realme 11 Pro มือถือนับเบอร์ซีรีส์ที่ให้ฟิวไม่ต่างเรือธงในราคาเข้าถึงได้

Insight Choice ครั้งนี้เราอยู่กับ realme 11 Pro 5G ครับ สมาร์ตโฟนนับเบอร์ซีรีส์ของเรียลมี ประเทศไทย ที่กำลังจะกลายเป็นรุ่นไม่ล่าสุดในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ เพราะทาง realme ประเทศไทยกำลังจะมี realme 11X 5G เข้ามาประจำการในตลาดส่งท้ายปีแล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ตามความน่าสนใจของ realme 11 Pro 5G ก็ยังมีอยู่ไม่น้อยครับ

และเมื่อหยิบไปเทียบกับมือถือคู่แข่งในตลาดก็ยังมีความเก๋าอยู่พอสมควร ประกอบกับการมาของรุ่นใหม่ด้วย จึงทำให้ราคาจำหน่ายอาจมีการปรับลดลงมาตามกลไกตลาด ยิ่งทำให้สมาร์ตโฟนรุ่นนี้มีความน่าซื้อมากขึ้นไป และทั้งหมดที่กล่าวมาจึงเป็นที่มาของ Insight Choice ในครั้งนี้ ที่ผมอยากหยิบความน่าสนใจของ realme 11 Pro 5G มาเล่าให้ฟังผ่านบทความนี้กันครับ

อ่านตามหัวข้อที่สนใจ


สเปกตัวเครื่องของ realme 11 Pro 5G

  • จอแสดงผลแบบโค้ง AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2414×1080 พิกเซล (FHD+)Refresh rate 120HzTouch Sampling Rate: 360Hz, สูงสุดถึง 1260Hzความลึกของสี: 1.07 พันล้านสี (10 Bits)
    • ขอบเขตการแสดงสี: 100% DCI-P3
    • เทคโนโลยีการประมวลผล: COP Ultra
    • เทคโนโลยีปกป้องจอภาพ: กระจกเสริมความแข็งแรงพิเศษ Double-Reinforced Glass ความหนา 0.65 มม.
  • CPU MediaTek Dimensity 7050 5G
  • GPU Mali G68 MC4
  • RAM 8GB (ขยายเพิ่มได้รวมสูงสุด 24GB)
  • ROM 256GB
  • Android 13 with realme UI 4.0
  • กล้องถ่ายรูป Dual cameraกล้องหลัก ความละเอียด 100MP with SuperOIS (F1.75, FOV 79.5 องศา)กล้อง Depth สำหรับ Portrait ความละเอียด 2MP (F2.4, FOV 88 องศา)
  • กล้องหน้า ความละเอียด 16MP (F2.45, FOV 82.3 องศา)
  • รองรับซิมการ์ด 2 ซิม และสามารถใช้ 5G ได้ทั้งสองซิม (Dual 5G/5G , SA/NSA)
  • WiFi 802.11 a/b/g/n/ac/ax (WiFi 6)
  • Bluetooth 5.2
  • USB-C Port
  • แบตเตอรี่ขนาดความจุ 5000 mAh และรองรับชาร์จไว 67W

กล้องถ่ายรูป 100MP OIS พร้อมโหมด Street โดนใจคนชอบกินเที่ยว | CAMERA 100MP

 

เริ่มกันที่จุดเด่นแรกที่ผมคิดว่า เป็นจุดเด่นที่ทำให้ realme 11 Pro 5G มีความโดดเด่นเป็นพิเศษเมื่อจับไปเทียบกับคู่แข่งในเรทราคาเดียวกัน ก็คือเรื่องของกล้องถ่ายรูป Dual camera ความละเอียดสูง 100MP ทำงานร่วมกับกล้อง Depth ความละเอียด 2MP ซึ่งตัวเซ็นเซอร์กล้องหลักรองรับการบันทึกภาพวีดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 4K@30Fps มีคุณสมบัติซูมภาพ In-sensor Zoom หรือซูมแบบ Optical ได้ที่ระยะ 2X และมีระบบป้องกันภาพสั่นไหว SuperOIS เลยทำให้เวลาซูมภาพตัวกล้องจะมีความนิ่ง ทำให้เราได้ภาพที่คมชัดไปด้วย 

นอกจากฮาร์ดแวร์ที่เก่งแล้ว ในด้านของซอฟต์แวร์กล้องนั้น ครั้งนี้ทาง realme ก็ได้มีการเพิ่มคาแร็คเตอร์ของกล้องตัวเองให้มีภาพลักษณ์ที่ตรงกับแบรนด์มากขึ้น ด้วยการร่วมกับ Lonely Planet พัฒนาโหมดถ่ายภาพ “Street Photography” เข้ามาบนตัวกล้อง ทำให้ถ่ายสนุกมากยิ่งขึ้น พร้อมกับเพิ่มฟิลเตอร์และลายน้ำใหม่ มาช่วยขับรายละเอียดของพื้นผิวสิ่งต่าง เพื่อเพิ่มความลึกซึ้งในการบอกเล่าเรื่องราวผ่านรูปภาพได้มากขึ้นด้วยครับ

ซึ่งจุดนี้แหละครับ ที่ทำให้ผมรู้สึกว่า realme 11 Pro 5G มีความแตกต่างจากสมาร์ตโฟนรุ่นอื่นในพิกัดเดียวกัน และยิ่งถ้าใครที่ชอบถ่ายภาพการเดินทาง การกิน การเที่ยว เป็นประจำ ผมเชื่อว่าเมื่อได้ลองถ่ายด้วยโหมดนี้แล้ว น่าจะชื่นชอบสมาร์ตโฟนรุ่นนี้มากยิ่งขึ้น ลองไปชมตัวอย่างภาพถ่ายประกอบการพิจารณากันครับ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องของ realme 11 Pro 5G

ตัวอย่างภาพที่ใช้ฟิลเตอร์ต่าง บนกล้อง

ภาพตัวอย่างจากกล้องหน้า 16MP (FOV 82 องศา, F2.45)

กลับขึ้นไปอ่านด้านบน

ดีไซน์เรียบง่าย แต่ดูดี | DESIGN

 

เรื่องของงานออกแบบ ประเด็นคงขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวของแต่ละคน แต่สำหรับผมกับ realme 11 Pro 5G ก็ต้องบอกเป็นด้วยการใช้หน้าจอแสดงผลแบบโค้ง ประกอบกับออกแบบตัวเครื่องที่เรียบง่าย เลยทำให้ภาพรวมของสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ดูสวย เรียบง่าย และมีความเป็นสมาร์ตโฟนเรือธงอยู่หน่อย

และก็น่าเสียดายที่ผมไม่ได้ตัวเครื่องสีเบจ Sunrise Biege ที่ร่วมมือกับนักออกแบบ Matteo Menotto มาโชว์ให้ทุกคนได้ดูกันครับ แต่อยากแนะนำให้ลองไปสัมผัสกันดูครับ ตัวเครื่องด้านหลังสวยมาก ฝาหลังใช้วัสดุเป็นหนังวีแกนด้วย

ตัวเครื่องของ realme 11 Pro 5G มีขนาดมิติตัวเครื่อง ความยาว: 161. มม. ความกว้าง: 73.9 มม. ความหนา 8.2 มม. และมีน้ำหนักตัวเครื่องรวมทั้งหมด 185 กรัม ซึ่งเป็นขนาดตัวเครื่องมาตรฐานของสมาร์ตโฟนในยุคนี้ ไม่หนักและไม่เบาเกินไป ถือจับหรือใส่กระเป๋ากางเกงได้คล่องตัว

กลับขึ้นไปอ่านด้านบน

จอแสดงผลคุณภาพระดับเรือธง | DISPLAY 120Hz

 

จอแสดงผลของ realme 11 Pro 5G เป็นจอที่อยู่ในระดับสมาร์ตโฟนเรือธงเลยก็ว่าได้ครับ และเป็นอีกจุดเด่นที่ทำให้ realme 11 Pro 5G มีความน่าสนใจมาก รวมทั้งสามารถตอบโจทย์ให้กับคนที่ชื่นชอบการดูหนังดูซีรีส์ รวมถึงเล่นเกมบนสมาร์ตโฟนเป็นชีวิตจิตใจ

เพราะจอแสดงผลของ realme 11 Pro 5G เป็นจอ AMOLED ความละเอียดระดับ FHD+ มีค่า refresh rate 120Hz รองรับการแสดงสีสันได้ลึก 10 Bits และรองรับการขอบเขตการแสดงสีสันบนหน้าจอตามมาตรฐาน P3 ได้เที่ยงตรง 100% 

นอกจากนี้ตัวหน้าจอยังมีค่า Touch Sampling rate ที่สามารถไต่ระดับขึ้นไปได้สูงถึง 1260Hz โดยที่ค่ามาตรฐานจะอยู่ที่ 360Hz ซึ่งเป็นตัวเลขที่อยู่ในระดับสูงสำหรับการตอบสนองของหน้าจอต่อการแตะสัมผัสของสมาร์ตโฟนในตอนนี้ครับ และการที่มีค่า Touch Sampling ในเกณฑ์สูง จะมีผลต่อประสบการณ์การเล่นเกมโดยตรง

เพราะเวลาเราแตะสัมผัสเพื่อสั่งการตอนเล่นเกม จะทำให้เราสามารถควบคุมหรือสั่งการขณะเล่นเกมได้เรียลไทม์ยิ่งขึ้นนั่นเอง และจากที่ผมได้ลองทดสอบเล่นเกม ROV, PUBG และ Freefire ก็ถือว่าตอบสนองได้ไว เลื่อนเป้าไปยังคู่ต่อสู้ได้เร็ว แตะยิงแบบไม่หน่วงเลย เลื่อนแป้นเพื่อมูฟตัวละครก็ทำได้ไวมีอัตราหน่วงต่ำมาก ทำให้ภาพรวมของการเล่นเกมสอบผ่านสบาย ครับ

กลับขึ้นไปอ่านด้านบน

ฮาร์ดแวร์รองรับการใช้งานในอนาคต | Hardware & realme UI 4.0

 

ปิดท้ายด้วยจุดเด่นสำคัญอย่างซอฟต์แวร์และอินเทอร์เฟซ ที่จัดว่าเป็นคีย์หลักสำคัญในการสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับลูกค้า สำหรับ realme 11 Pro 5G จะมาพร้อม Android 13 ครอบทับด้วยอินเทอร์เฟซ realme UI 4.0 ที่มีการพัฒนาและออกแบบดีไซน์ไอคอนต่าง มาได้ดีขึ้นจากเวอร์ชั่นก่อนชัดเจน ตัวระบบมีการใส่ชุดประมวลผล Dynamic Computing Engine และ Quantum Animation Engine 4.0 เข้ามา เพื่อคอยมอนิเตอร์และเข้าบริหารจัดการทรัพยากรบนเครื่องให้มีความเหมาะสมต่อการใช้งานอยู่ตลอดเวลา

ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาในเรื่องของการใช้งานตัวเครื่องไปนาน แล้วเครื่องเริ่มอืดหรือหน่วงนั่นเองครับ ซึ่งเป็นปัญหาที่สมาร์ตโฟนแอนดรอยด์หลายรุ่นมักจะเจอ เพราะเมื่อเราใช้งานตัวเครื่องไปสักระยะหนึ่ง บนระบบจะเกิดไฟล์ต่าง ขึ้นมากมายจากการใช้งาน และบางไฟล์ก็ไฟล์ขยะที่ระบบสร้างขึ้นมา ดังนั้นคนที่คอยดูแลเคลียไฟล์ต่าง บนตัวเครื่องอาจจะไม่ค่อยเจอปัญหานี้

แต่สำหรับสายที่เน้นใช้งานอย่างเดียวอาจจะเจอได้ ดังนั้นการมีระบบเข้ามาดูแลในส่วนนี้ ก็จะช่วยทำให้ตัวเครื่องมีความลื่นไหลอยู่ตลอดเวลาถึงแม้จะใช้งานไปหลายปีก็ตาม ซึ่งทางเรียลมีการันตีให้ว่าตลอดการใช้งาน 48 เดือน ปัญหาเครื่องหน่วง ช้าลง จะไม่เกิดขึ้นบน realme 11 Pro 5G แน่นอน! ดังนั้นใครกังวลเรื่องนี้อยู่สบายใจได้เลย

กลับขึ้นไปอ่านด้านบน

มือถือประสบการณ์ระดับเรือธงในราคาเข้าถึงได้ | Recap of review

 

มาถึงบทสรุปของ Insight Choice ในครั้งนี้ สำหรับผมจากที่ได้สัมผัสและใช้งาน realme 11 Pro 5G มาเกือบ 2 สัปดาห์เต็ม ก็รู้สึกสมาร์ตโฟนรุ่นนี้เป็นสมาร์ตโฟนที่มีฮาร์ดแวร์อยู่ในระดับสมาร์ตโฟนเรือธงราคา 2 หมื่นกลางๆ ค่อนปลายได้เลย ถ้าหากเติมบางจุดเข้าไปเช่น เพิ่มกล้องมุมกว้างอีกตัวอะไรแบบนี้ เข้ามาก็จะลงตัว และขยับ Segment ได้เลย

แต่ก็ต้องเข้าใจด้วยว่า บทบาทของเขาเป็นเพียงน้องคนรองเท่านั้น ดังนั้นการจะทำอะไรแบบนี้ต้องเกรงใจรุ่นพี่อย่าง realme 11 Pro+ 5G ด้วยนะครับ ซึ่งถ้าหากมองภาพรวมทั้งเครื่อง ส่วนตัวผมก็มองว่าสิ่งที่ให้มากับราคาค่าตัวก็ถือว่า สามารถนับไปใช้งานในไลฟ์สไตล์ได้ดีแล้วล่ะครับ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพที่อาจจะเน้นไปที่การถ่ายภาพ Portrait เป็นหลัก การใช้งานทั่วไปบนตัวเครื่อง ตลอดจนด้านความบันเทิงก็ถือว่าทางเรียลมีใส่มาให้ครบครัน

ทั้งหมดนี้แหละครับจึงเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงหยิบ “realme 11 Pro 5G” เข้ามาอยู่ใน “Insight Choice” ในครั้งนี้ สำหรับใครที่สนใจ ทาง realme ประเทศ วางจำหน่าย realme 11 Pro 5G ในราคา 16,999 บาท สามารถหาซื้อกันได้แล้วทั้งบน Online และร้านค้าตัวแทนทั่วประเทศ ก็ฝากสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ไว้เป็นตัวเลือกในใจกันด้วยนะครับ รับรองว่าไม่ผิดหวัง

กลับขึ้นไปอ่านด้านบน

ขอขอบคุณ realme ประเทศไทย

Leave a Reply

Discover more from InsightDaily

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading