รีวิว vivo V40 5G “พอร์ตเทรตเปิดเกิดทุกคน” กับกล้อง ZEISS All Main Camera 50MP ไฟออร่าระดับสตูดิโอ ทนน้ำทนฝุ่น IP68 แบตเตอรี่ 5500mAh
รีวิว “vivo V40 5G” สมาร์ตโฟน “The next V” หรือ vivo V Series รุ่นล่าสุดของ vivo ประเทศไทย โดยรอบนี้มาพร้อมกับนิยามว่า “พอร์ตเทรตเปิดเกิดทุกคน” กับการสานต่อความสำเร็จที่รุ่นพี่ V30 Series 5G ได้ทำไว้ยอดเยี่ยมมาก ๆ ในด้านภาพลักษณ์ของการเป็นมือถือระดับกลางที่รับจบทุกเรื่องถ่ายรูป ซึ่งแน่นอนว่า ความประทับใจเหล่านั้นยังคงส่งต่อมายัง vivo V40 5G รุ่นใหม่ด้วยเช่นกัน!
🛒 สั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์
พร้อมกับปรับปรุงและเสริมประสิทธิภาพรอบด้านให้กับ vivo V40 5G มีความครบเครื่อง เก่ง และตอบโจทย์ให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การติดตั้งกล้อง ZEISS All Main Camera 50MP พร้อมซอฟต์แวร์ ZEISS Portrait มาให้มากมาย, การเพิ่มคุณสมบัติทนน้ำทนฝุ่น IP68 มาตรฐานเดียวกับสมาร์ตโฟนระดับเรือธง, Aura Light Portrait ที่พัฒนาจนถึงมาตรฐานไฟถ่ายงานในสตูดิโอ ตลอดจนการติดตั้งลำโพงคู่ Stereo มาให้บนตัวเครื่องตามฟีดแบคของลูกค้า ก็เป็นสิ่งยืนยันถึงความตั้งใจ จริงใจ และมุ่งมั่นของ vivo ที่ต้องการจะมอบสินค้าที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของแบรนด์เหมือนเช่นเดิม
แต่! ‘สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น!’ เอาเป็นว่า ตามผมไปแกะกล่อง ทดสอบใช้งาน และสรุปแง่มุมการใช้งานจริงทั้งหมดให้ทุกคนได้เห็นภาพรวมและรู้จัก “vivo V40 5G” น้องเล็กแห่ง V40 Series 5G กันมากขึ้น ผ่านบทความนี่พร้อมกันได้เลยครับ!
เลือกอ่านตามหัวข้อที่สนใจ |
ข้อมูลสเปกตัวเครื่องของ vivo V40 5G
- หน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียดระดับ 1.5K (2800 x 1260 พิกเซล)
— Refresh Rate 120Hz (Adaptive : 60Hz และ 120Hz)
— Pixel Density : 452PPI
— Peak Brightness : 4500nits
— Color Saturation : 105% NTSC
— Color Saturation : 100% DCI-P3
— Light-Emitting Material : Q9 - CPU Qualcomm Snapdragon 7 Gen 3 (4nm.), Octa-core, Up to 2.63GHz
- GPU Adreno 720
- หน่วยความจำ RAM 12GB (LPDDR4X) + 12GB Extended RAM
- หน่วยความจำ ROM 256GB / 512GB (UFS 2.2)
- ช่องใส่ซิมการ์ด Dual Slot รองรับ 2 nano SIMs (5G Dual Standby)
- กล้องหลัง 2 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลักความละเอียด 50MP (OIS supported ; f/1.88; FOV 84°; 6P lens)
- กล้อง Wide ความละเอียด 50MP (f/2.0 ; FOV 119°; 5P lens)
- ไฟ Aura Light Portrait
- กล้องหน้า Portrait ความละเอียด 50MP (Group Selfie Camera : AF supported; f/2.0; FOV 92°; 5P lens)
- เครือข่าย
— 2G GSM : 850 / 900 / 1800 / 1900MHz
— 3G WCDMA : B1 / B2 / B4 / B5 / B8
— 4G FDD-LTE : B1 / B2 / B3 / B4 / B5 / B7 / B8 / B18 / B19 / B20 / B26 / B28
— 4G TDD-LTE : B38 / B39 / B40 / B41
— 5G : n1 / n3 / n5 / n7 / n8 / n20 / n28 / n38 / n40 / n41 / n77 / n78 - การเชื่อมต่อ
— Wi-Fi 6, WLAN 2.4GHz/5GHz
— Bluetooth 5.4
— GPS, BeiDou, GLONASS, Galileo, QZSS
— พอร์ต USB Type-C 2.0 - ระบบเซนเซอร์ Accelerometer, Ambient Light Sensor, E-compass, Proximity Sensor, Gyroscope, Finger scanner on Display
- ลำโพงเสียงคู่สเตอริโอ
- แบตเตอรี่ 5500mAh BlueVolt พร้อมชาร์จไว 80W FlashCharge
- ระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย Funtouch OS 14
- มาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น IP68
- ตัวเลือกสี : สีเงินสเตลลาร์ (Stellar Silver), สีพีชซันโกลว์ (Sunglow Peach) และสีม่วงเนบิวลา (Nebula Purple)
- ขนาดตัวเครื่อง
— 164.16 × 74.93 × 7.58 มม.
- น้ำหนัก
— 190 กรัม
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- ตัวเครื่อง vivo V40 5G
- อแดปเตอร์ (80W FlashCharge)
- สายชาร์จ USB-C
- เข็มจิ้มถาดซิม
- เคสป้องกันรอยตัวเครื่อง (Soft Case)
- ฟิล์มป้องกันรอยบนหน้าจอ (ติดมาให้เรียบร้อยแล้ว)
- คู่มือการใช้งาน
- ใบรับประกันสินค้า
— Design | สวยพรีเมียมด้วยเอกลักษณ์ vivo V Series
vivo V40 5G มาพร้อมงานแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “Gemini Ring” ที่ทาง vivo ออกแบบดีไซน์โมดูลกล้องใหม่ โดยนำเอาเอกลักษณ์และการจัดเรียงตัวของกลุ่มดาว Gemini หรือกลุ่มดาวราศีเมถุน ที่สมมาตรมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบชุดโมดูลกล้องใหม่
และมาพร้อมกับสีตัวเครื่องทั้งหมด 3 สี 3 สไตล์ คือ
- สีพีชซันโกลว์ (Sunglow Peach) ได้บันดาลใจจากแสงแรกของดวงอาทิตย์ที่ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นในยามเช้า มอบพลังบวกผ่านความรู้สึกสงบและอบอุ่น เป็นเหมือนสัญลักษณ์แห่งความหวังและการเริ่มต้นใหม่
- สีเงินสเตลลาร์ (Stellar Silver) ผสมผสานความคลาสสิกเข้ากับกระจก Fluorite AG มอบสัมผัสของ ตัวเครื่องที่หรูหรา ทันสมัย และมีระดับ
- สีม่วงเนบิวลา (Nebula Purple) เปรียบได้กับสีของท้องฟ้าเวลากลางคืนยามปกคลุมด้วยหมอกดาว มอบความรู้สึกลึกลับ น่าค้นหา น่าหลงไหลเหนือกาลเวลา
ในเรื่องของสีตัวเครื่องต้องบอกเลยว่า “สีไหนสวย สีไหนถูกใจ” ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวของแต่ละคนเลยครับ แต่ที่ผมยืนยันได้คือ ทุกสีของ vivo V40 5G ครั้งนี้ทาง vivo ทำออกมาสวยหมดทุกสีเลยจริง ๆ โดยส่วนตัวชอบสีพีชเป็นพิเศษ เพราะหลงใหลตอนเห็นครั้งแรก ตั้งแต่ตอนจับ vivo Y28 แล้ว พอได้มาเห็นบน V40 5G อีกครั้ง ละลายเลย! รู้สึกเป็นสีที่สวยละมุนสุดใจ และคิดว่าสาว ๆ น่าจะชอบกันแน่นอน
ส่วนคุณผู้ชายที่ชื่นชอบความสุขุม เรียบง่าย และดูหรู ผมแนะนำสีเงินสเตลลาร์เลยครับ สุดท้ายคือ สีม่วงเนบิวลา เป็นสีที่ส่วนตัวผมคิดว่าเหมาะสำหรับเพื่อน ๆ ที่ชอบสีที่อยู่ตรงกลางดูโดดเด่น แต่ก็ไม่ได้ฉูดฉาดมากนัก และสีม่วงเนบิวลาของ vivo จะเป็นโทนสีไปทางเฉดดำเลยทำให้ดูเรียบหรูในตัวด้วย นอกจากนี้ทาง vivo มีใส่รายละเอียดเล็ก ๆ แต่แสดงถึงความใส่ใจมาให้ด้วย นั่นคือ เคสตัวเครื่องในกล่องจะแถมมาตามสีตัวเครื่องที่เพื่อน ๆ เลือกกันด้วยนะ โดยจะมีเพียงสีพีชซันโกลว์ที่เป็นเคสใส
ในขณะที่ตัวบอดี้ของเครื่องมีขนาดที่เพรียวบาง โดยมีความหนาเพียง 7.58 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักเพียง 190 กรัม แต่กลับมาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบโค้ง 3D Curved Screen ที่มีขนาดใหญ่ 6.78 นิ้ว ความละเอียดระดับ 1.5K และใช้เทคโนโลยีการออกแบบตัวเครื่องของ vivo ที่ผ่านทดสอบที่เข้มข้นมากกว่า 70 ขั้นตอน ตัวเครื่องจึงมีความทนทาน และบริเวณมุมของตัวเครื่องถูกออกแบบมาให้มีคุณสมบัติสามารถดูดซับแรงกระแทกได้เมื่อเกิดอุบัติเหตุหล่นพื้น เช่น ตกจากโซฟา เตียงนอน เป็นต้น
ภาพรอบตัวเครื่องของ vivo V40 5G
— ZEISS All Main Camera | จบทุกรูปหลังกล้อง พร้อมแชร์!
กล้องถ่ายรูปของ vivo V40 5G ครั้งนี้มาพร้อมกับกล้อง ZEISS All Main Camera ทั้งหมด โดยในชุดกล้องจะประกอบด้วยกล้อง 2 ตัว คือ กล้องหลักใช้เซนเซอร์ ISOCELL GNJ ตัวใหม่ล่าสุด ความละเอียด 50MP (F1.88, FOV84°, OIS) และกล้องเลนส์มุมกว้าง (Ultra Wide) เซนเซอร์กล้อง JN1 ความละเอียด 50MP (F2.0, FOV 119°) และยังคงมาพร้อมกับไฟ Aura Light Portrait ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ V Series ส่วนใต้ไฟออร่านั้นจะเป็นตำแหน่งของเซนเซอร์ Flicker โดยไฟ Aura Light Portrait ครั้งนี้ถูกอัปเกรดความสว่าง ความเก่ง และความฉลาดตามมาตรฐานไฟถ่ายงานในสตูดิโอเลยทีเดียว
อินเตอร์เฟซกล้อง vivo V40 5G
ประสบการณ์การถ่ายภาพและผลงานภาพถ่ายโดยรวมส่วนตัวผมรู้สึกว่า ยังคงให้ประสบการณ์การถ่ายภาพที่ง่ายต่อผู้ใช้ ถึงแม้จะเป็นคนที่ไม่ได้ถนัดถ่ายภาพก็สามารถที่จะถ่ายภาพให้สนุกและสวยได้ไม่ยาก ตำแหน่งโหมดถ่ายภาพต่าง ๆ ถูกจัดวางให้เรียกใช้งานได้ถนัดมือถือ ชัตเตอร์ตอบสนองได้ทันใจ และผลงานหลังกล้องยังคงทำออกมาได้ประทับใจเหมือนเดิม “สวย คม พร้อมแชร์!”
ยังคงเป็นกล้องมือถือ Mid-range ที่ให้ผลลัพธ์ภาพถ่ายในระดับเทพ! เหมือนเดิม และรู้สึกว่าเก่งขึ้นด้วยครับ มีการปรับปรุงอัลกอรึทึมของ AI และซอฟต์แวร์กล้องให้เก็บรายละเอียดของภาพได้เรียลมากขึ้น โหมดถ่ายภาพกลางคืนคือตัวอย่างชัดเจนเลย ภาพถ่ายที่ได้ไม่ได้มีแค่การดึงคอนทราต์ให้สว่างและคมขึ้นเท่านั้น แต่กลับมีการเก็บรายละเอียดและสภาพแวดล้อมให้สมจริงเหมือนตาเห็นมากขึ้นด้วย
เราจึงเห็นภาพกลางคืนบน vivo V40 5G ใกล้เคียงกับสิ่งที่เห็นมากขึ้น ในขณะที่ภาพถ่ายพอร์ตเทรตที่เป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์ ของเดิมทำได้ดีมาก ๆ อยู่แล้ว รอบนี้ยิ่งดุขึ้นไปอีก การแต่งสกินโทน โทนสีของภาพที่สดใสเคลียร์ชัด รายละเอียด และความคมชัดของภาพก็ทำได้ดีขึ้น เมื่อเทียบกับ vivo V30 5G แล้ว รู้สึกว่าคอนทราสต์หนักขึ้นหน่อย แต่ยืนยันว่าภาพรวมเมื่อเทียบกันแล้วเรื่องถ่ายภาพ vivo V40 5G เก่งขึ้นแบบเท่าตัวเลยล่ะครับ ลองพิจารณาผ่านตัวอย่างภาพถ่ายด้านล่างได้เลย
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง vivo V40 5G
🔴 (Multifocal) Portrait Mode
ด้วยรอบนี้ vivo V40 5G มาพร้อมกับเทคโนโลยี ZEISS Portrait แบบเต็มระบบทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ดังนั้นจึงได้คุณสมบัติในการถ่ายภาพ “ZEISS Multifocal Portrait” หรือการถ่ายภาพพอร์ตเทรตในระยะเลนส์ต่าง ๆ พร้อมกับเอฟเฟกต์ ZEISS Style Bokeh ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของสมาร์ตโฟน vivo เท่านั้น เข้ามาด้วย การได้สองสิ่งนี้มาจะช่วยเพิ่มผลลัพธ์ของภาพถ่ายพอร์ตเทรตให้สวย มีมิติ และสนุกมากขึ้นมาก ๆ เมื่อเทียบกับกล้องปกติทั่วไปครับ
กล้อง vivo V40 5G สามารถถ่ายรูป ZEISS Multifocal Portrait ได้ทั้งหมด 3 ระยะ ซึ่งแต่ละระยะก็จะมีความเหมาะสมต่อสไตล์ของภาพที่ถ่ายด้วยเช่นกัน ทั้ง 3 ระยะเลนส์จะประกอบด้วย
- ระยะ 24 mm : สำหรับถ่ายภาพแนวท่องเที่ยวหรือเชิงสร้างสรรค์
- ระยะ 35 mm : สำหรับถ่ายภาพบุคคลและภาพบรรยากาศ
- ระยะ 50 mm : สำหรับถ่ายภาพบุคคลแบบครึ่งตัว
ตัวอย่างภาพถ่ายระยะ 24 mm พร้อมโบเก้สไตล์ ZEISS Distagon
ตัวอย่างภาพถ่ายระยะ 35 mm พร้อมโบเก้สไตล์ ZEISS B-Speed
ตัวอย่างภาพถ่ายระยะ 50 mm พร้อมโบเก้สไตล์ Natural
ตัวอย่างภาพถ่ายระยะ 50 mm พร้อมโบเก้สไตล์ ZEISS Biotar
—————
🔴 ZEISS Style Portrait
เป็นเอกเฟกต์ Bokeh ตามแบบฉบับเลนส์ ZEISS โดยเราสามารถเลือกสไตล์ Bokeh ที่อยากได้แล้วกดถ่ายได้เลย แต่! Bokeh แต่ละรูปแบบจะมีระยะเลนส์ที่กำหนดไว้ด้วยนะครับ ดังนั้นตอนกดถ่ายไม่ต้องตกใจว่าทำไมระยะเลนส์ถึงเข้าใกล้หรือไกลออกจากตัวแบบ ลองมาชมตัวอย่างภาพ Portrait ZEISS ละลายหลังทั้ง 7 แบบ
ตัวอย่างภาพถ่าย Natural
ตัวอย่างภาพถ่าย ZEISS Biotar
ตัวอย่างภาพถ่าย ZEISS B-speed
ตัวอย่างภาพถ่าย ZEISS Sonnar
ตัวอย่างภาพถ่าย ZEISS Planar
ตัวอย่างภาพถ่าย ZEISS Distagon
ตัวอย่างภาพถ่าย ZEISS Cine-flare
ตัวอย่างภาพถ่าย ZEISS Cinematic
—————
🔴 Studio-quality Aura Light Portrait
ไฟ Aura Light Portrait เอกลักษณ์เฉพาะบน V Series ซึ่งในครั้งนี้ถูกพัฒนาและอัปเกรดระบบ Aura Light ใหม่ ให้เป็นมาตรฐานไฟถ่ายในสตูดิโอกันเลย โดยเพิ่มความสว่าง 33% มีเทคโนโลยีควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ ช่วยมอบแสงที่นุ่มนวลและครอบคลุมยิ่งขึ้นในภาพถ่ายระยะใกล้ และแสงที่สว่างเพิ่มชัดเจนในภาพถ่ายระยะไกล และนับเป็นครั้งแรกใน V Series ที่มีการใส่ AI 3D Studio Lighting อัลกอริทึม AI นำมาช่วยเติมแสงบนใบหน้าผ่านระบบวิเคราะห์แบบ 3 มิติ มอบผลลัพธ์ของภาพถ่ายที่สวยสมจริง ดูเป็นธรรมชาติ มากกว่าเดิม
ตัวอย่างภาพถ่ายเปรียบเทียบปิด–เปิด Studio-quality Aura Light Portrait
—————
🔴 AI Erase
ครั้งแรกของ vivo V Series ที่นำ AI ช่วยลบ เข้ามาช่วยหลังกล้องครับ โดยเราสามารถที่จะใช้อัลกอรึทีมของ AI มาลบวัตถุที่เราไม่ต้องการออกจากภาพได้สมจริง หรือจะแต่งเติมวัตถุให้เปลี่ยนรูปร่าง ขนาด ได้ด้วยเช่นกัน โดยเราสามารถเลือกลบวัตถุด้วยตนเองหรือจะวงพื้นที่เพื่อให้ AI ทำให้ก็ได้ และการใช้ความสามารถนี้สมาร์ตโฟนจำเป็นต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วยนะครับ
วิธีการใช้งาน AI Erase ลบวัตถุที่ไม่ต้องการออกจากภาพบน vivo V40 5G
การใช้งาน : เลือกรูปที่ต้องการแก้ไข > แก้ไข > การลบด้วย AI
—————
🔴 Macro Mode
—————
🔴 Food Mode
ตัวอย่างถ่ายภาพอาหารด้วย Food Mode
ตัวอย่างถ่ายภาพอาหารด้วย Food Mode พร้อมเปิดไฟ Aura Light
เปรียบเทียบถ่ายภาพอาหารด้วย Food Mode แบบปิด – เปิดไฟ Aura Light
—————
🔴 Night Mode
—————
🔴 ภาพถ่ายอื่นๆ เพิ่มเติม
— 50MP ZEISS Group Selfie Camera | เซลฟี่ที่ไม่เหมือนใคร กว้าง Bokeh สวยกว่า!
กล้องหน้าของ vivo V40 5G นอกจากมาพร้อมความละเอียดสูง 50MP ให้ภาพที่คมชัดแล้ว ยังได้ซอฟต์แวร์ถ่ายรูป ZEISS Portrait ด้วย ดังนั้นใครที่ชอบใช้กล้องถ่ายเซลฟี่รับรองว่า คุณจะภาพเซลฟี่ที่มี Bokeh ที่สวยไม่เหมือนกล้องมือถือทั่วไปแน่นอน นอกจากนี้กล้องหน้าของ V40 5G ยังมาพร้อมเลนส์มุมกว้างด้วย สามารถปรับระยะถ่ายได้กว้างถึง 0.8x ดังนั้นเวลาถ่ายภาพเซลฟี่พร้อมกันหลายคน (Group Selfie) ช่วยให้เก็บคนเข้าภาพได้ครบ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า 50MP
🔴 ZEISS Portrait Selfie
—————
🔴 ZEISS Group Selfie
ตัวอย่างภาพถ่ายเปรียบเทียบระยะ 0.8X – 1X – 2X
— Performance | ตอบรับทุกโจทย์การใช้งาน
🔴 Snapdragon 7 Gen 3 | Extended RAM 12GB + 12GB | ROM 256GB
การทำงานทั้งหมดบนตัวเครื่อง vivo V40 5G มีหัวใจหลักในครั้งนี้เป็น CPU Snapdragon 7 Gen 3 เป็นชิปเซ็ตที่มีสถาปัตยกรรมการผลิตและการทำงานในระดับมาตรฐานเดียวกับ Snapdragon 8 Gen 2 ตอบสนองได้ครอบคลุมต่อการใช้งานในทุกด้าน ทั้งการประมวลผลเพื่อทำงาน เล่นเกม การถ่ายภาพ รวมถึงการใช้เทคโนโลยี 5G
ตัวชิปเป็น CPU Octa-core 2.63GHz ใช้สถาปัตยกรรม Qualcomm Kyro และ Processor Node & Technology 4nm มาพร้อม GPU Adreno 720 โดยบนตัวเครื่องจะทำงานร่วมกับ Native RAM 12GB (LPDDR4x) และมีคุณสมบัติ Extended RAM 12GB หรือจำลองพื้นที่ของ RAM ได้อีกถึง 12GB
เท่ากับว่าบนเครื่องสามารถมี RAM ได้มากสุดถึง 24GB ดังนั้นการทำงานในภาพรวมของตัวเครื่องปัญหาเรื่องหน่วง ค้าง หรือมัลติทาร์กเพื่อใช้งานหลายแอปฯ ต่อเนื่องแล้วกังวลว่าจะค้างจนทำให้หงุดหงิด รับรองว่าหมดห่วงได้เลยครับด้วย RAM และชิปประมวลผลระดับนี้ใช้งานได้ลื่นไหลต่อเนื่องไม่หงุดหงิดแน่นอน
นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่เก็บข้อมูล (Storage) บนตัวเครื่องให้มากถึง 256GB (UFS2.2) เป็นขนาดความจุที่เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปในปัจจุบัน หรือถ้าจะมองเผื่อในอนาคตก็สามารถใช้งานได้สบายๆ อย่างน้อย 3-4 ปี ขึ้นไปเลยล่ะครับ หรือถ้าใครที่ชอบเที่ยวชอบถ่ายรูปกลัวอดใจไม่ไหว เพราะมีกล้องเทพ ๆ ของ vivo V40 5G แบบนี้ เดียวกดถ่ายเพลิน ก็ยังมีตัวเลือกรุ่น ROM 512GB วางจำหน่ายด้วยเช่นกัน ยังไงก็พิจารณาไลฟ์สไตล์ของตัวเองก่อนเลือกซื้อนะครับ เพราะไม่สามารถเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลด้วย MicroSD Card ได้นะ
อินเตอร์เฟซ Funtouch OS 14 (Android 14) บน vivo V40 5G
vivo V40 5G ไม่ได้เก่งแค่การถ่ายรูปหรือใช้งานทั่วไปเท่านั้น จากที่บอกไปด้านบนครับว่าสเปกหรือฮาร์ดแวร์ที่ทาง vivo จัดมาให้นั้น อยู่ในระดับค่อนข้างสูงเลย ดังนั้นในส่วนของการเล่นเกมระดับ AA หรือเกมที่ต้องการใช้ทรัพยากรเครื่องระดับสูง V40 5G สามารถเล่นได้ทุกเกม และยิ่งครั้งนี้ได้ลำโพงคู่มาเสริมด้วยยิ่งเพิ่มอรรถรสในการเล่นให้สนุกมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมี Ultra Game Mode หรือโหมดเล่นเกม ที่เราจะสามารถปรับแต่งทรัพยากรบนตัวเครื่องให้มีความเหมาะสมในขณะเล่นเกมได้ตามต้องการ จะบูสต์ให้แรง จะปิดการแจ้งเตือนหรือสายโทรเข้า หรือจะเปิดระบบสั่น 4D ที่เป็นเอกลักษณ์ของมือถือ vivo ก็ทำได้หมดภายในโหมดเกมนี้ ซึ่งช่วยเพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมให้สะดวก คล่องตัว และมีความยืดหยุ่นมากขึ้นทีเดียว
ในการรีวิวครั้งนี้ ผมเลือกเกมมาทดสอบประสิทธิภาพด้วยกัน 2 เกม คือ PUBG เกมแนว Battle Royal และเกม ZZZ เกมสไตล์ Action RPG ทั้งสองเกมนี้จะเป็นเกมที่วัดประสิทธิภาพของตัวเครื่องได้ดีมาก ๆ ทั้งในด้านการประมวลผลกราฟฟิก การตอบสนองของจอสัมผัส และความเก่งของ SoC ในด้านบริหารจัดการทรัพยากรและพลังงานบนตัวเครื่อง ซึ่งผลการทดสอบ vivo V40 5G ทำได้ดีทีเดียว จอสัมผัสตอบสนองไว การประมวลผลทั้งภาพและเสียงราบรื่นไม่มีกระตุกหรือหน่วง เล่นต่อเนื่อง 2-3 ชั่วโมง เรื่องของความร้อนรู้สึกอุ่น ๆ เท่านั้น เพราะ vivo ติดตั้งแผ่น VC ขนาดใหญ่สำหรับลดอุณหภูมิมาให้ด้วย ส่วนแบตเตอรี่ขณะเล่นเกมก็ลดลงในเกณฑ์ปกติ
เล่น PUBG บน vivo V40 5G
เล่น ZZZ บน vivo V40 5G
คะแนนการทดสอบประสิทธิภาพด้วย Benchmark
—————
🔴 120Hz AMOLED Display | ครั้งแรกกับลำโพงคู่ Dual Stereo Speaker บน vivo V Series
ด้านความบันเทิง รอบนี้ vivo V40 5G ก็มาพร้อม ‘ภาพและเสียง‘ ที่สมบูรณ์แบบ เพราะทาง vivo เสริมจุดที่หลายคนบ่นให้เรียบร้อยกับการติดตั้งลำโพงคู่ Dual Stereo Speaker ครั้งแรกบน V Series แถมลำโพงที่ใส่มาให้ก็ขับเสียงออกมาได้ดีทีเดียว มีมิติ เสียงเบสชัด ทิศทางเสียงกระชับพุ่งเข้าผู้ฟัง รวมทั้งเมื่อเปิดเสียงสุด (100%) เสียงไม่แตกด้วย ดูหนัง เล่นเกม หรือฟังเพลงเพลินกันแน่นอน
ในขณะที่ด้านภาพก็ยังคงมาพร้อมจอแสดงผลคุณภาพสูง โดยใช้จอ AMOLED Ultra Clear sunlight ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 2800 x 1260 พิกเซล (1.5K) สามารถปรับความละเอียดลงเป็น 2400 x 1080 พิกเซล (FHD+) ได้ มีค่ารีเฟรชเรทที่ 120Hz สามารถปรับแบบ Adaptive refresh rate (60, 120Hz) ได้ ตัวจอให้ความสว่างสูงสุดที่ 4500nits รองรับการแสดงผล HDR10+ และให้สีที่ตรงตามมาตรฐาน PCI-P3 : 100% ผ่านมาตรฐานการทดสอบจอแสดงผลของ SCG ในด้านจอถนอมสายตาด้วย
หน้าเมนูตั้งค่าการแสดงผลของ vivo V40 5G
หน้าเมนูการตั้งค่าเสียงของ vivo V40 5G
—————
🔴 IP68 | Dust and Water Resistance
vivo V40 5G มีคุณสมบัติในการทนน้ำทนฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 ซึ่งเป็นมาตรฐานการทนน้ำทนฝุ่นระดับสูงในเวลานี้ แน่นอนว่าการมี IP68 ก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้งานตัวเครื่องได้มากทีเดียว โดยมาตรฐานทนน้ำ IP68 คือ การป้องกันน้ำจืดจากภายนอกในระดับความลึก 1.5 เมตร ในระยะเวลา 30 นาที และมีคุณสมบัติทนฝุ่นละอองที่มีอันตรายต่อชิ้นส่วนภายในด้วย อย่างไรก็ตาม! ก็เตือนกันทุกครั้งเลยว่า คุณสมบัตินี้ทางผู้ผลิตใส่มาเพื่อกันอุบัติเหตุจากการใช้งานเป็นหลักนะครับ
—————
🔴 BlueVolt Battery 5500mAh + 80W FlashCharge
แบตเตอรี่ของ vivo V40 5G เป็นแบต Li-ion แบบ Silicon Carbon Gen 2 ความจุ 5500mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว 80W FlashCharge ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ที่ใช้เทคโนโลยี BlueVolt ของ vivo ในการผลิต (อ่านบทความ BlueVolt เพิ่มเติม) ตัวแบตเตอรี่จะมีขนาดเล็กและบางลง และยังคงคุณสมบัติและความจุของแบตเตอรี่ที่เท่าเดิม เมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ขนาดความจุเดียวกันทั่วไป เป็นหนึ่งความลับที่ทำให้ vivo สามารถออกแบบตัวเครื่องได้บาง แต่ยังคงมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่นั่นเองครับ
ในขณะที่การใช้งานด้วยความจุแบตเตอรี่ 5500mAh ในหนึ่งวันกับกิจกรรมใช้งานทั่วไป เช่น เล่นโซเชียล เปิดอีเมล แก้ไขเอกสาร ฟังเพลงออนไลน์ หรือเล่นเกม 1-2 ชั่วโมง ส่วนตัวรู้สึกว่า เพียงพอและแบตเตอรี่อึดอยู่เหมือนกันครับ เพราะจากที่ผมชาร์จจนเต็ม 100% และออกเดินทางในตอนเช้าผ่านกิจกรรมการใช้งานทั่วไปทั้งวันลากยาวไปจนถึงหัวค่ำประมาณทุ่มสองทุ่ม แบตเตอรี่ยังเหลือประมาณ 20 – 30% ให้ใช้งานต่อ ส่วนตัวถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้วล่ะครับ ในขณะที่ตอนชาร์จกลับจาก 0 – 100% ก็ใช้เวลาประมาณ 30 – 45 นาที แบตเตอรี่ก็เต็มพร้อมลุยต่อแล้ว ดังนั้นในภาพรวมเรื่องของพลังงานส่วนตัวผมถือว่า vivo V40 5G แบตเตอรี่อึดอยู่นะ
— Conclusion | มือถือกล้องเทพ ลำโพงคู่ ทนน้ำ
มาถึงบทสรุปของ vivo V40 5G แล้วล่ะครับ สำหรับผมแล้วก็ต้องขอหยิบยกคำชื่นชมจากตอนรีวิว vivo V30 Series 5G มามอบให้ vivo V40 5G อีกครั้งว่า “มือถือราคาหลักหมื่น(ต้น) ที่ครบเครื่อง และกล้องเทพที่สุดตอนนี้“ เป็นสมาร์ตโฟนที่ถ้าหากมีเพื่อนหรือใครมาถามผมว่า “ช่วยแนะนำมือถืองบหมื่นกลาง ๆ ที่ถ่ายรูปสวยๆ จบหลังกล้องแล้วแชร์ขึ้นโซเชียลอวดเพื่อน ๆ ได้เลย” ให้หน่อย ผมตอบทันทีว่า ‘vivo V40 5G’
เพราะนอกจากจะมีกล้องที่มาพร้อมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ดีมากแล้ว ยังมีไฟ Aura Light Portrait ที่ช่วยทะลายเงื่อนไขการถ่ายภาพในด้านของแสงด้วย และในครั้งนี้ทาง vivo ยังได้เติมแต่งคุณสมบัติใหม่ ๆ เข้ามาไม่ว่าจะเป็น มาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น IP68, ลำโพงเสียงคู่ และได้แบตเตอรี่ขนาด 5500mAh ซึ่งเป็นขนาดแบตฯ ที่ใหญ่พอให้ใช้งานได้ตลอดวัน จึงทำให้ภาพรวมของ vivo V40 5G เป็นสมาร์ตโฟนที่มีความครบเครื่องและครอบคลุมการใช้งานในทุกไลฟ์สไตล์มาก ๆ
โดยเฉพาะการถ่ายรูปที่ส่วนตัวผมรู้สึกว่า เป็นรุ่นที่มีความเก่งมากที่สุดอีกรุ่นของมือถือระดับกลางในตอนนี้เลยก็ว่าได้ จึงไม่ยากเลยครับที่ส่วนตัวผมจะมอบตำแหน่งเบอร์ 1 ของสมาร์ตโฟน Mid-range ที่น่าซื้อ ณ เวลานี้ให้ ต้องชมเลยว่า ตั้งแต่ต้นปีมาเรื่องถ่ายภาพพอร์ตเทรตทาง vivo ยังคงทำออกมาได้ดีมาก ๆ และไม่ใช่แค่มือถือ V Series เท่านั้น แต่ทุกไลน์อัปในปีนี้เรื่องภาพนิ่งต้องยกให้ vivo เลยจริงๆ ดังนั้นถ้าใครที่กางงบมือถือเครื่องใหม่ไว้ที่หลักหมื่นกลาง ๆ พร้อมจุดประสงค์ใช้งานถ่ายรูปเป็นหลัก เชื่อเถอะครับ! เลือกน้อง vivo V40 5G เขาได้เลยครับ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน!
— Price & Promotion | รายละเอียดราคาและโปรโมชัน
vivo ประเทศไทย วางจำหน่าย vivo V40 5G ด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่น ประกอบด้วย
- รุ่น RAM 12GB + 256GB ราคา 15,999 บาท
- รุ่น RAM 12GB + 512GB ราคา 17,999 บาท
มีสีตัวเครื่องให้เลือกทั้งหมด 3 สี ประกอบด้วย สีพีชซันโกลว์ (Sunglow Peach), สีเงินสเตลลาร์ (Stellar Silver) และสีม่วงเนบิวลา (Nebula Purple)
โปรโมชัน!
เมื่อซื้อและรับเครื่องภายในวันที่ 1 กันยายน 2567 รับฟรี! หูฟัง vivo TWS 3e มูลค่า 1,799 บาท และชุด V40 Series 5G Premium Gift box มูลค่า 10,499 บาท ภายในเซ็ตประกอบด้วย เคส, สายคล้องคอ, Mini Bag และ E-VIP
[ #vivoV40Series5G #พอร์ตเทรตเปิดเกิดทุกคน ]












































































































































