รีวิว realme C63 มือถือดีไซน์ฝาหลัง Vegan Leather ทนทาน กันน้ำ กล้องคู่ 50MP แบตอึด พร้อมชาร์จไว 45W
“รีวิว realme C63” สมาร์ตโฟน realme C Series รุ่นใหม่ของ realme ประเทศไทย ที่เข้ามาเสริมทัพตลาดมือถือในกลุ่ม Entry ให้แน่นขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้ ทั้ง realme C67 และ realme C65 ได้รับการตอบรับที่ดี แล้วก็ถึงคิวของ realme C63 น้องคนใหม่ที่ดูแล้วก็น่าจะได้รับการต้อนรับที่ดีจากแฟนคลับเรียลมีด้วยเช่นกันครับ
🛒 สั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์
realme C63 ถือเป็นก้าวสำคัญในวิวัฒนาการของแบรนด์ ด้วยการรีแบรนด์ภายใต้สโลแกน ‘Make it real’ ในฐานะเจเนอเรชันใหม่ของสมาร์ตโฟน C series ที่เน้นความคุ้มค่าของราคาและประสิทธิภาพ ทำให้ realme C63 มีพื้นผิวที่หรูหราและการยึดเกาะที่ดีกว่าผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ในกลุ่ม และในแง่ของประสิทธิภาพ ก็พร้อมมอบประสบการณ์ที่ราบรื่นที่สุดในช่วงราคา ซึ่งสัมผัสได้จากความเร็วในการชาร์จและการทำงาน
realme C63 เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกในตระกูล C series ที่ใช้หนังวีแก้นระดับพรีเมียมสำหรับฝาหลัง ซึ่งก่อนหน้านี้ใช้ในรุ่นเรือธงเท่านั้น และยังนำเสนอการชาร์จเร็ว 45W ซึ่งสามารถชาร์จได้สูงสุดถึง 50% ใน 30 นาที AI Boost เอกสิทธิ์เฉพาะของ realme นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้วยการใช้งานที่ยาวนาน กันน้ำและกันฝุ่น และ Smart Feature ทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ครอบคลุม ซึ่งทั้งหมดนี้และสิ่งที่ทุกคนกำลังจะได้อ่านในบทความรีวิวนี้ ผมเชื่อว่าน่าจะเพียงพอที่จะทำให้ทุกคนหลงรักน้องใหม่ “realme C63” คนนี้ครับ
เลือกอ่านตามหัวข้อที่สนใจ |
ข้อมูลสเปกตัวเครื่องของ realme C63
- หน้าจอแสดงผล Eye Comfort Display ขนาด 6.74 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD+ (1,600 x 720 พิกเซล)
— Refresh Rate 90Hz (ปรับได้ 60Hz และ 90Hz)
— Peak Brightness : 560nits
— Touch Sampling rate : 180Hz
- CPU UniSoC T612 (12nm) ความเร็ว 1.8GHz
- GPU Mali G57 | 650MHz
- หน่วยความจำ RAM 8GB (LPDDR4X) + 8GB Dynamic RAM
- หน่วยความจำ ROM 128GB (UFS 2.2)
- ช่องใส่ซิมการ์ด Triple Slot รองรับ 2 nano SIMs และรองรับ MicroSD Card สูงสุด 2TB
- กล้องหลัง 2 ตัว ประกอบด้วย กล้อง AI Camera ความละเอียด 50MP (f/1.8) + AI Lens 0.08MP (F3.0)+ Flash LED
- กล้องหน้า Portrait ความละเอียด 8MP (f/2.0)
- realme UI 5.0 (Base on Android 14)
- เครือข่าย
— 2G GSM: 850 / 900 / 1800 / 1900MHz
— 3G WCDMA : Bands 1 / 5 / 8
— 4G FDD-LTE : Bands 1 / 3 / 5 / 7 / 8 / 20 / 28
— 4G TD-LTE: Bands 38 / 40 / 41 (2496-2690MHz) - การเชื่อมต่อ
— Wi-Fi 2.4 GHz, 5 GHz
— Bluetooth 5.0
— GPS / GLONASS / GALILEO / Beidou/ QZSS
— พอร์ต USB Type-C, 3.5 mm. Headset Jack - ระบบเซนเซอร์ : Geomagnetic Sensor, Proximity Sensor, Light Sensor, acceleration Sensor, Gyroscope
- ลำโพงเดี่ยว Ultra-linear พร้อม UltraBoom 200%
- แบตเตอรี่ 5000mAh พร้อมบชาร์จไว 45W Fast Charge
- มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP54
- ตัวเลือกสี : สีน้ำเงิน ฝาหลัง Vegan Leather (Leather Blue) และสีเขียว (Jade Green)
- ขนาดตัวเครื่อง
— กว้าง 76.67 x สูง 167.3 x หนา 7.74 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก
— สีน้ำเงิน ฝาหลัง Vegan Leather (Leather Blue) 191 กรัม
— สีเขียว (Jade Green) 189 กรัม
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- ตัวเครื่อง realme C63
- อแดปเตอร์ (45W Fast Charge)
- สายชาร์จ USB-C
- เข็มจิ้มถาดซิม
- เคสป้องกันรอยตัวเครื่อง (Soft Case)
- ฟิล์มป้องกันรอยบนหน้าจอ (ติดมาให้เรียบร้อยแล้ว)
- คู่มือการใช้งาน
- ใบรับประกันสินค้า
— Design | ครั้งแรกของ Vegan Leather บนสมาร์ตโฟนหลักพัน เรียบหรู ทนทาน
realme C63 เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกของ realme และในตลาดมือถือราคาเรทนี้ ที่เลือกใช้ฝาหลังเป็นวัสดุหนังวีแกน (เฉพาะสี Leather Blue) ซึ่งปกติเราจะเห็นบนสมาร์ตโฟนราคาหลักหมื่นขึ้นไป การใช้ฝาหลังเป็นหนังวีแกนแบบนี้นอกจากเพิ่มความพรีเมียมให้กับสมาร์ตโฟนแล้ว ผู้ใช้งานอย่างเราก็จะได้ประโยชน์ในเรื่องของการถือจับใช้งานด้วย
เพราะจะเป็นรอยหรือคราบน้ำมันได้ยากและตัวหนังมีจะความทนทานสูง รวมทั้งการถือจับที่จะทำได้กระชับมือมากกว่าฝาหลังพื้นผิวกระจกหรือพลาสติก ทำให้ขณะถือใช้งานโอกาสที่จะลื่นหลุดมือยากขึ้นจากลายพื้นผิวที่คล้ายกับเปลือกลิ้นจี่ที่เพิ่มพื้นที่ผิวให้ยึดเกาะ
นอกจากฝาหลังที่เป็นหนังวีแกนแล้ว บริเวณโมดูลกล้องเองก็ได้รับการตกแต่งให้ลงตัวไปกับฝาหลังด้วยเช่นกัน โดยทาง realme เลือกใช้วัสดุเป็น “Aluminum Camera Deco” เป็นวัสดุเฟรมโลหะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีราคาสูง ทนทาน และแข็งแรงกว่า ไม่ค่อยมีใครกล้านำมาใช้บนสมาร์ตโฟนในช่วงราคานี้ และตัวเครื่องมีขนาดบางเพียง 7.74 มม. เท่านั้น ซึ่งเป็นขนาดที่บางกว่าสมาร์ตโฟนในช่วงราคาเดียวกันถึง 5%
รอบตัวเครื่องของ realme C63
— Performance | ประสิทธิภาพที่คุ้มค่า และใช้งานได้สมราคา
🔵 CPU Octa-core | Dynamic RAM 16GB + ROM 128GB
realme C63 มาพร้อมขุมพลังการทำงาน CPU UNISOC T612 เป็นชิปเซ็ต Octa-core (2 x A75@1.8GHz +6 x A55@1.8GHz) ความเร็ว 1.8 GHz ผลิตบนสถาปัตยกรรม 12nm หรือ big.LITTLE ทำงานร่วมกับ Dynamic RAM 16GB ซึ่งใช้เทคโนโลยี DRE (การขยาย RAM แบบไดนามิก) ที่ทาง realme ได้พัฒนามาสำหรับการแปลง ROM เป็น RAM เสมือน เพื่อขยาย RAM ของ realme C63 ให้มีขนาดความจุที่มากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการใช้งานแอปพลิเคชันในระดับสูง
โดยสามารถขยาย RAM 8GB ได้สูงสุด 8GB ทำให้ตัวเครื่องสามารถมี RAM ขนาด 16GB ได้โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อเครื่องใหม่ และสำหรับใครที่กังวลว่า การเพิ่มขนาด RAM ต้องแลกกับพื้นที่ของ ROM ไป ดังนั้นจึงอาจไม่พอใช้ก็ไม่ต้องกังวลไปครับ เพราะ realme C63 มากับพื้นที่เก็บข้อมูลสูงสุด 128GB และยังรองรับ MicroSD Card เพิ่มได้อีกด้วย
ประสิทธิภาพการทำงานในภาพรวมสรุปได้ว่า “คุ้มราคา” ครับ ตัวเครื่องและสเปกที่ทาง realme จัดมาให้สามารถตอบสนองและให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีได้สมกับราคาค่าตัว ทำงาน ดูหนัง ฟังเพลงออนไลน์ เล่นโซเชียล ใช้แอปฯ ธนาคารได้ไม่มีปัญหา ส่วนคนที่ชอบเล่นเกมก็สามารถเล่นเกมยอดนิยม เช่น ROV, PUBG, LOL หรือ Freefire ได้สนุกไม่หัวร้อน และตัวเครื่องก็ยังมีโหมดเกมมาให้ปรับค่าเป็นตัวช่วยในการปรับแต่งและดึงขีดจำกัดของฮาร์ดแวร์ออกมาได้อีกหน่อย เลยทำให้สายเกมก็สนุกได้ไม่แพ้รุ่นอื่น
ส่วนใครที่คนกังวลเรื่อชิปประมวลผลที่ครั้งนี้เป็น UniSoC T612 จากประสบการณ์ใช้งานจริงก่อนมารีวิวให้ทุกคนได้อ่านกัน ผมได้ใช้งานและทดสอบหลายๆ ไลฟ์สไตล์ ทั้งเล่นเกม โซเชียล และทำงานอย่าง โพสภาพบนเพจ หรือตัดวิดีโอสั้นนิดหน่อย ก็การันตีให้อุ่นใจกันครับว่า ถ้าไม่ได้ไปเปรียบเทียบกับชิปรุ่นอื่น มองเรื่องประสบการณ์และผลลัพธ์การใช้งานที่จะได้รับนั้น ในด้านการใช้งานทั่วไป รวมถึงการเล่นเกมไม่มีปัญหาครับ ตัวชิปให้ผลลัพธ์ที่ดีสมราคา
—————
🔵 90Hz Display | Dual Brightness Sensor
จอแสดงผลของ realme C63 เป็นจอดีไซน์ waterdrop notch พาแนล IPS LCD ขนาด 6.74 นิ้ว ความละเอียด HD+ มีค่ารีเฟรทเรท 90Hz มองคอนเทนต์บนจอสมูธแน่นอน นอกจากนี้ยังติดตั้งเซ็นเซอร์วัดแสงบนหน้าจอแบบคู่ที่ด้านหน้าและด้านหลัง เพื่อการหรี่แสงหน้าจออัตโนมัติที่แม่นยำและสะดวกสบาย
และยังเป็นหน้าจอที่ให้ความสว่างได้ตั้งแต่ 1nit จนถึงค่าสูงสุด 560nits ซึ่งเป็นเพียงรุ่นเดียวในช่วงราคาที่ใส่เทคโนโลยีนี้มาให้ ดังนั้นผู้ใช้จึงรู้สึกสบายตาแม้เล่นโทรศัพท์มือถือในเวลากลางคืน
การปรับและตั้งค่าจอแสดงผลบน realme C63
—————
🔵 realme UI 5.0 (based on Android 14) | Fluency Protection 48 Months
realme C63 รันบน Android 14 ครอบทับด้วย realme UI 5.0 เวอร์ชั่นล่าสุดของ realme โดยอินเทอร์เฟซของ realme UI ในเวอร์ชั่น 5.0 ถูกออกแบบมาให้มีความเรียบง่าย สามารถเรียกใช้งานฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้ภายในไม่กี่ขั้นตอน และเป็นมิตรกับผู้ใช้งานมือใหม่มาก ๆ ครับ สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง ใครที่ย้ายมาใช้ครั้งแรกไม่ต้องกังวล!
นอกจากนี้ยังได้รับการรับรองด้าน Fluency เป็นเวลา 48 เดือน โดยห้องปฏิบัติการ realme ที่มีมาตรฐานเดียวกันกับ TÜV SÜD สำหรับการทดสอบที่เข้มงวดเกี่ยวข้องกับการรันงานที่หลากหลาย เช่น การเปิดแอป การสลับระหว่างแอป และการเล่นเกม อุปกรณ์ยังอยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมที่หลากหลาย เช่น อุณหภูมิและความชื้นที่สูงเกินไป เพื่อวัดประสิทธิภาพของอุปกรณ์เมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งแน่นอนว่า realme C63 ผ่านมาตรฐานนี้เช่นเดียวกับรุ่นพี่ C Series ทั้งสอง ดังนั้นตลอดระยะเวลา 48 เดือนหรือมากกว่านั้น ซอฟต์แวร์จะยังคงให้ประสบการณ์ที่ลื่นไหลเหมือนวันแรกที่ใช้งาน
อินเตอร์เฟซ realme UI 5.0 บน realme C63
—————
คะแนนการทดสอบประสิทธิภาพด้วย Benchmark
—————
🔵 AI Experience | ประสบการณ์ AI ยกระดับความสมูธบนตัวเครื่อง
หนึ่งในความลื่นไหลตลอดการใช้งานบน realme C63 ก็คือ การมี AI Boost เข้ามาช่วยบริหารจัดการทรัพยากรบนตัวเครื่องผ่านการวิเคราะห์ ประเมิน และจัดการของ AI ทำให้ประสบการณ์การใช้งานด้านซอฟต์แวร์ตลอดการใช้งานตัวเครื่องเป็นไปอย่างราบรื่น สมูธ หรือถ้าใครอยากจะเข้าจัดการบริหารทรัพยากรด้วยตนเองตามความชอบของเจ้าของเครื่องก็ทำได้เช่นกัน
ภายโหมด AI Boost ประกอบด้วย Preset สองส่วน ได้แก่ Smooth Boost และ Game Boost สำหรับปรับปรุงความราบรื่นของระบบและปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานและการเล่นเกมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- Smooth Boost ประกอบด้วยกลยุทธ์ AI ดังต่อไปนี้
— Memory Performance Engine – การบีบอัดหน่วยความจำ; เอ็นจิ้นประสิทธิภาพหน่วยความจำ การป้องกัน การจัดการกระบวนการแบบลำดับชั้น กรอบการเริ่มต้นที่เสถียร 1.0; สมาร์ท Dex2opt พรีโหลด 2.0
- Game Boost ประกอบด้วยกลยุทธ์AI ต่อไปนี้
— การกำหนดเวลากระบวนการอัจฉริยะ 2.0; CPU, พารามิเตอร์ DDR ปรับแต่งส่วนตัว; การทำความสะอาดหน่วยความจำพื้นหลัง ฟังก์ชั่นโมเด็มวีไอพี; SD2HDR เพื่อเพิ่มคุณภาพของภาพ
AI Noise reduce คุณสมบัติในการลดเสียงรบกวนด้วยการนำ AI มาใช้วิเคราะห์และจัดการเสียงรบกวนเบื้องหลังของเราระหว่างการโทร ช่วยมอบประสบการณ์การสื่อสารที่ชัดเจนขึ้นจากสมาร์ตโฟนทั่วไปที่ไม่มี แนะนำให้เปิดถ้าหากต้องสนทนาสายนอกสถานที่บ่อย ช่วยให้เราได้ยินเสียงปลายสายชัดขึ้น
—————
🔵 Ultra-Linear with UltraBoom 200% | เพิ่มประสบการณ์ด้านเสียงให้สนุกและสุดอีกขั้น
ลำโพงเสียงบน realme C63 จะเป็นลำโพงเดี่ยว (Mono Speaker) ที่ได้รับการอัปเกรดจากลำโพงปกติเป็นลำโพงอัลตร้าลิเนียร์ให้คุณภาพฮาร์ดแวร์ที่ดีขึ้น เพิ่มความถี่และความดังเป็นสองเท่า หรือ เพิ่มขึ้น 30% ในความถี่ต่ำ และให้ความดังเพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับลำโพงเสียงทั่วไป โดยทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ UltraBoom 200% ที่ใช้อัลกอริธึมเสียงที่พัฒนาขึ้นเองของ realme ทำให้เสียงที่ขับออกมาผ่านลำโพงบนตัวเครื่องดังกว่าปกติสองเท่า และให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่าลำโพงปกติ
—————
🔵 Smart Experience | ฟีเจอร์อัจฉริยะ เพิ่มความสะดวกให้ไลฟ์สไตล์
Air Gestures
Air Gestures เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้เราสามารถสั่งการตัวเครื่องได้โดยที่ไม่ต้องสัมผัสหน้าจอ ผ่านท่าทางโดยมีกล้องหน้าและเซ็นเซอร์หลายตัวที่ทำงานร่วมกัน พร้อมด้วยอัลกอริธึม AI ที่ใช้โมเดลขนาดใหญ่ ทำให้ระบบสามารถจดจำท่าทางของเราได้อย่างแม่นยำ ยกตัวอย่างการสั่งการที่ใช้ Air Gesture ได้ เช่น การรับสายเรียกเข้า, เปลี่ยนวิดีโอที่รับชม ฟีเจอร์นี้สามารถช่วยให้เรารับสายหรือเปลี่ยนวิดีโอบนหน้าจอได้ โดยที่เราไม่ต้องสัมผัสหน้าจอ โดยเฉพาะตอนที่เรากำลังมือเปรอะจากการทำกิจกรรมหรือรับประทานอาหารอยู่และไม่สะดวกรับสายโทรเข้าหรือเปลี่ยนวิดีโอ เราก็สามารถยกมือขึ้นสั่งการได้ทันที
การเข้าไปปรับแต่งเมนู : การตั้งค่า > ฟีเจอร์พิเศษ > การตรวจจับอัจฉริยะ > Air Gesture
Dynamic Button
เป็นฟีเจอร์ที่เปิดให้เราสามารถปรับแต่งปุ่ม เปิด/ปิด (Power Button) ที่ด้านข้างตัวเครื่องให้สามารถใช้งานเป็นปุ่มฟังก์ชั่นสั่งงานอื่น ๆ ได้ เมื่อแตะสัมผัสหรือกดสองครั้งที่ปุ่ม เช่น เรียกกล้องถ่ายรูป, ปิด เพิ่ม-ลดเสียงตัวเครื่อง หรือเปิด-ปิดไฟฉาย เป็นต้น ช่วยลดขั้นตอนในการเรียกใช้งานได้ดีทีเดียว
การเข้าไปปรับแต่งเมนู : การตั้งค่า > ฟีเจอร์พิเศษ > ปุ่มไดนามิก
Mini Capsule 2.0
ลูกเล่นการแสดงผลของแถบการแจ้งเตือนบน realme UI ที่บริเวณขอบด้านบนของหน้าจอ โดยเมื่อมีการแจ้งเตือนเข้ามาบนตัวเครื่อง อินเทอร์เฟซ Mini Capsule 2.0 ก็จะเด้งแสดงเป็นแถบเหมือนแคปซูลยาขึ้นมาที่ด้านบนของจอ ซึ่งตอนนี้จะรองรับการแสดงผลได้ดังนี้
ดนตรี (Music)
- เมื่อผู้ใช้เล่นเพลง ภาพเคลื่อนไหวจะถูกกระตุ้นให้แสดงแถบจังหวะเพลงสั้น ๆ และสีของแถบจังหวะจะเปลี่ยนแบบสุ่มเมื่อมีการสลับเพลง
- เมื่อผู้ใช้คลิกที่แอนิเมชั่นสั้น แอนิเมชั่นจะถูกขยายเป็นแอนิเมชั่นขนาดยาวเพื่อแสดงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเพลงและใช้งานเพลง
- เมื่อภาพเคลื่อนไหวขนาดยาวปรากฏขึ้น ให้ลากแคปซูลขนาดเล็กไปทางซ้าย/ขวา จากนั้นภาพเคลื่อนไหวจะแบ่งออกเป็นลูกบอลขนาดเล็กและหด กลับโดยอัตโนมัติจากนั้นสลับไปที่เพลงบน/ถัดไป
- คลิกที่บริเวณที่มีภาพเคลื่อนไหวขนาดยาว คอนเสิร์ตจะถูกระงับ และภาพเคลื่อนไหวจะถูกถอนกลับ
สภาพอากาศ (Weather)
- หลังจาก 6 โมงตามเวลาของระบบ ผู้ใช้จะกดข้อมูลสภาพอากาศโดยอัตโนมัติหลังจากปลดล็อคโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะถูกเรียกใช้เพียงครั้งเดียว ในวันเดียวกัน หลังจากที่ภาพเคลื่อนไหวถูกทริกเกอร์ให้คงอยู่หลายวินาทีแล้วถอนกลับโดยอัตโนมัติ
นับจำนวนก้าว
- ทริกเกอร์หลังจากที่ผู้ใช้เสร็จสิ้นค่าขั้นตอนเป้าหมายที่ตั้งไว้ล่วงหน้า
- โดยจะเริ่มท้างานเมื่อหน้าจอเปิดอยู่เท่านั้น แต่จะไม่ท้างานเมื่อหน้าจอปิดอย
Riding Mode
ฟีเจอร์ไร้สายสำหรับนักปั่นจักรยานหรือพี่ ๆ ไรเดอร์โดยเฉพาะ โดยฟีเจอร์นี้จะออกแบบหน้า UI มาเป็นพิเศษ เพื่อการโต้ตอบที่กระชับยิ่งขึ้นสำหรับนักปั่นหรือพี่ๆ น้อง ๆ ไรเดอร์ทุกคน ทำให้ขณะขี่หรือปั่นจักรยานเราสามารถใช้สมาร์ตโฟนได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น
—————
🔵 IP 54 | Rainwater Smart Touch
realme C63 มาพร้อมมาตรฐานการน้ำและฝุ่น IP54 ที่ประกอบด้วย
- กันฝุ่นระดับ 5 : ไม่สามารถป้องกันการบุกรุกของฝุ่นได้อย่างสมบูรณ์ แต่ปริมาณฝุ่นที่บุกรุกหรือเล็ดลอดเข้าไปในตัวเครื่องจะไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานปกติของผลิตภัณฑ์
- กันน้ำได้ระดับ 4 : ป้องกันไม่ให้น้ำกระเด็นเข้ามาทุกทิศทางของตัวเครื่อง แต่ยังมีโอกาสเล็กน้อยที่เล็ดลอดเข้าไปได้
ต้องบอกก่อนเลยว่า ถึงตัวเครื่องจะผ่านมาตรฐานการทดสอบจากห้องทดสอบแล้ว แต่ตัวเครื่องก็ยังมีโอกาสที่จะไม่สามารถป้องกันฝุ่นและน้ำเข้าได้ทั้งหมดนะครับ ซึ่งเป็นเหมือนกันทุกมาตรฐาน IP และสมาร์ตโฟนทุกรุ่นที่มีมาตรฐาน IP ตั้งแต่รุ่นแพงยันรุ่นเริ่มต้นเลย ดังนั้นใครที่ตั้งใจจะเอาไปใช้งานโหดๆ ก็เตือนกันไว้ก่อน! ถึงจะมีโอกาสน้อยที่จะเกิดแต่ก็ยังมีนะ!
นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี “Rainwater Smart Touch” ในตัว โดยเป็นการผสมผสานอัลกอริธึมกันน้ำและความสามารถในการประมวลผลของ IC แบบสัมผัส ด้วยอัตราความแม่นยำในการสัมผัสมากกว่า 96% ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานขั้นพื้นฐาน เช่น การปัดและคลิก โทรออก และดูข้อมูลได้ตามปกติ แม้ในขณะที่มือเปียก หน้าจอถูกปกคลุมไป ด้วยละอองน้้า และมีหยดน้้าขนาดเล็กบนหน้าจอ ก็ยังใช้งานได้
—————
🔵 Battery 5000mAh + 45W Fast Charge
เรื่องของ “แบตเตอรี่และเทคโนโลยีชาร์จไว” เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ต้องชม realme เลยกับการนำเทคโนโลยีชาร์จไว 45W มาใส่บน realme C63 ด้วย เพราะปกติแล้วบนสมาร์ตโฟนช่วงราคานี้เราจะเจอชาร์จไวสูงสุดที่ 33W เท่านั้นครับ ดังนั้นถ้าเทียบเรื่องความเร็วในการชาร์จของสมาร์ตโฟนในช่วงราคาเดียว “realme C63” เร็วสุดแน่นอน! โดยสามารถชาร์จ 0~20% ใน 10 นาที, ชาร์จ 0~50% ใน 30 นาที และชาร์จจนเต็ม 100% ใช้เวลาเฉลี่ย 1 ชั่วโมง 20 นาที
นอกจากนี้ยังมาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 5000mAh ที่เป็นขนาดความจุมาตรฐานของสมาร์ตโฟนในปัจจุบัน และทาง realme ยังรับรับประกันอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ที่ทนทานและยาวนานกว่าคู่แข่ง ด้วยวงจรการชาร์จและการคายประจุสูงสุด 1,600 ครั้ง โดยคิดจากการชาร์จหนึ่งครั้งต่อวัน ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งในตลาดที่ทำได้สูงสุดที่ 1200 รอบเท่านั้น
ที่สามารถทำรอบ Cycle การชาร์จได้มากกว่าคู่แข่งโดยเฉลี่ยได้ ก็เพราะ realme ใส่อัลกอริธึมการปรับแต่งอัจฉริยะ VCVT มาให้ด้วย โดย VCVT จะทำการปรับความเร็วตัวแปรการชาร์จแบบ Stepless จึงทำให้สามารถปรับแรงดันและกระแสได้อย่างราบรื่นและแม่นยำ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการชาร์จและลดการสูญเสียพลังงานขณะชาร์จได้ดีกว่าการชาร์จทั่วไป พร้อมทั้งยังมีเทคโนโลยีการชาร์จ FFC ที่ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการชาร์จช่วง 90% – 100% ทำให้เต็มเร็วขึ้นและปลอดภัยมากขึ้นด้วยนั่นเอง
— Camera | ถ่ายสนุก คมชัดด้วยกล้อง 50MP
realme C63 มาพร้อมกล้องถ่ายรูปคู่ที่ประกอบด้วย กล้องหลัก AI 50MP (F1.8) และกล้องเลนส์ AI ความละเอียด QVGA และมีไฟแฟลช LED ที่บิ้วอินมาให้ 1 ดวง ในขณะที่กล้องหน้ามีความละเอียด 8MP (F2.0) จุดเด่นของชุดกล้อง realme C63 จะอยู่ที่การให้ภาพถ่ายที่มีความละเอียดสูง คมชัด อัลกอริธึมกล้องได้รับการปรับปรุงใหม่ การปรับโทนสีผิวให้เป็นธรรมชาติฟังก์ชันการถ่ายภาพอื่นๆ ได้แก่ ภาพถ่าย วิดีโอ กลางคืน ความละเอียดสูง มืออาชีพ ภาพบุคคล ไทม์แลปส์สโลว์โมชั่น พาโนรามา เป็นต้น
มีโหมดถ่ายภาพความละเอียดสูง 50MP ให้ภาพพิกเซลขนาดใหญ่ถึง 6,144 x 8,192 พิกเซล และมีคุณสมบัติ 3x Lossless Zoom ทำให้สามารถถ่ายภาพระยะพอร์ตเทรต (2x – 3x) ได้สวยและคม นอกจากนี้ยังมีฟิลเตอร์สีให้เลือกปรับถ่าย โดยทาง realme เพิ่มฟิลเตอร์สีใหม่สองตัวที่เป็นหมวดภาพยนตร์เข้ามาให้ด้วย
ซึ่งผมบอกทุกรีวิวของ realme เลยครับว่า นี่แหละ Signature ของกล้องมือถือ realme ที่คุณจะหาที่ไหนไม่ได้ เพราะเป็นฟิลเตอร์สีถ่ายรูปที่สวยและบอกเล่าเรื่องราวได้ดีมาก ๆ โดยเฉพาะภาพถ่ายฟิวสตรีทและภาพยนตร์ ลองไปชมผลงานภาพถ่ายจากกล้อง realme C63 กันครับ
หน้าเมนูใช้งานกล้องถ่ายรูป realme C63
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง realme C63
🔵 ภาพทั่วไป
—————
🔵 ภาพถ่าย Portrait
—————
🔵 ภาพระยะซูม
—————
🔵 ภาพกลางคืน
—————
🔵 ภาพถ่ายโดยใช้ฟิลเตอร์
—————
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า
— Conclusion | ทนทาน – ใช้งานระยะยาว – คุ้มค่า
บทสรุปส่งท้ายกับ realme C63 สำหรับผมรู้สึกว่า เป็นอีกครั้งที่ realme รังสรรค์ realme C Series ออกมาได้ดีมาก ๆ เหมือนได้ทำการบ้านมาก่อนจนรู้ใจลูกค้าของตนเองว่า ต้องการสมาร์ตโฟนแบบไหนและอย่างไร realme C63 จึงเป็นสมาร์ตโฟนอีกหนึ่งตัวเลือกที่ทาง realme ทำมาให้เป็นออปชันให้กับลูกค้าที่ต้องการตัวเลือกที่ถูกลงมาหน่อยจาก realme C65 (ที่ราคาก็ดีอยู่แล้ว) แต่ยังได้สเปกและคุณสมบัติที่เหนือกว่าและคุ้มกว่าคู่แข่ง พร้อมทั้งยังได้ดีไซน์ฝาหลังหนังวีแกนที่เป็นครั้งแรกของ realme C Series เข้ามาด้วย
ดังนั้นในภาพรวมทั้งหมดของ realme C63 จะมีความใกล้เคียงกับ realme C65 มาก ๆ (อ่านรีวิว realme C65) ทั้งในด้านประสิทธิภาพการทำงาน ความทนทาน และการใช้งานในระยะยาว เพราะฉะนั้นบทสรุปสุดท้ายก่อนตัดสินใจซื้อก็น่าจะไปอยู่ที่งบประมาณและความชอบเรื่องดีไซน์ของแต่ละคนล่ะครับ เพราะทั้งสองรุ่นนี้เลือกใครก็ได้! คุ้มค่า และได้ฟีเจอร์ ดีไซน์ และคุณสมบัติที่ดีกว่าคู่แข่งในตลาด
— Price & Promotion | ราคาและการวางจำหน่าย
realme ประเทศไทย วางจำหน่าย realme C63 รุ่นความจุ RAM 8GB + ROM 128GB ในราคา 5,499 บาท พร้อมตัวเลือกสี 2 สี คือ สีน้ำเงิน Leather Blue (สีในรีวิว) และสีเขียว Jade Green สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ที่ realme Brand Shop และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
โปรโมชันจำหน่ายของ realme C63
เมื่อซื้อ realme C63 (8+128GB) ราคา 5,499 บาท รับฟรี!* realme Gift Box มูลค่า 890 บาท เริ่มจำหน่ายวันที่ 28 มิ.ย. 2567 เป็นต้นไป ผ่าน realme Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ* และสามารถซื้อ realme C63 (8+128GB) ในราคาพร้อมแพคเกจมือถือผ่านผู้ให้บริการเครือข่าย AIS, TRUE และ dtac ในราคาเริ่มต้นต่ำสุดเพียง 2,799 บาท พร้อมรับฟรี! *realme Gift Box มูลค่า 890 บาท
*ของแถมมีจำนวนจำกัดและจะแตกต่างกันไปตามนโยบายในแต่ละช่องทางการจัดจำหน่ายที่กำหนดฯ
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
#realmeC63 #realme #realmeTH



































































































































