SAMSUNG Galaxy Z Flip5 เป็นสมาร์ตโฟนจอพับ (แบบ Flip) รุ่นล่าสุดของ SAMSUNG ประเทศไทย

ซึ่งครั้งนี้ก็เป็นเจเนอเรชันที่ 5 แล้วนะครับ นับตั้งแต่ซัมซุงได้ริเริ่มผลักดันไลน์อัปจอพับออกสู่ตลาดครั้งแรกเมื่อ 5 ปีที่แล้ว โดยครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุดก็คือ หน้าจอแสดงผลด้านหน้าที่กว้างขึ้น และการแก้ไขการพับของจอที่ทำได้สนิทสักที

นอกเหนือจากนี้ส่วนมากจะยังคงใช้ฮาร์ดแวร์เหมือนกับรุ่นที่ 4 ซะส่วนใหญ่ เลยมีหลายคนมองว่าเป็นรุ่นที่ไม่น่าซื้อ เพราะปรับเปลี่ยนอะไรไม่มากเท่าไรนัก แต่สำหรับตัวผมการเปลี่ยนแปลงสองจุดนี้ ถือว่าเป็นสิ่งที่ปรับมาได้ตรงจุดกับความต้องการผู้ใช้งานเลยล่ะครับ

งานออกแบบ | DESIGN

ด้านนอกของ Samsung galaxy Z Flip 5 จะมีหน้าจอแสดงผล super AMOLED ขนาด 3.4 นิ้ว ความละเอียด 720 x 748 พิกเซล รองรับการแสดงค่าสีได้มากถึง 16 ล้านสี ซึ่งทางซัมซุงตั้งชื่อทางการตลาดว่า “Flex Window” เป็นหน้าจอที่สองหรือหน้าจอด้านนอกที่มีขนาดกว้างที่สุดของ Galaxy Z Flip Series เลยครับ โดยหน้าจอนี้ทางซัมซุงได้พัฒนาซอฟต์แวร์มาช่วยให้มีความสามารถหลากหลาย เดียวผมขอเอาไปพูดในส่วนของจุดเด่นด้านล่างนะครับ

ขยับจากหน้าจอ Flex Window จะเป็นตำแหน่งของชุดกล้องถ่ายรูป โดยทางซัมซุงติดตั้งกล้อง Dual Camera มาให้พร้อมไฟแฟลช LED หนึ่งดวง สำหรับกล้องถ่ายรูปชุดนี้ ตัวกล้องหลักจะมีความละเอียด 12MP (F1.8) มีระบบป้องกันการสั่นไหว OIS, ระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ และตัวเลนส์จะเป็นเลนส์มุมกว้างในตัวด้วย โดยทำงานร่วมกับกล้องเลนส์มุมกว้างพิเศษ (Ultra-wide) ความละเอียด 12MP (F2.2)

ด้านข้างขวาของตัวเครื่อง Samsung Galaxy Z Flip5 มีปุ่มกดปรับระดับเสียง (Volume) และปุ่มเปิด-ปิดตัวเครื่อง (Power) ส่วนด้านข้างซ้ายของตัวเครื่อง Galaxy Z Flip5 มีช่องซิมการ์ด ตัวเครื่องจะรองรับการใช้งานแบบสองซิม โดยทีซิมที่สองจะใช้เป็น e-SIM ครับ

ที่นี้เรามากาง Samsung Galaxy Z Flip5 ออกมาในแนวราบกันครับ สำหรับหน้าจอเมื่ออยู่ในโหมดกางออกในแนวราบ ทางซัมซุงจะเรียกหน้าจออันนี้เป็นหน้าจอหลักนะครับ โดยเป็นหน้าจอแสดงผล Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2,640 x 1,080 พิกเซล มีค่า Refresh Rate 120Hz นอกจากนี้ยังมีกล้องหน้าความละเอียด 10MP (F2.2) ติดตั้งมาให้ด้วย สำหรับใครที่ใช้ในโหมดกางก็ยังสามารถถ่ายรูปเซลฟี่ได้ด้วยเช่นกัน

สเปกตัวเครื่องของ SAMSUNG Galaxy Z Flip5

• จอแสดงผลหลัก Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2640 x 1080 (FHD+) / Refresh Rate 120Hz
• จอแสดงผลรอง (Felx Window) super AMOLED ขนาด 3.4 นิ้ว ความละเอียด 720 x 748 พิกเซล (HD+)
• ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2
• GPU Adreno 740
• RAM 8GB (LPDRR5x)
• ROM 256 / 512GB (UFS 4.0)
• Android 13 with OneUI 6
• กล้องถ่ายรูป Dual Camera 12MP (wide) + 12MP (Ultra-wide)
• กล้องหน้าความละเอียด 10MP
• USB-C 3.2 Gen 1
• WiFi 802.11 a/b/g/n/ac/ax 2.4G + 5GHz + 6GHz, HE160, MIMO, 1024-QAM
• Bluetooth 5.3
• แบตเตอรี่ขนาด 3700mAh
• รองรับชาร์จไวผ่านสาย 25W และไร้สาย 15W
• กันน้ำมาตรฐาน IPX8
• รองรับซิมการ์ด SIM + e-SIM

---

FLEX Window จอที่สองที่ใช้งานได้จนแทบไม่ต้องกาง

“Flex window” หรือหน้าจอที่สองด้านนอกของตัวเครื่อง ที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นจุดขายหรือจุดเด่นของ Galaxy Z Flip5 ที่ส่งผลถึงการตัดสินใจว่าจะซื้อสมาร์ตโฟนรุ่นนี้หรือไม่เลยทีเดียวครับ เพราะเป็นจุดเด่นที่ทางซัมซุงตั้งใจพัฒนาซอฟต์แวร์ขึ้นมาใหม่ เพื่อให้สามารถใช้งานกับหน้าจอที่สองนี้ได้ ซึ่งจากการที่ขนาดของหน้าจอที่กว้างขึ้นจากรุ่นก่อน ผมเลยรู้สึกว่าในหนึ่งวันที่เราใช้งานตัวเราแทบจะไม่ต้องกางหน้าจอออกมาใช้งานเลย

พอใช้งานบนหน้าจอขนาด 3.4 นิ้ว ก็ทำให้หวนนึกถึงฟิวในยุคที่ BB ได้รับความนิยมเลย มันมีความน่ารัก สะดวก และถนัดมือในการพิมพ์ข้อความมาก ๆ โดยหน้าจอที่สอง หรือ Flex window สามารถรองรับการแสดงผลจากแอปพลิเคชั่นยอดนิยมทั้ง Youtube, Google Maps, Netflix, Sportify หรือแม้แต่เล่นเกมตอบไลน์ตอบแชท เราก็สามารถพิมพ์หรือแอคทีฟกับหน้าจอนี้ได้ทันที จนผมรู้สึกว่ามันคล่องตัวดี

นอกจากนี้เรายังสามารถใช้ประโยชน์จาก Flex window ในการถ่ายรูปเซลฟี่ได้ด้วยนะครับ โดยทางซัมซุงตั้งชื่อเรียกการถ่ายภาพเซลฟี่ผ่าน Flex Window ว่า “FlexCam” การใช้งานก็เพียงแค่เปิดกล้องจากหน้าจอ Flex Window แล้วยกมือแบบแบห้านิ้วขึ้นมาใส่กล้อง ตัวกล้องจะดีเทคและทำการถ่ายให้ทันที

ซึ่งส่วนตัวผมรู้สึกว่าพอเราถ่ายเซลฟี่ผ่าน Flex window ของ Samsung Galaxy Z Flip5 แบบนี้ ภาพเซลฟี่ที่ออกมากลับดูสวยและคมกว่าการใช้กล้องหน้า 10MP เพราะจะเป็นการถ่ายด้วยกล้องหลักของตัวเครื่องนั่นเอง ลองไปชมตัวอย่างภาพถ่ายที่ถ่ายด้วย Flex Cam ด้านล่างกันครับ

ตัวอย่างภาพถ่ายเซลฟี่ด้วย Flex Cam

---

“FLEX Mode ที่ทำให้สาว ๆ หลงรัก” 

นอกจากจอ Flex Window แล้ว อีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้ Galaxy Z Flip Series มีความแตกต่างและเป็นจุดขาย ที่ผมเชื่อว่าทำให้ผู้ใช้งานสาว ๆ ต่างชื่นชอบซีรีย์นี้เป็นพิเศษก็คือ “Flex Mode” หรือโหมดการใช้งานแบบตลับแป้ง ที่เราจะพับตัวเครื่องให้อยู่ในมุม 90 องศา หรือตัวแอล “L” เพื่อใช้งาน

ในโหมดนี้จะเป็นการดึงเอาความสามารถในด้าน Multi-tasking ของตัวเครื่องออกมาใช้ โดยหน้าจอจะถูกแบ่งพื้นที่การทำงานออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนครึ่งด้านบนจอและส่วนครึ่งด้านล่างจอครับ และเมื่อพื้นที่ของจอถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน รวมทั้งยังสามารถก็ยังสามารถพับครึ่งได้ด้วย เราจึงสามารถนำจุดเด่นตรงนี้มาประยุกต์ใช้งานได้หลากหลาย

เช่น นำมาถือในรูปแบบกล้อง Handy Cam แบบสมัยก่อน หรือจะวางไว้บนโต๊ะและใช้เป็นกระจกส่องดูความเรียบร้อยของเราเหมือนที่ใช้กระจกของตลับแป้ง หรือจะตั้งไว้สำหรับหามุมสวย ๆ ถ่ายเซลฟี่ก็ยิ่งได้ภาพสวย ๆ ออกมาด้วย

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง SAMSUNG Galaxy Z Flip5

FLEX Hinge การปรับปรุงใหม่ของซัมซุงที่ทำให้พับได้สนิทสักที!

“Flex Hinge” เป็นเทคโนโลยีการพับหน้าจอที่ทางซัมซุงจดสิทธิบัตรเป็นเจ้าของไว้ตั้งแต่ปี 2016 จากนั้นก็ถูกพัฒนาและปรับปรุงใหม่มาตลอด จนเวอร์ชั่นล่าสุด ก็พร้อมนำมาใช้บน Galaxy Z Flip5 และ Galaxy Z Fold5 ของ SAMSUNG เรียบร้อย จุดเด่นของเวอร์ชั่นใหม่ที่คือ การทำให้พับได้สนิทมากขึ้นจากรุ่นเดิม เป็นการแก้ข้อครหาที่หลายคนบ่นว่าเมื่อไรจะทำให้พับได้สนิทสักทีไปเรียบร้อย

หลักการของ Flex Hinge ที่ถูกปรับปรุงใหม่ครั้งนี้เป็นการออกแบบการพับหน้าจอใหม่ ที่ทางซัมซุงเรียกว่า “Waterdrop Hinge” เป็นเทคโนโลยีการพับหน้าจอ ที่ออกแบบให้เวลาพับหน้าจอเข้าหากัน ตัวหน้าจอจะเกิดช่องว่างเล็ก ๆ ตรงบริเวณรอยพับคล้าย “หยดน้ำ” เล็ก ๆ ทำให้ตัวหน้าจอสามารถพับเข้าหากันได้สนิท (สักที) ซึ่งจะแตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าทั้งหมดที่เวลาหน้าจอเกิดการพับเข้าหากันจะเกิดเป็นรอยพับแบบหยดน้ำใหญ่ จึงทำให้ไม่สามารถพับประกบได้สนิทในรุ่นก่อนหน้านี้

นอกจากหลักการพับที่เปลี่ยนใหม่แล้ว ทางซัมซุงก็ต้องออกแบบโครงบอดี้และบานพับใหม่ โดยทาง Samsung เลือกใช้กลไกบานพับแบบ Dual-axis รูปแบบใหม่ ซึ่งประกอบด้วย แผงพับแบบยืดหยุ่น, บานพับแมคคานิค และการออกแบบให้มีพื้นผิวจอแสดงผลที่เกิดเป็นรูปหยดน้ำเล็กเมื่อเกิดการพับหน้าจอ

โดยหลักการทำงานตัวบานพับจะถางออกเล็กน้อยพร้อมกับแผงยืดหยุ่น เพื่อทำให้มีช่องว่างให้พื้นผิวหน้าจอมีพื้นที่ขยายตัวคล้ายหยดน้ำ ในขณะที่เวอร์ชั่นก่อนบานพับจะถูกยึดให้ไม่ยืดหยุ่นตามการพับ ทำให้เวลาพับจะเกิดช่องว่างขนาดใหญ่ที่ด้านบนทำให้เวลาพับหน้าจอพับได้ไม่สนิท

ประโยชน์ของเทคโนโลยี Flex Hinge ใหม่นี้ ทางซัมซุงบอกว่า มีส่วนช่วยให้สามารถออกแบบตัวเครื่องให้บางลงได้อีกหน่อยจากการเปลี่ยนบานพับให้เล็กลงได้ โดยเดิม Galaxy Z Fold4 จะมีความบางหลังพับอยู่ที่ 15.8 มม. แต่ใน Galaxy Z Fold5 จะมีความบางอยู่ที่ 13.4 มม. ต่อมาก็คือ การมอบประสบการณ์การพับ-กางได้ลื่นไหลขึ้นและตัวเครื่องก็สามารถพับได้สนิทขึ้น

นอกจากนี้การใช้งานใน Flex Mode หรือมุมกางเครื่องการช่วยทำให้ได้มิติมุมใช้งานที่ดีขึ้น จากการที่ตัวเครื่องสามารถกางหรือพับแล้วทำมุมได้มากถึง 75 – 115 องศา และในโหมดที่กางตัวเครื่องออกไปเต็มที่หรือกางหน้าจอในแนวราบก็สามารถกางได้กว้างสุดที่ 181.5 องศา เลยทีเดียว

บทสรุป | Conclusion

Samsung Galaxy Z Flip5 สำหรับตัวผมที่ได้ใช้งานมาเป็นระยะเวลาสัปดาห์เต็ม ๆ ผมรู้สึกว่าจุดเด่นของ Galaxy Z Flip5 ไม่ได้อยู่กล้องถ่ายรูปหรือประสิทธิภาพตัวเครื่องที่หวือหวาถึงแม้จะชิปเซ็ตตัวแรงสุดของตลาดและสเปกไม่ได้ด้อยหรือสู้ใครไม่ได้ แต่สิ่งผมสัมผัสได้และคิดว่ามันเป็นจุดเด่นที่ชัดที่สุดก็คือ การพับแบบ Flip หรือพับครึ่งนั่นแหละครับ

ที่เป็นจุดขายหรือจุดตัดสินใจหลักในการเลือกซื่อสมาร์ตโฟนรุ่นนี้เลยว่า คุณจะชื่นชอบหรือเห็นประโยชน์จากการพับนอกจากสไตล์นี้ไปใช้งานกับไลฟ์สไตล์คุณได้มากแค่ไหน เช่น ชอบไหมที่มีสมาร์ตโฟนขนาดเล็กพกพาสะดวก และก็สามารถกลายร่างเป็นสมาร์ตโฟนขนาดทั่วไปได้ด้วย

หรือความชอบในรูปแบบการใช้งานที่เกิดจากการพับที่ช่วยเพิ่มความหลากหลายในการถือ วาง หยิบใช้งานได้มากกว่าสมาร์ตโฟนทั่วไป ถ้าทั้งหมดที่ยกตัวอย่างมารวมเข้ากับความชอบแว่บแรกเห็น แล้วคุณรู้สึกว่าใช่ ก็นั่นแหละครับ Samsung Galaxy Z Flip5 เขาเป็นเนื้อคู่ของคุณแน่นอน

การวางจำหน่าย | Price & Promotion

Samsung Galaxy Z Flip5 วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้ว ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 39,900 บาท มีสีตัวเครื่องให้เลือกทั้งสีพื้นฐานและสีพิเศษที่ต้องสั่งผ่าน SAMSUNG Online Store เท่านั้น และตอนนี้ก็ยังมีโปรโมชั่น Topup ค่าเครื่องที่นำมาเทรดอยู่นะครับ ยังไงลองติดต่อสอบถามหน้าร้านกันอีกที

ขอบคุณ SAMSUNG Thailand

galaxy z flip 5 samsung, 5 samsung galaxy z flip, flip 5 samsung galaxy