REVIEWMOBILETECH

รีวิว vivo V30 Pro 5G สมาร์ตโฟนที่ถ่ายพอร์ตเทรตได้เทพเกินคน และครั้งแรกของ ZEISS บน V Series

vivo V30 Pro 5G สมาร์ตโฟนรุ่นท็อปสุดของ “vivo V30 Series 5G” ในครั้งนี้ของ vivo ประเทศไทย โดยยังคงมีจุดเด่นอยู่ที่การถ่ายภาพพอร์ตเทรตได้เก่งเหมือนกับรุ่นน้อง vivo V30 5G แต่สิ่งที่ถูกเพิ่มเติมเข้ามาเพื่อบ่งบอกถึงการเป็นรุ่นท็อปสุดของ V Series ในครั้งนี้ก็คือ ความ “ถ่ายเทพเกินคน” หรือ “Portrait So Pro” ที่ได้ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์กล้องที่ดี และยังมีโอกาสได้ Collab กับ “ZEISS” เหมือนกับ vivo X Series รุ่นเรือธงของแบรนด์เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ vivo V Series ด้วย!


🛒 สั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์

Shopee :https://shope.ee/9A16ndhgYi
Lazada :https://s.lazada.co.th/s.NhiP3?cc


นอกจากนี้ทาง vivo ยังได้เสริมอาวุธให้กับ V30 Pro 5G ให้สมกับการเป็นรุ่นท็อปของ V Series ในครั้งนี้ ด้วยการอัปเกรดคุณสมบัติและความสามารถในด้านอื่น ๆ เข้ามาให้อีกหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นแสงออร่า “Aura Light Portrait” เวอร์ชันใหม่ 3.0 ที่ฉลาดและเก่งขึ้นจากเดิม ระบบกล้อง 3 ตัว บนความละเอียด 50MP ทั้งหมด เบื้องหลังของการถ่ายพอร์ตเทรตได้เทพในครั้งนี้

รวมไปถึงดีไซน์ตัวเครื่องที่บางและเบาขึ้นจากรุ่นก่อนจนกลายเป็นสมาร์ตโฟนที่บางที่สุดของ vivo ณ ตอนนี้ด้วย จากจุดเด่นที่เกริ่นมาทั้งหมด ทำให้ผมเชื่อเลยว่า “vivo V30 Pro 5G” จะเป็นสมาร์ตโฟน V Series ที่ทำให้แฟนคลับหรือคนรักการถ่ายภาพพอร์ตเทรตมีความสุขและหลงรักน้องใหม่ตัวท็อปคนนี้อย่างแน่นอน

เลือกอ่านตามหัวข้อที่สนใจ

ข้อมูลสเปกตัวเครื่องของ vivo V30 Pro 5G

  • จอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 2,800 x 1,260 พิกเซล (1.5K Resolution)
    — Refresh Rate 120Hz (ปรับได้ 60Hz และ 120Hz)
    — Touch Sampling Rate 300Hz
    — Brightness 1200 nits | Peak brightness : 2800nits
    — Color : 10 Bits | 105% NTSC | 100% DCI-P3

  • CPU MediaTek Dimensity 8200 ความเร็ว 3.1GHz (4nm.)
  • GPU Mali G610
  • RAM 12GB (LPDDR5x) | Extended RAM 4.0 12GB
  • ROM 512GB (UFS3.1)
  • Funtouch OS 14 Base on Android 14
  • กล้องถ่ายรูป Triple Camera 50MP + Aura light Portrait 3.0
    กล้องหลัก VCS True Color ความละเอียด 50MP (OIS, f/1.88, 84° FOV, 6P)
    กล้อง Professional Portrait Camera ความละเอียด 50 MP (AF, f/1.85, 47.6° FOV, 6P)
    กล้อง AF Ultra Wide-Angle Camera ความละเอียด 50MP (f/2.0, 119° FOV, 5P)
  • กล้องหน้า ความละเอียด 50 MP (AF Ultra Wide-Angle Camera, f/2.0, 92° FOV, 5P)
  • Wi-Fi : 2.4 GHz, 5.1 GHz, 5.5 GHz, 5.8 GHz
  • Dual SIM Card (5G + 5G Dual Standby)
  • Bluetooh 5.3
  • รองรับ NFC, OTG
  • USB-C : 2.0
  • กันน้ำและฝุ่น IP54
  • แบตเตอรี่ 5000mAh (FlashCharge 80W)

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • ตัวเครื่อง vivo V30 Pro 5G
  • คู่มือการใช้งาน
  • เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
  • เคสป้องกันรอยตัวเครื่อง (Soft Case)
  • สายชาร์จ USB-C
  • อแดปเตอร์ (FlashCharge 80W)


— ZEISS Triple Camera 50MP & Aura Light Portrait 3.0  |  ครั้งแรกของ ZEISS บนสมาร์ตโฟน V Series และไฟ Aura Light Portrait เวอร์ชันใหม่

เริ่มกันที่จุดขายของ vivo V30 Pro 5G กับเรื่องราวของความเทพในการถ่ายภาพที่ไม่ได้เก่งแต่การถ่ายพอร์ตเทรตเท่านั้น การถ่ายภาพวิว, อาหาร, สถาปัตยกรรม และอื่น ๆ ก็ทำได้เก่งไม่แพ้กันเลย ตัวกล้องมีการเก็บรายละเอียดวัตถุได้ดีมาก ๆ ทั้งความคมชัด แสง สี และเงาของวัตถุให้รายละเอียดได้สมจริง การประมวลผลภาพก็ทำได้เร็ว

vivo V30 Pro 5G มากับกล้อง Triple Camera ที่ประกอบด้วย กล้องหลัก VCS True Color ใช้เซนเซอร์ SONY IMX920 ความละเอียด 50MP (F1.88, ขนาด 1/1.49″, OIS) ทำงานร่วมกับ vivo Camera-Bionic Spectrum (VCS) ที่คอยทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลด้านแสงและสีที่ใกล้เคียงกับสิ่งที่ตาเรามองเห็นให้กับเซนเซอร์กล้องหลัก ซึ่งการมี VCS เข้ามาช่วยทำงานร่วมกับเซนเซอร์กล้องหลักเช่นนี้ ก็จะมีผลทำให้ภาพถ่ายหลังกล้องมีรายละเอียดของสีและแสงที่เหมือนกับตาที่เราเห็นด้วยนั่นเอง

ในขณะที่กล้องตัวที่ 2 เป็นกล้องเลนส์มุมกว้างพิเศษความละเอียด 50MP (F2.0) มีระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ (AF) ให้มุมมองภาพกว้าง 119 องศา และกล้องตัวสุดท้ายจะเป็นกล้อง Professional Portrait Camera ความละเอียด 50MP (AF, F1.85, FOV 47.6°) ทางยาวโฟกัส 50 mm. รองรับการซูมแบบ Optical Zoom ที่ 2X และสามารถซูมภาพได้สูงสุด 20X ด้วย Digital Zoom กล้องทั้งสามตัวสามารถทำงานร่วมกับไฟออร่า “Aura light Portrait 3.0” ในการถ่ายภาพได้ ไปชมผลงานหลังกล้องของ vivo V30 Pro 5G พร้อมกันด้านล่างได้เลยครับ

  อินเทอร์เฟซกล้องของ vivo V30 Pro 5G  


• 50MP Group Portrait

เป็นการถ่ายภาพพอร์ตเทรตแบบกลุ่มผ่านคุณสมบัติของกล้องเลนส์มุมกว้างพิเศษความละเอียด 50MP ที่สามารถให้ FOV หรือมุมมองการมองเห็นกว้างถึง 119 องศา สามารถเก็บใบหน้าในเฟรมภาพได้มากถึง 30 ใบหน้า ในขณะที่กล้องหน้าก็สามารถถ่ายมุมกว้างได้ด้วยเช่นกัน

  ภาพถ่ายตัวอย่าง Group Portrait (0.6X)  


• Aura Light Portrait 3.0

เทคโนโลยีแสงออร่า “Aura Light Portrait 3.0” นี้ เป็นไฮไลท์ของสมาร์ตโฟน vivo V Series ซึ่งในครั้งนี้ได้มีการพัฒนาและปรับปรุงมาถึงเวอร์ชั่น 3.0 และมีการปรับรูปแบบการให้แสงจากไฟวงแหวนออร่าทรงกลม มาเป็นแสงออร่ารูปทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ พร้อมอัปเกรดความเก่งให้ดีขึ้น ทั้งด้านการให้แสง ความนุ่มนวล การตรวจจับระยะความห่าง และโทนแสง

จุดเด่นของ Aura Light Portrait 3.0

  • แสงออร่าใหม่
    ให้แสงที่ความนุ่มนวลและสว่างที่เหมาะสม ช่วยให้ใบหน้าแบบสว่างและละมุนอย่างเป็นธรรมชาติ โดยมีขนาดออร่าใหญ่ขึ้นจากเดิมถึง 19 เท่า และแสงออร่าที่นุ่มนวลขึ้นถึง 50 เท่า
  • AI Powered Photography
    ระบบ AI อัจฉริยะ ที่ช่วยแนะนำการเปิดใช้ออร่าตามสภาพแวดล้อมการถ่ายภาพได้อย่างเหมาะสม
  • Far / Near Lighting
    สามารถตรวจจับระยะห่างแบบเรียลไทม์ เพื่อให้ได้แสงที่เหมาะสมสำหรับการถ่ายภาพพอร์ตเทรตทั้งในระยะใกล้และไกลจากไฟ Aura Light Portrait
  • Smart Color Temperature Adjustment
    ปรับโทนแสงออร่าให้เข้ากับสภาพแวดล้อมอย่างอัจฉริยะ ทั้งแสงโทนอุ่นและโทนเย็น เพื่อให้ภาพพอร์ตเทรตดูสว่างและคมชัดอย่างธรรมชาติ

Aura Light Portrait 3.0 สามารถใช้งานร่วมกับโหมดถ่ายภาพอื่น ๆ ได้นอกจากโหมดถ่ายภาพพอร์ตเทรตเกือบทุกโหมดการถ่าย ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่าย, ภาพคน, กลางคืน, วิดีโอ, หนังสั้น, ความละเอียดสูง, เอกสาร, สโลโม, โปร, อาหาร และไลฟ์โฟโต้ ยกเว้น พาโนรามา, ไทม์แลปส์, ซูเปอร์มูน, ดวงดาว, สแนปช็อต และมุมมองคู่ โดยเราสามารถเลือกปรับแสง Aura Light ได้เองด้วยการเลื่อนซ้าย-ขวาที่แถบโทนสี หรือกดที่ตัว A ให้เป็นสีเหลือง เพื่อให้ระบบเลือกปรับให้อัตโมมัติ

  ภาพถ่ายตัวอย่างด้วยไฟ Aura light Portrait  

ภาพถ่ายเปรียบเทียบ ปิด-เปิด Aura Light Portrait 3.0 


• Aura Light Food Mode 

ไฟ “Aura Light Portrait” นอกจากจะใช้สำหรับถ่ายพอร์ตเทรตให้สวยแล้ว ยังสามารถนำไปใช้ร่วมกับโหมดการถ่ายภาพอาหาร ทำให้ภาพที่ออกมาน่าทานขึ้นด้วยนะ 

  ภาพถ่ายตัวอย่าง Aura Light Food Mode  

ภาพเปรียบเทียบ Food Mode ปิด-เปิด Aura Light Portrait 3.0 


• ZEISS Style Portrait

ครั้งแรกของ vivo V Series ที่ได้ซอฟต์แวร์ “ZEISS Style Portrait” มาใช้งานด้วย โดยฟีเจอร์นี้เป็นฟีเจอร์ถ่ายภาพพอร์ตเทรต ที่จะละลายพื้นหลังของภาพให้มีโบเก้เหมือนกับเลนส์ระดับเทพของ ZEISS ทั้ง 6 รูปแบบ โดยเราสามารถเลือกปรับระดับการละลายแบบแมนนวลหรือจะปิดไปเลยก็ได้

  รูปแบบการถ่ายพอร์ตเทรตด้วย  “ZEISS Style Portrait”  

  • ZEISS Biotar (แรงบันดาลใจจาก ZEISS Biotar 1.5/75)
    โบเก้พอร์ตเทรตแบบหมุนวน แสงแฟร์รูปทรงมะกอก ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ ZEISS Biotar Lens ของ ZEISS
  • ZEISS Sonnar (แรงบันดาลใจจาก ZEISS Sonnar 2.8/180)
    โบเก้แบบนุ่มละมุนชวนฝัน เหมือนใช้เลนส์ ZEISS Sonnar 180mm. ระยะโฟกัส F2.8 
  • ZEISS Distagon (แรงบันดาลใจจาก ZEISS Distagon 2.0/28)
    โบเก้รูปทรงหกเหลี่ยม รูรับแสง 2.0/28″ ให้ภาพพอร์ตเทรตที่คมชัดทั้งในส่วนที่โฟกัสและจุดที่เบลอละลาย
  • ZEISS Planar (แรงบันดาลใจจาก ZEISS Planar 2.8/80)
    โบเก้แบบคลาสสิกดั่งเดิม ขอบแสงแฟร์คมชัด เหมือนใช้เลนส์รูรับแสง 2.0/80″
  • ZEISS Cinematic
    ถ่ายภาพพอร์ตเทรตในสไตล์ภาพยนตร์ ด้วยอัตราส่วนภาพ 2.39:1 สร้างแสงแฟลร์วงรีและเอฟเฟกต์เส้นแสงสีน้ำเงิน โดยเฉพาะเมื่ออยู่ใกล้ไฟถนนในเวลากลางคืน
  • ZEISS Cine-flare
    ขณะถ่ายภาพท่ามกลางแสงจ้า จะทำให้เกิดแสงแฟลร์เหมือนในภาพยนตร์

  ภาพถ่ายตัวอย่าง ZEISS Style Portrait  

โบเก้สไตล์ธรรมชาติ

โบเก้สไตล์ ZEISS Biotar

โบเก้สไตล์ ZEISS Planar

โบเก้สไตล์ ZEISS Distagon

โบเก้สไตล์ ZEISS Sonnar

โบเก้สไตล์ ZEISS Cinematic

พอร์ตเทรต ZEISS Cine-flare


• ZEISS Cine-flare Portrait

ขอยกมาพูดถึงเป็นหัวข้อใหญ่เลยนะครับ กับหนึ่งในเอฟเฟกต์โบเก้ ZEISS Style ที่ผมชอบมาก ๆ โดยเอฟเฟกต์นี้จะให้ภาพพอร์ตเทรตที่มีแสงแฟลร์แบบย้อนแสงให้กับเรา และเอฟเฟกต์นี้ก็มีลูกเล่นไข่อิสเตอร์ซ่อนอยู่ด้วย เพราะแสงแฟลร์แบบย้อนแสงจากเอฟเฟ็กต์นี้จะเกิดรูปแบบที่แตกต่างกันตามความเข้มและทิศทางของแสงขณะที่เราใช้เอฟเฟกต์นี้ถ่ายภาพด้วยทำได้สมจริงเสมือนเวลาที่เราถ่ายภาพย้อนแสงจริง ๆ เลย

  ภาพถ่ายตัวอย่าง ZEISS Cine-flare Portrait  

 


• Beach Portrait 

หนึ่งในรูปแบบสไตล์ถ่ายภาพพอร์ตเทรตที่ส่วนตัวชอบมาก ๆ เช่นกัน และทาง vivo ยังใส่มาให้เล่นกันทั้งใน vivo V30 5G และ vivo V30 Pro 5G เลย โดยลูกเล่นนี้จะเป็นการปรับโทนสีของภาพพอร์ตเทรตให้เป็นสไตล์ “Teal & Orange” พร้อมกับโปรเซสภาพให้มีความเหมาะสมกับสไตล์สี ทำให้ภาพดูมีความละมุ่น คลาสสิก และเหมาะกับการถ่ายภาพแสงแดดยามเย็นเหมือนตอนไปเที่ยวทะเลเลยทีเดียว

  ภาพถ่ายตัวอย่าง Beach Portrait  


• Color-Adaptive Border

ความสามารถในการปรับเปลี่ยนสีของขอบลายน้ำตามโทนสีของภาพถ่าย เพื่อสร้างเอกลักษณ์เฉพาะให้กับภาพถ่ายนั้น ๆ เหมือนเวลาที่เราถ่ายภาพด้วยกล้องโพลารอยด์ โดยจะใช้อัลกอรึทีมขั้นสูงในการวิเคราะห์สีสันและเนื้อหาของภาพอย่างละเอียด เพื่อนำไปคำนวณหาโทนสีที่เหมาะสมกับภาพถ่ายนั้น ๆ 

  ภาพถ่ายตัวอย่าง Color-Adaptive Border  


• VDO – Micro Movie

vivo V30 Pro 5G นอกจากจะครบเครื่องในด้านการถ่ายภาพนิ่งแล้ว ในฝั่งของงานวีดีโอก็ทำได้ดีเหมือนกัน โดยสามารถบันทึกวีดีโอความละเอียดสูงสุดที่ 4K@60FPS ได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง มีระบบกันภาพสั่นไหวและสามารถใช้ไฟออร่า Aura Light Portrait ขณะถ่ายวีดีโอได้เหมือนกับการถ่ายภาพนิ่ง

รวมถึงมีโหมด “ZEISS Cinematic” ซึ่งเป็นโหมดโบเก้ภาพยนตร์ และโหมด “LUTs Color Filter” ฟิลเตอร์สีภาพยนตร์มาให้เราใช้ในการถ่ายวีดีโอด้วย และยังไม่พอ! ยังมีโหมดหนังสั้น ที่จะเป็นการถ่ายคลิปหรือเลือกคลิปวีดีโอจากบนเครื่องมาต่อกันพร้อมกับใส่เพลงใส่ฟิลเตอร์ตกแต่งจนออกมาเป็นหนึ่งวีดีโอสั้น เพื่อแชร์ไปยังโซเชียลได้ด้วย


• Quality 50MP Group Selfie Camera with ZEISS Style Bokeh 

กล้องหน้าของ vivo V30 Pro 5G มาพร้อมเลนส์มุมกว้างความละเอียด 50MP (f/2.0, FOV 92°, 5P) และมีลูกเล่นโบเก้ ZEISS Style Bokeh แบบกล้องหลังให้เลือกปรับเล่นเพิ่มความสวยได้ และยังสามารถเปิดไฟ Aura light Portrait ที่จะเป็นการใช้แสงไฟจากจอแสดงผลมาช่วยเพิ่มความสว่างขณะเซลฟี่ได้ด้วยเช่นกัน

  ภาพถ่ายตัวอย่าง Selfie Camera 50MP  

ภาพถ่ายเซลฟี่ระยะ 0.6X


—  Top Level of Performance  |  ประสิทธิภาพระดับเรือธง

CPU Dimensity 8200 | RAM LPDDR5x | ROM UFS 3.1

vivo V30 Pro 5G ใช้ชิปประมวล MediaTek Dimensity 8200 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตระดับ ‘Supreme Premium’ ของ MediaTek คือยังไม่ใช่ชิปเรือธงของ MediaTek แต่ก็อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์และประสิทธิภาพการใช้งานในระดับเดียวกัน โดยตัวชิปใช้สถาปัตยกรรมการผลิตระดับ 4 นาโนเมตร ของ TSMC เป็นชิป Octa-core ที่ใช้แกนหลักเป็น Cortex A78 และ A55 ทำงานร่วมกับ RAM 12GB (LPDDR5x) พร้อมสามารถขยายพื้นที่เพิ่มด้วย Extended RAM 4.0 ได้อีก 12GB

และด้วยขนาดพื้นที่หน่วยความจำของ RAM ที่มีมากมาก ทำให้เราสามารถเปิดแอปพลิเคชันแบบเรียลไทม์พร้อมกันได้สูงสุดถึง 48 แอปฯ เลยทีเดียว ใครที่ชอบสลับแอปฯ ไปมา หรือเปิดใช้งานพร้อมกันหลาย ๆ แอป ได้ลองแล้วจะถูกใจกันแน่นอนครับ ในขณะที่พื้นที่หน่วยความจำภายใน หรือ ROM รอบนี้ทาง vivo ก็จัดมาให้มากถึง 512GB เป็น UFS 3.1 ซึ่งมีความเร็วในการอ่าน-เขียนข้อมูลระดับ 1,800-2,000 MB/s

ด้านซอฟต์แวร์ตัวเครื่องจะรันบนระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 14 โดยใช้พื้นฐานของ Android 14 ในการพัฒนา โดยอินเทอร์เฟซของ Funtouch OS ยังคงเน้นไปที่ประสบการณ์ใช้งานที่เรียบง่าย ไอคอนต่าง ๆ ดูสบายตา แต่ยังแอบซุกซนเบา ๆ ด้วยการปรับแต่งหน้าจอได้ตามสไตล์ของเรา และทาง vivo เคลมว่าภายในระยะเวลา 50 เดือน หลังการใช้งานครั้งแรก ประสบการณ์การใช้งานบน Funtouch OS จะยังคงเหมือนวันแรกที่เปิดตัวเครื่อง ลื่นไหล สมูท และนิ่ง

  อินเทอร์เฟซ Funtouch OS 14 บน vivo V30 Pro 5G  

ในด้านของการเล่นเกม ถึงแม้จุดเด่นของ vivo V30 Pro 5G จะเป็นเรื่องของการถ่ายรูป แต่เมื่อต้องเล่นเกมหนัก ๆ สักเกม ตัวเครื่องก็ดีพอที่จะให้ประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีได้ด้วยเช่นกันครับ เพราะฮาร์ดแวร์ที่เป็นสเปกตัวเครื่องของ V30 Pro 5G ทาง vivo เลือกใส่ฮาร์ดแวร์ระดับท็อป ๆ ของตลาดมือถือ Mid-range เลย นอกจากนี้ยังมีระบบระบายความร้อน “Ultra-Large Smart Cooling System” ติดตั้งมาด้วย ทำให้ขณะเล่นเกมต่อเนื่องเป็นเวลานานตัวเครื่องมีอุณหภูมิที่คงที่ไม่ร้อนจนเกินไป

ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 8200 ที่เป็นหัวใจหลักบนตัวเครื่อง ซึ่งมี MediaTek HyperEngine 6.0 Gaming Technologies ฟีเจอร์เกมมิ่งตัวเดียวกับชิปตัวท็อปของ MediaTek ติดตั้งมาด้วย ซึ่งเมื่อทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์เกมมิ่งของ vivo บนตัวเครื่อง ก็ยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผลกราฟฟิกสำหรับการเล่นเกมที่ดีออกมาได้

  คะแนนการทดสอบประสิทธิภาพด้วย Benchmark  

• Battery 5000mAh + 80W FlashCharge

มาถึงเรื่องของพลังงานกันบ้างครับ vivo V30 Pro 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดความจุ 5000mAh รองรับการชาร์จไว 80W FlashCharge ซึ่งจากประสบการณ์ที่ได้ใช้งาน V30 Pro 5G มาจนครบ 1 สัปดาห์แล้ว ยืนยันได้เลยว่า ภายในหนึ่งวันที่ผมใช้งานตัวเครื่องตั้งแต่เช้าที่ชาร์จไว้จนเต็ม จนถึงช่วงดึกสักประมาณ 3-4 ทุ่ม vivo V30 Pro 5G เอาอยู่ครับ สามารถใช้งานได้ตลอดวันตามไลฟ์สไตล์ปกติเลย

แต่ถ้าหากมีการเล่นเกม ถ่ายภาพ หรือทำกิจกรรมอะไรเป็นพิเศษต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ๆ พลังงานก็น่าจะเพียงพอใช้งานได้ประมาณ 6-8 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งสำหรับผมถ้าหากสมาร์ตโฟนรุ่นไหนสามารถอยู่กับเราตั้งแต่ตื่นจนกลับถึงบ้านได้ ส่วนตัวก็ถือว่าอึด! นะ ให้ผ่าน ส่วนการชาร์จไฟกลับเข้าเครื่องผ่าน 80W FlashCharge จากแบตเตอรี่ 1% ไปจนเต็ม 100% จะใช้เวลาประมาณ 45 – 60 นาที เท่านั้นครับ


—  Perfect Design of vivo V Series  | ดีไซน์ที่สวยและลงตัวที่สุดของ vivo V Series 

vivo V30 Pro 5G มาพร้อมงานออกแบบตัวเครื่องที่เพรียวบางที่สุดของ vivo ในเวลานี้ ด้วยความบางเพียง 7.45 มม. พร้อมน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 188 กรัมเท่านั้น โดยมีสีตัวเครื่องให้เลือกด้วยกัน 2 สี คือ สีขาวมุก Shell White (สีตัวเครื่องในรีวิว) และสีดำไนท์สกายแบล็ก Night Sky Black

ฝาหลังตัวเครื่องจะใช้วัสดุเป็นกระจก Fluorite AG มีคุณสมบัติลดการเกิดคราบและรอยนิ้วมือ โดยตัวเครื่องสีขาวมุก Shell White จะมีการวางกิมมิกด้านการออกแบบลวดลาย ให้คล้ายกับเปลือกหอยธรรมชาติผ่านการแกะสลักเส้นสัมผัสมากถึง 13 ล้านเส้น ด้วยเทคโนโลยี “Photolithography” ทำให้สามารถสะท้อนแสงเป็นสีฟ้าอ่อนได้ด้วย

บริเวณมุมซ้ายด้านบนจะเป็นตำแหน่งของกล้องถ่ายรูป Triple camera ประกอบด้วย กล้องหลักความละเอียด 50MP, กล้องเลนส์มุมกว้างพิเศษ ความละเอียด 50MP, กล้อง Tele Portrait ความละเอียด 50MP ขยับลงมาจะเป็นส่วนของแสงไฟออร่า Aura Light Portrait 3.0 ที่ครั้งนี้มาในดีไซน์สี่เหลี่ยมจัตุรัส พร้อมด้วยไปแฟลช LED

ด้านหน้าตัวเครื่องใช้จอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1.5K มีค่า Refresh Rate สูงสุด 120Hz และมีค่าความสว่างสูงสุด 2800nits ตัวหน้าจอเป็นจอแบบโค้ง 3D Curve Screen ครอบทับด้วยกระจก Schott α  มีคุณสมบัติในการกันกระแทก รวมทั้งตัวเครื่องยังมีคุณสมบัติกันน้ำ IP54 จึงสามารถใช้งานหน้าจอแสดงผลได้ถึงแม้มือเปียก

ด้านขวามีปุ่มกดปรับระดับเสียงเพิ่ม-ลด (Volume) และปุ่มกดเปิด-ปิดตัวเครื่อง (Power)

ส่วนด้านล่างมีพอร์ต USB-C, ลำโพงเสียงตัวเครื่อง และช่องถาดซิมการ์ด รองรับซิมการ์ด 5G Dual Stanby


—  Best Choice for Portrait  |  สมาร์ตโฟน Mid-range ที่ดีที่สุดสำหรับการถ่ายภาพพอร์ตเทรต

มาถึงบทสรุปการ “รีวิว vivo V30 Pro 5G” กันแล้วครับ vivo V30 Pro 5G เป็นสมาร์ตโฟน Mid-range ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของการถ่ายภาพพอร์ตเทรตเป็นอย่างมากครับ โดดเด่นจนจะบอกว่า “เทพเกิน!” มือถือระดับกลางแล้วก็ได้นะ เพราะสามารถท้าชนกับมือถือเรือธงบางรุ่นในตลาดได้เลย ซึ่งส่วนตัวก็ขอยกให้เป็น “เบอร์ 1” ของสมาร์ตโฟน Mid-range ณ ตอนนี้ กับตำแหน่งมือถือถ่ายภาพพอร์ตเทรตได้สวยที่สุด สามารถเนรมิตรผลงานภาพถ่ายระดับคุณภาพทั้งการถ่ายพอร์ตเทรตและภาพสไตล์อื่น ๆ ให้กับคุณได้ถึงแม้จะเป็นคนถ่ายรูปไม่เก่งก็ตาม

ตัวผมเองหลังจากได้ใช้ vivo V30 Pro 5G ก่อนมาทำบทความรีวิวนี้ ก็ยังรู้สึกหลงรักมือถือรุ่นนี้ไม่ต่างจากตอนได้พบกับ vivo X100 Pro 5G เลยล่ะครับ และคิดว่ามือถือรุ่นนี้น่าจะถูกใจและเป็นที่ชื่นชอบของแฟนคลับ ZEISS ที่อาจมีงบไม่ถึง X Series แต่ต้องการคุณสมบัติ ลูกเล่น และความเก่งแบบเดียวกับ X Series รวมถึงผู้ใช้งานที่ชื่นชอบการถ่ายภาพเก็บโมเมนต์ประทับใจ ชอบเดินทางท่องเที่ยว หรือสายคาเฟ่ ผมแนะนำเลยว่า ถ้าคุณกำลังมองหามือถือเครื่องใหม่ และมีงบในช่วงนี้ “vivo V30 Pro 5G” มือถือที่ถ่ายภาพได้สวยเทพแบบนี้เป็นของคุณครับ!


—  Price & Promotion  |  ราคาและการวางจำหน่าย 

vivo V30 Pro 5G รุ่น RAM 12GB + ROM 512GB เปิดตัวในราคา 19,999 บาท มาพร้อมสีตัวเครื่องให้เลือกทั้งหมด 2 สี คือ สีขาว Shell White และสีดำไนท์สกายแบล็ก Night Sky Black

เปิดให้จองล่วงหน้าและรับเครื่องก่อนใครแล้ววันนี้ – 14 มีนาคม 2567 รับฟรี! ของสมนาคุณมูลค่ารวมกว่า 12,798 บาท

  • รับส่วนลดทันที 500 บาท
  • หูฟัง vivo TWS 3e มูลค่า 1,799 บาท
  • Premium Gift Box มูลค่ารวม 10,499 บาท (เคส 2 ชิ้น และ E-VIP Card สิทธิพิเศษรับประกันตัวเครื่องเป็น 2 ปี และประกันหน้าจอแตก 1 ครั้ง ภายใน 2 ปีแรก)

โดย vivo V30 Pro 5G จะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป สามารถสั่งซื้อหรือสัมผัสตัวจริงได้ที่ vivo Brand Shop ทุกสาขา และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ vivo Online Store บน Shopee >> https://shope.ee/9A16ndhgYi และ Lazada >> https://s.lazada.co.th/s.NhiP3?cc

#vivoV30Pro5G #ถ่ายเทพเกินคน #PortraitSoPro #vivoครบรอบ10ปี

 

FIRST

MOBILE | CAR | TECH | MARKETING : อยู่ในวงการมือถือมานานเกิน 10 ปี แต่ก็ยังเป็นนักเขียนที่เป็น Introvert ชอบบอกเล่าสิ่งต่าง ๆ ผ่านบทความมากกว่าออกหน้ากล้อง เลยไม่ค่อยมีคอนเทนต์วิดีโอกับเขา

Leave a Reply