้วย MediaTek Helio G100 ชิปเซ็ตสถาปัตยกรรมการผลิต 6 นาโนเมตร ที่มีการอัปเกรดประสิทธิภาพการทำงานให้ดีขึ้นจากในรุ่นก่อนเล็กน้อย แต่โดยรวมแล้วถือว่าไม่ได้แย่อะไรเลยค่ะ การใช้งานด้านต่าง ๆ ยังลื่นไหลดี ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม แชท หรือเปิดใช้งานหลายแอปพลิเคชันพร้อมกันก็ไม่สะดุด

ชิปเซ็ตจับคู่การทำงานร่วมกับ RAM ขนาด 8GB (LPDDR4X) มาพร้อมเทคโนโลยี Dynamic RAM Expansion ผสานพื้นที่ RAM ได้อีกสูงสุดถึง 8GB ทำให้ตัวเครื่องสามารถใช้งาน RAM ได้มากถึง 16GB ช่วยให้การใช้งานตัวเครื่องราบรื่นยิ่งขึ้น สามารถเปิดการทำงานหลาย ๆ แอปฯ พร้อมกันได้อย่างลื่นไหล นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูล (ROM) ขนาดความจุ 256GB (UFS 2.2) ซึ่งถือเป็นขนาดมาตรฐานที่พอเหมาะพอดีสำหรับการจัดเก็บข้อมูลต่าง ๆ บนตัวเครื่องค่ะ ซึ่งหากไม่เพียงพอ ก็ยังสามารถเพิ่มพื้นที่ด้วย Micro SD ได้อีกถึง 1TB เลยทีเดียว

——————————–

Leap into Infinix AI ∞

Infinix HOT 50 Pro+ มาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำอย่าง Infinix AI ∞ คู่หูอัจฉริยะเพื่อการสร้างารรค์ ฟังก์ชัน AI ใหม่ล่าสุด ที่แบ่งการใช้งานออกเป็น 2 แบบ คือ

AI Creation ฟังก์ชันสำหรับการสร้างสรรค์ ตกแต่งภาพ โดยมีเครื่องมือที่สามารถใช้งานได้ 3 ฟีเจอร์

AI Eraser สำหรับการลบวัตถุที่ไม่ต้องการออกจากภาพ
AI CutOuts สำหรับการตัดภาพส่วนที่ต้องการออกมาได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่กดค้างไว้ยาว ๆ

AI Wallpaper สนุกไปกับการสร้างภาพพื้นหลังการ์ตูนของตัวเองได้ง่าย ๆ สร้างสรรค์หน้าจอให้มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร

AI Life ฟังก์ชันสำหรับช่วยทางด้านการทำงานหรือการเรียนให้สะดวกขึ้นกว่าเดิม โดยมี 4 เครื่องมือให้ใช้งาน

Ask AI ช่วยสรุปเนื้อหาที่ซับซ้อน ดึงข้อมูลสำคัญได้อย่างรวดเร็ว และให้คำแนะนำในการเขียนเชิงสร้างสรรค์ ซึ่งจะช่วยลดเวลาในการทำงานให้รวดเร็วขึ้น
Folax ผู้ช่วย AI อัจฉริยะที่สามารถควบคุมการทำงานผ่านเสียง เช่น การเปิดเพลง รับสาย หรืออัปเดตการเดินทาง

AI Voice Capture สามารถถ่ายภาพโดยไม่ต้องกดชัตเตอร์ เพียงแค่ใช้คำสั่งเสียงอย่าง ‘Cheese’, Shoot’ หรือ ‘Capture’

นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ Live Texts∞ สำหรับช่วยดึงข้อมูลสำคัญจากภาพและเอกสารได้ Magic Create∞ ช่วยแนะนำขั้นตอนการสร้างสรรค์ผลงาน และ Visual Look Up∞ สำหรับใช้เพื่อค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่สำคัญและสถานที่ทางวัฒนธรรมต่าง ๆ

——————————–

Leap into Gaming, Secure Your Victory

ประสบการณ์การเล่นเกมบน Infinix HOT 50 Pro+ ทำได้ดีเลยค่ะ โดยทดสอบกับเกมคู่บุญอย่าง Free Fire เมื่อเข้าเกมนี้ อันดับแรกเลยก็ต้องดูที่ตัว Gyroscope บอกเลยว่าลื่นมาก เรียลมาก ไม่หน่วง ไม่ช้า สาย Free Fire คิดว่าต้องชอบกันแน่นอนค่ะ เกมนี้ปรับเฟรมเรทได้สูงสุดถึง 90FPS และสามารถเลือกอัตราการตอบสนองการสัมผัสหน้าจอแบบ E-sports Level Touch เพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่รวดเร็วและแม่นยำได้ด้วย

ในขณะที่อีกหนึ่่งเกมฮิตอย่าง RoV ก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน กราฟิกต่าง ๆ ปรับได้สุด ภาพ HD ปรับได้ระดับ ‘สูงมาก’ การแสดงผลปรับได้ระดับ ‘สูง’ และเล่นในโหมดเฟรมเรทระดับ ‘สูง’ ได้ โดยเฟรมเรทจะวิ่งอยู่ในช่วง 58 – 61FPS ที่สำคัญคือทัชง่าย ติดนิ้ว เรียกได้ว่าเล่นได้แบบลื่น ๆ ชิลล์ ๆ เลยล่ะค่ะ

——————————–

Leap into Sound, JBL Dual Speakers

Infinix HOT 50 Pro+ มาพร้อมลำโพงคู่สเตอริโอ Sound by JBL พร้อมโหมดปรับเสียง DTS และสามารถปรับค่า EQ เองได้ เพื่อให้เสียงที่ตรงใจมากที่สุด ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วได้ทดลองฟังตามค่ามาตรฐานของเครื่องที่ตั้งมา ก็ค่อนข้างประทับใจเลยค่ะ เสียงดี เสียงเบสกระชับ (แต่ไม่แน่นมาก) เสียงร้องคมชัด เครื่องดนตรีกำลังดี Pop ได้ R&B ได้ Rock ได้ ฟัง AC/DC, Guns N’ Roses, Aerosmith หรือเพลงฮอตตอนนี้อย่าง APT. ของ ROSÉ & Bruno Mars ก็ม่วนจอยอยู่เด้อ โดยรวมคือฟังสบาย ฟังสนุก

——————————–

In-Display Fingerprint

Infinix HOT 50 Pro+ มาพร้อมระบบความปลอดภัย 3 รูปแบบ คือ รหัสล็อกหน้าจอ, ปลดล็อกด้วยใบหน้า และปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือ (In-Display Fingerprint) สำหรับการสแกนสามารถทำได้ดีทั้งสแกนด้วยใบหน้าและสแกนด้วยลายนิ้วมือ ปลดล็อกได้อย่างรวดเร็ว

——————————–

33W Advanced FastCharge + 5000mAh Long-Lasting Battery

ขนาดความจุของแบตเตอรี่บน Infinix HOT 50 Pro+ ใส่มาให้ที่ 5,000mAh อายุการใช้งานเฉลี่ย 4 ปี หรือประมาณ 1,600 รอบการชาร์จ ถ้าเน้นใช้งานทั่วไป อยู่ได้ทั้งวันแน่นอนค่ะ ส่วนสายเกม สายแอคทิวิตี้ เน้นดูหนัง ฟังเพลง ถ่ายรูป เล่นโซเชียล แบบติดมือถือจัด ๆ ก็ไม่ต้องกังวล เพราะรุ่นนี้มาพร้อมชาร์จไว 33W เล่นต่อได้ยาว ๆ ตลอดทั้งวันเลย!

——————————–

คะแนนการทดสอบประสิทธิภาพด้วย Benchmark  

• ทดสอบประสิทธิภาพการทำงานด้วย AnTuTu Benchmark ได้ 444,212 คะแนน
• ทดสอบความเร็วในการอ่าน-เขียนของหน่วยความจำด้วย AnTuTu Benchmark ได้ Sequential Read 1008.7 MB/s | Sequential Write 857.7 MB/s
• ทดสอบประสิทธิภาพด้วย Geekbench 6 ได้ Single-Core : 741 คะแนน | Multi-Core : 2018 คะแนน
• ทดสอบกราฟิกด้วย 3D MARK (Wild Life) ได้ 1,373 คะแนน
ทดสอบ Multi-touch รองรับการสัมผัสพร้อมกันบนหน้าจอ 10 จุด

ย้อนกลับไปเลือกหัวข้อ


—  A New Imaging Standout

ทางด้านกล้องถ่ายรูปของ Infinix HOT 50 Pro+ มาพร้อมกล้องหลัง 2 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลักความละเอียด 50MP (F/1.6) และกล้อง Depth ความละเอียด 2MP (F/2.4) ผลงานภาพถ่ายเรียกว่าอยู่ในระดับดี ไม่ถึงกับว้าว แต่ภาพที่ออกมาก็มีความคมชัด และหวังผลได้ค่ะ มีโหมดให้เลือกใช้งานหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น AI Cam, รูปบุคคล, โหมดประสิทธิภาพในที่มืด, โหมดภาพยนตร์ และอื่น ๆ ในขณะที่กล้องหน้ามาพร้อมความละเอียด 13MP (F/2.2) ให้การถ่ายเซลฟี่ที่คมชัด สวยงาม มีโหมดบิวตี้ ที่สามารถปรับแต่งใบหน้า หรือแต่งหน้าก็ได้ (กล้องหลังก็มีเหมือนกันนะ โดยสามารถปรับแต่งได้ทั้งงานผิวและเรือนร่างเลย)

หน้าอินเตอร์เฟสกล้อง Infinix HOT 50 Pro+

ส่วนทางด้านของวิดีโอ รองรับความละเอียดสูงสุดที่ 2K @30FPS และรองรับกันสั่นแบบ EIS ที่ความละเอียด 1080P @30FPS โดยรวมแล้วถือว่าชัดเจนดี เมื่อเปิดใช้งานกันสั่น ก็อาจจะยังมีสั่น ๆ อยู่บ้าง

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง Infinix HOT 50 Pro+

ย้อนกลับไปเลือกหัวข้อ


— Infinix HOT 50 Pro+ พลังไร้ขีดจำกัดในดีไซน์ที่บางเบา

สเปกจัดหนักขนาดนี้ ในราคาเท่านี้ บอกได้คำเดียวว่าคุ้มกับคุ้มค่ะ จอโค้งในราคานี้ถือว่าหาไม่ได้ง่าย ๆ ส่วนคนที่ไม่ชอบจอโค้งก็อาจจะขอบายกับรุ่นนี้ ซึ่งโดยส่วนตัวก็ไม่ชื่นชอบจอโค้งเช่นกันค่ะ ด้วยเหตุผลหลาย ๆ อย่าง ทั้งการซ่อมบำรุงเอย มุมมองภาพเอย แต่พอได้ลองจับเจ้า Infinix HOT 50 Pro+ รุ่นนี้ ก็เปลี่ยนความคิดไปอยู่เหมือนกัน อาจจะด้วยดีไซน์ที่ไม่ได้โค้งมาก (โค้งหน้าเยอะกว่าโค้งหลัง โค้งหลังนิดเดียว) จับถือเข้ามือดี แถมเรื่องความเบาก็คือเบาจริง ถือสบาย พกพาสะดวก

เอาจริงคือรุ่นนี้ความน่าสนใจค่อนข้างจะเยอะมาก ๆ ขอมาสรุปรวบยอดที่ยังไม่ได้พูดถึงเพิ่มเติมตรงนี้อีกสักนิดค่ะ Infinix HOT 50 Pro+ รองรับ NFC โดยมาพร้อมกับเทคโนโลยี SphereTech NFC 720° ที่ผู้ใช้สามารถทำธุรกรรมได้จากทุกมุม โดยรองรับการอ่านบัตรจากทั้งด้านหน้า ด้านบน และด้านหลัง ซึ่งช่วยให้การชำระเงินง่ายยิ่งขึ้น ฟังก์ชัน Dynamic Bar แถบบาร์แจ้งเตือนต่าง ๆ ที่ด้านบนของหน้าจอ ก็ยังคงมีมาให้อยู่นะ รวมไปถึง Always-On Display (AOD) ข้อมูลเวลา การแจ้งเตือน และสภาพอากาศ ก็มีเช่นกัน

สำหรับคนเล่นเกม ชอบเสพคอนเทนต์ต่าง ๆ ต้องประทับใจ Infinix HOT 50 Pro+ รุ่นนี้แน่นอนค่ะ ทั้งหน้าจอ AMOLED 120Hz ความลื่นไหล ระบบเสียงที่มากับลำโพงคู่ จูนเสียงโดย JBL เรียกว่าให้ประสบการณ์ด้านความบันเทิงอย่างเต็มอิ่มทั้งภาพและเสียง ส่วนด้านการถ่ายภาพ แม้ว่าจะไม่ได้จัดเต็มมาให้ในด้านนี้มากนัก (ก็เราเป็นเกมมิ่งโฟนนี่เนาะ) แต่ผลงานที่ออกมาก็ถือว่าอยู่ในระดับดีเลยนะ แบตอึด ชาร์จไว ใส่มาให้ครบทุกอย่างแล้ว ขอยกให้เป็นตัวเลือกสมาร์ตโฟนรุ่นที่ “แซ่บที่สุด” ในตอนนี้เลย

ย้อนกลับไปเลือกหัวข้อ


— Price, Promotion & Availability

Infinix HOT 50 Pro+ รุ่น 8GB + 256GB มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี คือ สีดำ Sleek Black, สีเงิน Titanium Grey และสีม่วง Dreamy Purple มาในราคาสุดคุ้มเพียง 5,899 บาท จากราคาเต็ม 6,499 บาท โดยจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป ทั้งช่องทางออนไลน์ Shopee, Lazada, Tiktok Shop และช่องทางออฟไลน์ BaNANA, Jaymart, TG FONE, IT CITY และร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

พร้อมรับฟรี! Infinix HOT 50 Pro Series Gift Box (ภายในกล่องประกอบด้วย ร่มและพัดลมสุดพรีเมียม) มูลค่า 999 บาท* และยังมีสิทธิ์ลุ้นรับ Free Fire Item มูลค่า 750 บาทอีกด้วย

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
*ของแถมมีจำนวนจำกัด

ย้อนกลับไปเลือกหัวข้อ


▶︎ อัปเดตข่าวสาร และบทความต่างๆ
คลิกดูต่อที่ insight-daily.com ได้เลย!

 

Leave a Reply