REVIEWMOBILETECH

รีวิว vivo V50 สมาร์ตโฟนถ่ายที่รักอย่างโปร! ด้วยกล้อง 50MP ZEISS All Main Camera

รีวิว vivo V50 สมาร์ตโฟน V Series รุ่นใหม่จาก vivo ประเทศไทย โดยครั้งนี้มาพร้อมสโลแกนน่ารัก ๆ “ถ่ายที่รักอย่างโปร” ยังคงชูจุดเด่นในความเก่งของการถ่ายรูปเหมือนเดิม และก็ควรจะเป็นเช่นนั้นแน่นอนครับ เพราะตัวผมเองได้มีโอกาสรีวิว vivo V Series มาอย่างยาวนาน ก็เลยได้เห็นการเติบโตของซีรีส์นี้บนเส้นทางตลาดสมาร์ตโฟน Mid-range มาโดยตลอด

จนมาถึง vivo V50 หลังจากได้ใช้งานจริงก็ยอมรับจากใจเลยว่า ยังคงเป็น ‘สมาร์ตโฟน Mid-range ที่เราสามารถไว้ใจและเชื่อใจในเรื่องถ่ายรูป’ ได้เหมือนเช่นเดิมทุกครั้งจริง ๆ ครับ ไม่ว่าจะไปออกทริปกับเพื่อน ๆ, ไปเที่ยวในโมเมนต์สำคัญ หรือแม้แต่การถ่ายรูป ‘ที่รัก’ ของเราให้ไม่โดนบ่น ก็สามารถเชื่อใจให้ vivo V50 รุ่นนี้ ทำภารกิจสำคัญให้ได้สบาย ๆ เลย 

ในภาพรวม vivo V50 ยังคงเป็นสมาร์ตโฟนที่โดดเด่นในเรื่องของกล้องถ่ายรูปเหมือนเช่นเดิมครับ ที่เพิ่มเติมเข้ามาจะเป็นส่วนของสเปกตัวเครื่องที่สดใหม่ขึ้น, ปรับปรุงชุดกล้องถ่ายรูปทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ให้ลงตัวขึ้น พร้อมกับความกล้าในการนำตัวเครื่องสีสันใหม่ ๆ เข้ามาจำหน่ายให้กับลูกค้า อย่างเช่น สีแดง Ancora Red นั่นเอง

ทั้งหมดที่ร่ายมายาวนี้ เชื่อไหมครับว่าเป็นเพียงข้อมูลภาพรวมกว้าง ๆ ของ vivo V50 เท่านั้น เพราะยังมีรายละเอียดในส่วนอื่น ๆ และข้อมูลเพิ่มเติมที่รอให้ทุกคนได้สัมผัสและพร้อมจะโดนตก! ให้หลงรักสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ไปด้วยกัน ไม่แน่ว่า vivo V50 อาจกลายเป็น ‘ที่รัก’ คนใหม่ของคุณก็เป็นได้! ถ้าพร้อมแล้วก็ลุยกันได้เลยครับ

เลือกอ่านตามหัวข้อ

1. Design / งานออกแบบ
2. Camera / กล้องถ่ายรูป
3. Operating System / ระบบปฏิบัติการ
4. Performance / ประสิทธิภาพ

5. Conclusion / บทสรุป
6. Price & Availability / ราคาและการวางจำหน่าย


/ Specification รายละเอียดสเปกของ vivo V50

  • จอแสดงผล AMOLED Micro Quad Curved ขนาด 6.77 นิ้ว ความละเอียด 2392 x 1080 พิกเซล (FHD+)
    — ความสว่างสูงสุด 4500nits
    — Refresh Rate 120Hz
    — PPI : 452 PPI
    — ขอบเขตสี : DCI-P3 100%
    — ความอิ่มตัวของสี : NTSC 100%
  • ชิปประมวลผล Octa-core Snapdragon 7 Gen 3 (4nm, 2.63GHz)
  • GPU Adreno 720
  • RAM 12GB (LPDDR4x) + Extended RAM 12GB
  • ROM 256GB | 512GB (UFS 2.2)
  • Funtouch OS 15 (Android 15)
  • กล้องถ่ายรูป 50MP ZEISS All Main Camera พร้อมไฟ Aura Light
    — กล้องหลัก เซนเซอร์ OV50E ความละเอียด 50MP (F1.88, OIS, Video 4K)
    — กล้องเลนส์มุมกว้าง เซนเซอร์ JN1 ความละเอียด 50MP (F2.0, FOV 119 องศา, Video 4K)
  • กล้องหน้า ZEISS เซนเซอร์ JN1 ความละเอียด 50MP (F2.0, FOV 119 องศา, Video 4K)
  • ทนน้ำและฝุ่น IP68 & IP69
  • รองรับการสแกนนิ้วมือบนหน้าจอ
  • รองรับการใช้งานเครือข่าย
    — 2G GSM : 850/900/1800/1900 MHz
    — 3G WCDMA : B1/B2/B4/B5/B6/B8
    — 4G FDD-LTE : B1/B2/B3/B4/B5/B7/B8/B12/B17/B18/B19/B20/B26/B28/B66
    — 4G TD-LTE : B38/B39/B40/B41/B42
    — 5G : n1/n2/n3/n5/n7/n8/n20/n26/n28/n66/n38/n40/n41/n77/n78
  • รองรับการใช้งานซิมการ์ด 2 ซิมการ์ด (Nano SIM)
  • พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C
  • Bluetooth 5.4
  • WiFi 6 | WLAN 2.4GHz / 5GHz
  • GPS : GPS, BeiDou, GLONASS, Galileo, QZSS
  • แบตเตอรี่ BlueVolt 6000mAh
    — ชาร์จไว 90W FlashCharge
  • สีตัวเครื่อง
    — สีแดง Ancora Red (เคสใส)
    — สีดำ Satin Black (เคสสีดำ)
    — สีม่วง Mist Purple (เคสใส)

— อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • ตัวเครื่อง vivo V50
  • คู่มือการใช้งาน – ใบการรับประกัน
  • สายชาร์จ USB-C
  • อแดปเตอร์ชาร์จ (90W FlashCharge)
  • เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
  • เคสตัวเครื่องแบบใส (Soft Case)
  • ฟิลม์กันรอยหน้าจอ (ติดตั้งมาแล้ว)

ย้อนกลับไปเลือกหัวข้อ


/ Design ประณีต พรีเมียม และยังคงเอกลักษณ์ของ V Series

vivo V50 มาพร้อมงานออกแบบตัวเครื่องที่มีการลงรายละเอียดมากขึ้นจากรุ่นก่อน หนึ่งในนั้นคือ การออกแบบโมดูลกล้องด้วยดีไซน์ Dual-Ring กับการจัดวางเลนส์กล้องและไฟ Aura Light  ในรูปแบบวงแหวน และแบ่งพื้นที่ออกเป็นเป็นสองส่วนอย่างสมมาตร พร้อมกับใส่ลวดลายแกะสลัก Diamond Texture ที่ทำมาอย่างประณีต ด้วยเทคนิคตกแต่งระดับลักซ์ชัวรี และเจียระไนเพื่อเพิ่มความเงางามและมีมิติ

ตัวเครื่องของ vivo V50 รอบนี้ มาพร้อมตัวเลือกสีทั้งหมด 3 สี คือ

  • สีแดง Ancora Red (แองคอรา เรด)
  • สีดำ Satin Black (ซาติน แบล็ก)
  • สีม่วง Mist Purple (มิสต์ เพอร์เพิล)

และที่พิเศษในครั้งนี้คือการที่ vivo ได้ร่วมกับ Vogue Thailanad จัดทำเซ็ต “vivo X Vogue V50 Co-branded Gift Box” โดยนำ vivo V50 สีแดง Ancora Red มานำเสนอภาพลักษณ์ของ vivo ในมุมของแบรนด์เทคโนโลยีล้ำสมัยที่เข้ากับแฟชั่นได้อย่างลงตัวด้วย

กลับมาที่ตัวเครื่อง เมื่อพลิกมาด้านหน้าตัวเครื่อง ก็จะพบกับจอแสดงผลแบบใหม่นามว่า “Micro Quad Curved Screen” เป็นจอแบนขอบโค้งเล็กน้อยเช่นเดียวกับ vivo X200 Series ซึ่งเป็นครั้งแรกของ V Series ที่ได้ใช้หน้าจอชนิดนี้ โดยจอมีขนาด 6.77 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD+ (Refresh Rate 120Hz) มีขอบหน้าจอบางเพียง 1.86 มม. ใช้พาแนลจอเป็น AMOLED ที่แสดงผลขอบเขตสีได้ลึกถึง 1 พันล้านสี และยังครอบทับด้วยกระจก Diamond Shield Glass ที่มีคุณสมบัติทนต่อรอยขีดข่วนและการกระแทกได้ดีด้วย

บริเวณกึ่งกลางหน้าจอจะเป็นตำแหน่งของกล้องหน้า ซึ่งครั้งนี้มาพร้อมกล้องเลนส์มุมกว้างพิเศษ ที่ใช้เซนเซอร์ JN1 ความละเอียด 50MP ให้มุมมอง (FOV) กว้าง 92 องศา เป็นเซนเซอร์ตัวเดียวกับกล้องหลัง

ภาพรอบตัวเครื่องของ vivo V50

— IP68 & IP69 Ratings Dust and Water Resistance

อีกหนึ่งมาตรฐานใหม่ของ vivo V50 คือ การที่ตัวเครื่องมาพร้อมกับมาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น IP68 & IP69 ที่เป็นมาตรฐานใหม่ของสมาร์ตโฟนตอนนี้ มาตรฐานนี้จะช่วยเสริมให้สมาร์ตโฟนมีคุณสมบัติในการทนต่อน้ำและฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยผมขอเสริมข้อมูลเรื่อง IP69 ให้สักนิดครับ เพราะน่าจะเป็นมาตรฐานใหม่ที่หลายคนอาจพึ่งเคยได้ยิน

IP69 จะมีคุณสมบัติการทนน้ำและฝุ่นที่เหมือนกับ IP68 แต่จะแตกต่างกันตรง IP69 จะทนต่อแรงดันน้ำระดับสูงได้ด้วย ในขณะที่ IP68 จะทนน้ำเมื่อวัตถุจมอยู่ในน้ำลึก 1 เมตร ดังนั้นเมื่อมีสองมาตรฐานนี้มาในเครื่องเดียว นั่นก็แปลว่าตัวเครื่องสมาร์ตโฟนจะสามารถทนต่อแรงดันน้ำระดับสูงได้และก็ยังทนน้ำเมื่อจมน้ำลึก 1 เมตร นั่นเอง 

*ข้อแนะนำ ถึงแม้ตัวเครื่องจะมีคุณสมบัติ IP68 & IP69 เข้ามา แต่ก็ขอแนะนำว่าควรระมัดระวังในการนำไปใช้งานสักหน่อย อย่างเช่น เอาไปแช่น้ำแบบจริงจังเลยนานเป็นชั่วโมง แน่นอนว่าตัวเครื่องอาจจะเสื่อมหรือพังเร็วกว่าปกติ เพราะมาตรฐานเหล่านี้ทำมาสำหรับในเคสของอุบัติเหตุเป็นหลัก

ย้อนกลับไปเลือกหัวข้อ


/ 50MP ZEISS All Main Camera กล้องถ่ายสนุก ไว้ใจได้

vivo V50 มาพร้อมกล้องถ่ายรูป Dual Camera ที่ประกอบด้วย กล้องหลักเซนเซอร์ OV50E ขนาด 1/1.55 นิ้ว ความละเอียด 50MP (F1.88) มีคุณสมบัติไวต่อแสงสูง ดังนั้นจึงช่วยให้เราเก็บภาพถ่ายที่ดีได้ทั้งตอนกลางวันและกลางคืน และยังมีระบบกันภาพสั่นไหว OIS ระดับ DSLR CIPA 4.0 ในตัวด้วย ช่วยลดความเบลอของภาพจากการสั่นไหว

โดยจะทำงานร่วมกับเทคโนโลยี VCS Camera-Bionic Spectrum ของ vivo ที่ทำหน้าที่ร่วมกันในการถ่ายทอดสีสันของภาพถ่ายให้ออกมาสดใสและสมจริง ซึ่งน่าจะเคยเห็นผลงานภาพถ่ายจากเทคโนโลยี VCS ของ vivo กันมาบ้างแล้วว่า สวย คม และสีสันสดใสสมจริงมาก ๆ เพราะทาง vivo นำมาใช้ตั้งแต่ vivo V30 Series แล้วล่ะครับ

ถัดมาจะเป็นกล้องเลนส์มุมกว้างพิเศษ (Ultra Wide) ใช้เซนเซอร์ JN1 ความละเอียด 50MP (F2.0) ให้มุมมองภาพกว้าง 119 องศา มีการนำเทคโนโลยี AI Group Portrait Algorithm ช่วยเพิ่มความคมชัดของใบหน้าในภาพหมู่ ทำให้สามารถถ่าย Super Group Photos ได้สูงสุดถึง 30 คน

เสริมด้วย Ultra-wide Artistic Portrait ลูกเล่นเพื่อการสร้างสรรค์ภาพพอร์ตเทรตที่โดดเด่นยิ่งขึ้น เช่น ถ่ายการภาพขาเรียวยาวจากมุมต่ำ เพิ่มมิติให้ภาพดูมีพลังและแตกต่างไม่เหมือนใครด้วย โดยที่ทั้งสองกล้องจะถูกครอบด้วยเลนส์กระจกของ ZEISS ส่วนด้านล่างโมดูลกล้องจะเป็นตำแหน่งของไฟ Aura Light ดีไซน์กลม ที่จะทำงานร่วมกันกับชุดกล้องทั้งสองในการถ่ายภาพให้สวย คมชัด และมีมิติ

อินเตอร์เฟซกล้อง vivo V50

ประสบการณ์การถ่ายภาพและผลงานภาพถ่ายโดยรวมส่วนตัวผมรู้สึกว่า ยังคงให้ประสบการณ์การถ่ายภาพที่ง่ายต่อผู้ใช้ ถึงแม้จะเป็นคนที่ไม่ได้ถนัดถ่ายภาพก็สามารถที่จะถ่ายภาพให้สนุกและสวยได้ไม่ยาก ตำแหน่งโหมดถ่ายภาพต่าง ๆ ถูกจัดวางให้เรียกใช้งานได้ถนัดมือถือ ชัตเตอร์ตอบสนองได้ทันใจ และผลงานหลังกล้องทำออกมาได้ประทับใจเหมือนเดิม “สวย คม พร้อมแชร์!”

vivo V50 เป็นกล้องมือถือ Mid-range ที่ให้ผลลัพธ์ภาพถ่ายในระดับเทพ! เหมือนกับ V Series ในรุ่นก่อน ๆ และยังรู้สึกว่าเก่งขึ้นด้วยครับ โดยมีการปรับปรุงอัลกอรึทึมของ AI และซอฟต์แวร์กล้องให้เก็บรายละเอียดของภาพได้เรียลมากขึ้น โหมดถ่ายภาพกลางคืนคือตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนเลย ภาพถ่ายที่ได้ไม่ได้มีแค่การดึงคอนทราสต์ให้สว่างและคมเท่านั้น แต่ยังมีการเก็บรายละเอียดและสภาพแวดล้อมให้สมจริงเหมือนตาเห็นมากขึ้นด้วย

Color Tone : สดใส, มีมิติ และ ZEISS (ธรรมชาติ)

ก่อนที่เราจะเริ่มถ่ายภาพด้วย vivo V50 นั้น ผมแนะนำให้ทุกคนไปเลือกโทนสีหรือสไตล์สีสันของภาพถ่ายที่เราชอบกันก่อนนะครับ ไม่งั้นเราต้องถ่ายด้วยค่าโทนสีที่ตัวเครื่องจะเริ่มต้นที่โทน “สดใส” ซึ่งบางคนอาจไม่ชอบ แล้วเดี๋ยวจะพาเฟลไปทั้งหมดด้วย  โดยกล้องของ vivo V50 จะสามารถเลือกโทนสีของภาพถ่ายได้ทั้งหมด 3 สไตล์ คือ

  • สดใส (Vivid)
  • มีมิติ (Textured)
  • ZEISS (Natural อันนี้แนะนำ)

— ZEISS Multifocal Portrait

vivo V50 ยังคงมาพร้อมกับเทคโนโลยี ZEISS Portrait แบบเต็มระบบเหมือนเช่นเดิม ดังนั้นเราจึงสามารถถ่ายภาพด้วยคุณสมบัติการถ่ายภาพ “ZEISS Multifocal Portrait” หรือการถ่ายภาพพอร์ตเทรตด้วยระยะเลนส์ต่าง ๆ พร้อมกับเอฟเฟกต์ ZEISS Style Bokeh ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของสมาร์ตโฟน vivo ได้เหมือนเดิม 

กล้อง vivo V50 สามารถถ่ายรูป ZEISS Multifocal Portrait ได้ทั้งหมด 3 ระยะ 4 รูปแบบ ซึ่งแต่ละระยะก็จะมีความเหมาะสมต่อสไตล์ของภาพที่ถ่ายด้วยเช่นกัน ทั้ง 3 ระยะเลนส์จะประกอบด้วย

  • ระยะ 23 mm (Landscape Portrait) : สำหรับถ่ายภาพแนวท่องเที่ยวหรือเชิงสร้างสรรค์
  • ระยะ 35 mm (Street Portrait) : สำหรับถ่ายภาพบุคคลและภาพบรรยากาศ
  • ระยะ 50 mm (Natural Portrait) : สำหรับถ่ายภาพบุคคลแบบครึ่งตัว
  • ระยะ 50 mm (Classic Portrait) : สำหรับถ่ายภาพบุคคลแบบครึ่งตัว

ตัวอย่างภาพถ่าย ZEISS Multifocal Portrait

— ZEISS Style Bokeh

เป็นเอกเฟกต์ Bokeh ตามแบบฉบับเลนส์ ZEISS โดยเราสามารถเลือกสไตล์ Bokeh ที่อยากได้แล้วกดถ่ายได้เลย แต่! Bokeh แต่ละรูปแบบจะมีระยะเลนส์ที่กำหนดไว้ด้วยนะครับ ดังนั้นตอนกดถ่ายไม่ต้องตกใจว่าทำไมระยะเลนส์ถึงเข้าใกล้หรือไกลออกจากตัวแบบ ลองมาชมตัวอย่างภาพ Portrait ZEISS ละลายหลังทั้ง 7 แบบกันเลย

รูปแบบ Bokeh ของ ZEISS จะมีให้เลือกใช้ด้วยกันทั้งหมด 7 รูปแบบ คือ

  • Natural : โบเก้พอร์ตเทรตแบบธรรมชาติ แสงโบเก้สไตล์ทรงกลมหรือวงรีแบบละมุน
  • ZEISS Biotar (แรงบันดาลใจจาก ZEISS Biotar 1.5/75)
    โบเก้พอร์ตเทรตแบบหมุนวน แสงแฟร์รูปทรงมะกอก ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ ZEISS Biotar Lens ของ ZEISS
  • ZEISS Sonnar (แรงบันดาลใจจาก ZEISS Sonnar 2.8/180)
    โบเก้แบบนุ่มละมุนชวนฝัน เหมือนใช้เลนส์ ZEISS Sonnar 180mm. ระยะโฟกัส F2.8
  • ZEISS Distagon (แรงบันดาลใจจาก ZEISS Distagon 2.0/28)
    โบเก้รูปทรงหกเหลี่ยม รูรับแสง 2.0/28″ ให้ภาพพอร์ตเทรตที่คมชัดทั้งในส่วนที่โฟกัสและจุดที่เบลอละลาย
  • ZEISS Planar (แรงบันดาลใจจาก ZEISS Planar 2.8/80)
    โบเก้แบบคลาสสิกดั่งเดิม ขอบแสงแฟร์คมชัด เหมือนใช้เลนส์รูรับแสง 2.0/80″
  • ZEISS Cinematic
    ถ่ายภาพพอร์ตเทรตในสไตล์ภาพยนตร์ ด้วยอัตราส่วนภาพ 2.39:1 สร้างแสงแฟลร์วงรีและเอฟเฟกต์เส้นแสงสีน้ำเงิน โดยเฉพาะเมื่ออยู่ใกล้ไฟถนนในเวลากลางคืน
  • ZEISS Cine-flare ขณะถ่ายภาพท่ามกลางแสงจ้า จะทำให้เกิดแสงแฟลร์เหมือนในภาพยนตร์

ตัวอย่างภาพถ่าย ZEISS Style Bokeh

— Film Camera Mode

โหมดกล้องฟิล์ม เป็นโหมดถ่ายภาพที่ vivo ใส่เข้ามาให้เป็นลูกเล่นของกล้องพิเศษและเป็นครั้งแรกของ vivo V Series ด้วยครับ เอาใจคนรักการถ่ายย้อนยุคหรือชอบความคลาสสิกของกล้องฟิล์ม โดยในโหมดนี้ทั้งฟิลเตอร์ถ่ายภาพ เสียงกดชัตเตอร์ รวมถึงการแสดงผลหลังถ่ายเสร็จ

ทาง vivo ออกแบบมาให้เราได้ประสบการณ์การถ่ายภาพเหมือนใช้กล้องฟิล์มจริง ๆ เลยล่ะ ใครที่ชอบใช้กล้องฟิล์มมาก่อนจะชอบแน่นอน โดยเราสามารถเข้าใช้งานโหมดกล้องฟิล์มได้ด้วยการปัดจอขึ้นจากด้านล่างของหน้าจอบริเวณใต้ปุ่มชัตเตอร์กล้องถ่ายรูป ขณะที่อยู่ในหน้าเมนูกล้องถ่ายรูป

ตัวอย่างภาพถ่าย Film Camera Mode

— Color Adaptive Border

จะเป็นลูกเล่นในส่วนของกรอบลายน้ำบนภาพถ่าย ที่สามารถปรับเปลี่ยนโทนสีแบบอัตโนมัติตามสภาพแวดล้อมของภาพถ่าย ช่วยให้ภาพสามารถเล่าเรื่องได้ดีขึ้น โดยก่อนที่จะถ่ายรูปต้องเข้าไปที่เมนูลายน้ำ (Watermark) และเลือกเปลี่ยนเป็น Color Adaptive Border

นอกจากนี้ vivo V50 ยังสามารถเลือกปรับเปลี่ยนกรอบลายน้ำเพิ่มเติมให้เป็นรูปแบบหรือเอฟเฟกต์ต่าง ๆ หลังถ่ายได้ด้วยครับ (กดเมนูแก้ไขในหน้าภาพถ่ายที่ต้องการเปลี่ยนแล้วเลือกหัวข้อ “กรอบ”)

— Aura Light Portrait with “AI”

ไฟ Aura Light Portrait ที่เป็นเอกลักษณ์ของสมาร์ตโฟน vivo V Series ครั้งนี้ได้รับการยกระดับขึ้นอีกขั้น โดยนอกจากคงความเก่งในด้านการให้แสงที่แม่นยำและเหมาะสมด้วยพลัง “AI 3D Studio Lighting” อัลกอริทึม AI ที่ใช้การวิเคราะห์แบบ 3 มิติ ในการช่วยเติมแสงบนใบหน้าให้อัตโนมัติ ทำให้ได้ผลลัพธ์ของภาพถ่ายที่สวยสมจริง ดูเป็นธรรมชาติ จนเหมือนกับการใช้แสงไฟในสตูดิโอถ่ายพร้อมไว้แล้ว

รอบนี้ยังถูกเพิ่มความสามารถให้เก่งขึ้นอีกด้วยซอฟต์แวร์พรีเซ็ตถ่ายภาพด้วยไฟ Aura Light Portrait ที่แต่ละพรีเซ็ตจะเป็นการจำลองการใช้ไฟสตูดิโอระดับมืออาชีพ รวมถึงการจัดแสงแบบภาพยนตร์ให้เราเลือกนำไปใช้ถ่ายภาพในสไตล์ของตนเองได้ง่ายขึ้นจากเดิม ส่วนใครที่ยังชื่นชอบการปรับแสง Aura Light Portrait ด้วยตนเอง ก็ยังสามารถเลือกปรับแบบแมนนวลได้เช่นเดิมด้วยครับ 

ตัวอย่างภาพถ่ายที่เปิดใช้งาน AI 3D Studio Lighting

— AI Image Studio

นอกจากมีกล้องถ่ายรูปที่เก่งแล้ว เรื่องหลังกล้องเองก็เก่งไม่แพ้ใครเหมือนกัน โดย vivo ได้ใส่ความสามารถของ AI เข้ามาช่วยผู้ใช้งานในเรื่องของงานหลังถ่ายภาพหรือการแก้ไขภาพด้วยเช่นกันครับ ซึ่งมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจสองอย่าง คือ 

  • AI Erase 2.0 : ใช้ AI มาช่วยลบวัตถุที่ไม่ต้องการในภาพ โดย AI จะตรวจจับบุคคลอื่น ๆ ในภาพอัตโนมัติ ทำให้เราสามารถเลือกลบบุคคลในภาพได้ทั้งแบบลบทุกคน และเลือกลบเฉพาะบุคคลได้ด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว ซึ่งในเวอร์ชั่นใหม่นี้ AI ก็จะมีความเก่งและแม่นยำมากขึ้น สามารถวิเคราะห์ภาพได้ตรงและเร็วขึ้น

  • Live Cutout : ใช้ AI เข้ามาช่วยไดคัทภาพให้เราอัตโนมัติ เพียงแค่แตะไปที่วัตถุหรือบุคคลในภาพถ่ายที่เราต้องการไดคัทค้างไว้ จากนั้น AI ก็จะทำการไดคัทภาพให้เรา โดยจะปรากฏเส้นไดคัทขึ้นรอบ ๆ วัตถุหรือบุคคลนั้น ๆ ให้เราทราบ เพียงเท่านี้ก็พร้อมนำภาพไดคัทที่ได้ไปใช้งานต่อในแอปพลิเคชันอื่น ๆ ตามต้องการ

— Video 4K All Camera

ในด้านของงานวิดีโอ vivo V50 รองรับการบันทึกภาพวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K | 30FPS จากกล้องทุกตัวบนตัวเครื่อง พร้อมกับมีเอฟเฟกต์โบเก้ภาพยนตร์ ZEISS, โทนสีวิดีโอ LUTs รวมถึงฟิลเตอร์โทนสีวิดีโอต่าง ๆ มาช่วยให้เราสร้างสรรค์คอนเทนต์ได้ดีและสนุกขึ้นด้วย ซึ่งผมมีเก็บภาพวิดีโอจากกล้อง vivo V50 แล้วนำมาตัดเป็นคลิปสั้นให้ได้ชมกันด้วย

ตัวอย่างวิดีโอสั้นจากกล้อง vivo V50

— 50MP ZEISS Group Selfie Camera เซลฟี่ที่สวยและมุมมองกว้างเป็นธรรมชาติ 

กล้องหน้าของ vivo V50 มาพร้อมความละเอียดสูง 50MP ให้มุมมองกว้าง 92 องศา ทำให้สามารถเก็บภาพเซลฟี่แบบกลุ่มได้ (Group Selfie) และยังใช้เทคโนโลยี Ultra-Clear Backlit Selfie ที่ vivo พัฒนาขึ้นเอง เพื่อลดความมัวของภาพย้อนแสง ผสานกับระบบเติมแสง AI อัตโนมัติแบบหลายมุมมอง และ AI Facial Contouring Technology เทคโนโลยีอัจฉริยะที่ช่วยปรับโครงหน้าให้สมดุลอย่างเป็นธรรมชาติ ดังนั้นใครที่ชอบใช้กล้องถ่ายเซลฟี่รับรองว่า คุณจะได้ภาพเซลฟี่สวยไม่เหมือนกล้องมือถือทั่วไปแน่นอน

ตัวอย่างภาพถ่ายเซลฟี่

เซลฟี่มุมมองกว้าง ระยะ 0.8X (20 mm)

เซลฟี่ระยะปกติ 1X (26 mm)

เซลฟี่กลางคืน + เปิดแสงออร่าหน้าจอ

ย้อนกลับไปเลือกหัวข้อ


/ Funtouch OS 15 with AI Power

vivo V50 ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 15 (Base on Android 15) โดยทาง vivo มีการปรับแต่งอินเทอร์เฟซของ Funtouch OS ใหม่ ดูเรียบง่าย สบายตา ใช้งานง่ายขึ้น และมีการนำภาพพื้นหลังที่สื่อถึงธรรมชาติมาใช้งาน รวมถึงเอฟเฟ็กต์เคลื่อนไหวบนหน้าจอให้เหมือนผิวน้ำ เพื่อมอบประสบการณ์ใช้งานที่ผ่อนคลายให้กับเจ้าของ พร้อมกับเพิ่มลูกเล่นใหม่เข้ามา เช่น การนำ Gemini Assistant เข้ามาเป็นผู้ช่วย AI ช่วยทำงานและค้นหาข้อมูลบนเครื่องให้กับผู้ใช้งาน

อินเตอร์เฟซ Funtouch OS 15 (Android 15) บน vivo V50

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับพลัง AI ด้วย โดยใช้ LLM ของ Gemini เป็น AI หลักในการใช้งาน ดังนั้นจึงสามารถเรียก Gemini มาช่วยบันทึกข้อมูล, แนะนำคอนเทนต์, ลงตารางนัดหมาย รวมถึงคุณสมบัติต่าง ๆ 

Gemini Assistance

ใช้ Gemini ที่เป็น AI หลักบน Funtouch OS ในรูปแบบผู้ช่วยส่วนตัว ที่รวมขุมพลังการค้นหาของ Google และเทคโนโลยี Machine Learning ไว้ในที่เดียว เลยช่วยอำนวยความสะดวกในด้านไลฟ์สไตล์ได้ลงตัวเลยครับ เช่น

  • ช่วยจัดการงานที่ซับซ้อนได้ง่าย ๆ ด้วยคำสั่งเสียง
  • การจัดตารางเวลา : ตั้งเตือนนัดหมายผ่านคำสั่งเสียง หมดกังวลเรื่องลืมประชุมหรือภารกิจสำคัญ
  • แนะนำคอนเทนต์ : คัดสรรเพลงหรือวิดีโอที่ตรงกับความสนใจโดยอัตโนมัติ
  • ผู้ช่วยด้านการเรียนรู้ : ตอบคำถามการเรียน พร้อมแนะนำแหล่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์
  • แรงบันดาลใจใหม่ ๆ : ตัวช่วยในการคิดนอกกรอบและกระตุ้นไอเดียสร้างสรรค์
  • สรุปเนื้อหาวิดีโออัตโนมัติ : วิเคราะห์คำบรรยายและค้นหาคำตอบได้ในพริบตา

vivo Live Call Translation (รองรับภาษาไทย)

ช่วยให้การสื่อสารข้ามภาษาเป็นเรื่องง่าย โดยผู้ใช้สามารถรับข้อความและเสียงแปลจาก AI แบบเรียลไทม์ได้ทันที ทำให้ทุกการสนทนาราบรื่นและไร้ข้อจำกัด

การใช้งาน : แอปพลิเคชันโทรศัพท์ > กดไอคอน 3 จุด > Smart Calling Assistant

AI Screen Translation

เป็นการใช้ AI แปลข้อความบนหน้าจอทั้งหมดที่กำลังเปิดใช้งานอยู่ ไม่ว่าจะเป็น หน้าเว็บไซต์, บทความ หรือเนื้อหาต่าง ๆ โดยไม่ต้องออกจากหน้าจอหรือแอปฯ ที่ใช้งาน ซึ่งสามารถเรียกใช้งานฟีเจอร์นี้ได้ 2 วิธี

การเรียกใช้งาน :

1. ไปยังหน้าจอที่เราต้องการแปลภาษา > กดปุ่มโฮมค้าง > เลือกไอคอนสัญลักษณ์ แปลภาษา
2. เรียก Sidebar จากขอบด้านข้างขวาของหน้าจอ > เลือกเมนู “การแปลหน้าจอ” 

Circle to Search

“แค่วงก็พร้อมค้นหา” เป็นฟีเจอร์ที่ให้ AI ช่วยเสิร์ชข้อมูลที่เราต้องการให้ผ่านการออกคำสั่ง “วง” หรือ วาดวงกลมล้อมรอบเนื้อหาที่ต้องการเสิร์ช ช่วยลดความยุ่งยาก ขั้นตอนการหาข้อมูลให้สั้นและจบในทันที

การเรียกใช้งาน : ไปยังหน้าต่างหรือรูปภาพที่เราต้องการค้นหาข้อมูล > กดปุ่มโฮมค้าง > วงล้อมรอบวัตถุที่ต้องการค้นหา

AI Transcript Assist

เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ AI ที่จำเป็นต้องใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่น “Record” หรือ “บันทึกเสียง” ของ vivo ซึ่งฟีเจอร์นี้เราจะใช้งาน AI เพื่อถอดบทสนทนาจากการบันทึกให้ออกมาเป็นข้อความ และยังสามารถให้ AI ช่วยจัดระเบียบประเด็นสำคัญ สรุปเนื้อหา และค้นหาคำสำคัญได้ตามต้องการ

การเรียกใช้งาน : ไปยังไฟล์เสียงบันทึก > เลือก “ถอดเสียง” > เลือก “สรุป” > ดูข้อมูลสรุป

Live text

เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยดึงและคัดลอกข้อความจากรูปภาพหรือเอกสารได้ทันที โดยที่เราไม่ต้องทำการพิมพ์ข้อความใหม่ให้เสียเวลา และยังสามารถแก้ไขรูปภาพในหน้านั้นได้ทันทีด้วยนะ

การเรียกใช้งาน : ไปยังรูปภาพที่ต้องการคัดลอกข้อความ > เลือกไอคอนรูป “Text” ที่ขึ้นมุมขวา

ย้อนกลับไปเลือกหัวข้อ


/ Performance ตอบรับทุกกิจกรรมในแต่ละวันได้ดี

Snapdragon 7 Gen 3 | Extended RAM 12GB + 12GB

vivo V50 ยังคงเลือกใช้ชิปประมวลผลเป็น Snapdragon 7 Gen 3 เป็นหัวใจหลักในการประมวลผลและทำงานบนตัวเครื่อง ซึ่งเป็นชิปประมวลผลแบบ Octa-core ความเร็ว 2.63GHz ผลิตด้วยเทคโนโลยี 4nm ทำงานร่วมกับ RAM 12GB LPDDR4x สามารถเพิ่มพื้นที่ด้วยคุณสมบัติ RAM Extended ได้อีก 12GB และใช้พื้นที่ความจำในเครื่อง (ROM) เป็นชนิด UFS 2.2 มีให้เลือกขนาดความจุด้วยกันสองขนาด คือ 256GB และ 512GB 

ผลการทดสอบประสิทธิภาพด้วยแอปพลิเคชัน Benchmark

นอกจากนี้ vivo ยังขยายขนาดพื้นที่ของ VC Cooling ให้มีขนาดใหญ่ขึ้นจากรุ่นก่อน เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการควบคุมอุณหภูมิขณะเล่นเกมให้ดีขึ้น โดยทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์เกมอย่าง Ultra Game Mode ที่จะช่วยปรับหรือควมคุมการใช้ทรัพยากรบนตัวเครื่องให้เหมาะสมต่อการเล่นเกม พร้อมกับติดตั้งลำโพงเสียงคู่สเตอริโอมาให้เช่นเดิม จึงทำให้ประสบการณ์การเล่นเกมบน vivo V50 ได้อรรถรสและสนุกต่อเนื่องครับ

โดยผมได้เลือกเกมสไตล์ MMRORPG อย่าง Ragnarok M Classic และเกมแนว FPS ที่พึ่งมาใหม่อย่าง Arena Breakout ซึ่งเป็นสองเกมที่มีการใช้ทรัพยากรบนตัวเครื่องในการเล่นค่อนข้างสูงมาทดสอบ ซึ่ง vivo V50 สามารถเล่นได้ทั้งสองเกมสบาย ๆ แบบตั้งค่ากราฟิกระดับสูงด้วย

การตอบสนองทั้งในด้านการควบคุมและการแสดงผลทำได้ดีทีเดียว การแตะสัมผัสของหน้าจอขณะเล่นตอบสนองได้ไวทันใจ เสียงเพลงและเอฟเฟกต์ต่าง ๆ จากในเกมที่ขับผ่านลำโพงให้เสียงมีมิติดี แต่รู้สึกเบาไปหน่อยต้องเพิ่มเสียงถึงระดับ 60-70% ถึงจะดังพอดี ส่วนการประมวลผลด้านกราฟฟิกก็ยังมีช่วงเฟรมเรทตกให้เห็นบ้าง ดังนั้นสำหรับประสบการณ์การเล่นเกมในภาพรวมสำหรับผม ผมให้ผ่านนะสามารถเล่นได้สนุกและได้อรรถรส

รับสัญญาณเครือข่าย 5G ที่นิ่งและเร็วขึ้น

vivo ได้นำเทคโนโลยี AI Superlink ที่ช่วยในเรื่องของการจับสัญญาณให้นิ่งและเร็วขึ้นมาใช้งาน พร้อมกับร่วมมือกับทาง AIS ผู้ให้บริการเครือข่ายรายใหญ่ของไทยในการปรับจูนให้ vivo V50 สามารถรองรับการใช้งานเครือข่าย 5G+ ได้ด้วย ซึ่งเครือข่าย 5G+ จะมีความเร็วในการรับส่งข้อมูลดาต้าที่สูงกว่า 5G ทั่วไปประมาณ 40%

— 6000mAh BlueVolt Battery พร้อมชาร์จไว 90W FlashCharge

ด้านพลังงาน vivo V50 มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดความจุ 6000mAh ซึ่งใช้เทคโนโลยี BlueVolt ของ vivo ในการผลิต เป็นมาตรฐานใหม่ของแบตเตอรี่บนสมาร์ตโฟน vivo เลยก็ว่าได้ครับ แบตเตอรี่ที่ใช้เทคโนโลยี BlueVolt ของ vivo ผลิตนั้นตัวแบตเตอรี่จะมีคุณสมบัติการใช้งานที่ทนทาน เมื่อใช้งานผ่านไปหลายปีตัวแบตเตอรี่จะมีอัตราการคลายประจุที่ช้ากว่าแบตเตอรี่ทั่วไป

และมีคุณภาพในการเก็บประจุที่สูงและปลอดภัย เมื่อใช้งานร่วมกับเทคโนโลยีชาร์จไว 90W FlashCharge ที่มากับ vivo V50 จึงทำให้เราสามารถชาร์จไฟกลับเข้าแบตเตอรี่ได้ไวและนิ่ง โดยสามารถชาร์จไฟเพียง 10 นาที ก็สามารถโทรคุยงานต่อได้อีกประมาณ 5-6 ชั่วโมง ส่วนการใช้งานทั่วไปจากที่ผมชาร์จเต็มตอนเช้า 100% จากนั้นก็ออกเดินทางนำเครื่องไปถ่ายรูปเก็บภาพมาทำรีวิวตลอดทั้งวัน จนตอนกลับบ้านประมาณทุ่มหนึ่งแบตเตอรี่ก็ยังเหลือให้ประมาณ 30-35% เลยทีเดียว นับว่าแบตฯ อึดได้ใจเลยครับ

ย้อนกลับไปเลือกหัวข้อ


/ Conclusion บทสรุป

มาถึงบทสรุปของการรีวิว vivo V50 กันแล้วครับ สำหรับผมหลังจากที่ได้อยู่กับน้อง V50 มาสักพักก็รู้สึกว่า vivo V50 ยังคงเป็นสมาร์ตโฟนในช่วงราคาระดับกลาง (ไม่เกิน 2 หมื่นบาท) ที่มีความโดดเด่นในเรื่องกล้องถ่ายรูปที่เป็นภาพชัดมาก ๆ ตัวกล้องมีความครบเครื่อง ถ่ายสนุก ไปได้ในทุกสถานการณ์ที่ต้องการถ่ายรูปและสามารถพึ่งพาหรือคาดหวังว่าเราจะได้ภาพถ่ายสวย ๆ กลับไป โดยที่ไม่ทำให้คนซื้อต้องผิดหวังแน่นอนครับ ซึ่งก็เหมือนกับ vivo V Series รุ่นพี่ในอดีตต่างทำได้ดีเสมอในด้านนี้ 

เท่านี้ยังไม่พอนะ! ทาง vivo ยังเสริมความแกร่งด้วย “Aura Light” ไฟออร่าที่เป็นจุดขายประจำรุ่นมาอย่างต่อเนื่อง ให้มีความเก่งและเข้าใจลูกค้ามากขึ้น จากที่เป็นเพียงไฟแฟลชช่วงให้ความสว่างตอนถ่ายรูปยามค่ำคืน ก็กลายมาเป็นไฟออร่าที่มีมาตรฐานเดียวกับไฟในสตูดิโอถ่ายภาพ และยังมีอัลกอรึทึม AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์และเติมแสงบนใบหน้าในภาพให้อัตโนมัติ ซึ่งเมื่อทำงานร่วมกับกล้องที่เทพอยู่แล้ว ยิ่งทำให้เป็นคอมโบที่ยากจะมีคู่แข่งที่สามารถมอบประสบการณ์ด้านการถ่ายรูปที่ครบเครื่องได้ขนาดนี้

นอกจากเรื่องราวของกล้องถ่ายรูปที่โดดเด่นมาก ๆ แล้ว ในด้านของงานออกแบบและเทคโนโลยีทันสมัยก็ไม่ได้น้อยหน้าใคร ถึงแม้อาจมีคนค้านผมว่า ไม่จริงอ่ะ! เทคโนโลยีใหม่อะไร เพราะเห็นยังใช้ชิปเซ็ตตัวเดิมอยู่เลย แต่ถ้าหากมองกว้างออกมาอีกหน่อยก็จะพบว่า vivo ได้ใส่เทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาให้พอสมควรนะครับ เช่น จอแสดงผล Micro Quad Curve แบบเดียวกับเรือธง vivo X200 Series, แบตเตอรี่ BlueVolt 6000mAh พร้อมชาร์จไว 90W บนขนาดตัวเครื่องที่บางเพียง 7.52 มม. เท่านั้น ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 15 พร้อม AI และมาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น IP68 & IP69 เป็นต้น

ดังนั้นเมื่อผสมผสานสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดเข้าด้วยกัน จึงไม่ยากเลยครับที่ส่วนตัวผมจะมอบตำแหน่งเบอร์ 1 ของสมาร์ตโฟน Mid-range ที่น่าซื้อ ณ เวลานี้ให้ ต้องชมเลยว่า เรื่องของการถ่ายภาพทาง vivo ยังคงทำออกมาได้ดีมาก ๆ และไม่ใช่แค่มือถือ V Series เท่านั้น แต่ทุกไลน์อัปในเรื่องภาพนิ่งต้องยกให้ vivo เลยจริงๆ เป็นหนึ่งในแถวหน้าของตลาดแน่นอน ดังนั้นถ้าใครที่กางงบมือถือเครื่องใหม่ไว้ที่หลักหมื่นกลาง ๆ พร้อมจุดประสงค์ใช้งานถ่ายรูปเป็นหลัก เชื่อเถอะครับ! เลือก vivo V50 ได้เลย แล้วคุณจะตกหลุมรักสมาร์ตโฟนรุ่นหนึ่ง ที่ได้รับการดูแลจากแบรนด์เป็นอย่างดีแบบผมแน่นอน

ย้อนกลับไปเลือกหัวข้อ


/ Price & Availability ราคา การวางจำหน่าย และโปรโมชัน

สมาร์ตโฟน vivo V50 วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ โดยมีสีตัวเครื่องให้เลือกทั้งหมด 3 สี คือ สีแดง Ancora Red, สีดำ Satin Black และสีม่วง Mist Purple พร้อมความจุsหลัก 2 รุ่นย่อย

  • vivo V50 รุ่น 12GB + 256GB ราคา 15,999 บาท
  • vivo V50 รุ่น 12GB + 512GB ราคา 17,999 บาท
  • vivo V50 รุ่น 8GB + 256GB ราคา 14,999 บาท (เฉพาะช่องทางออนไลน์)

เป็นเจ้าของได้ที่ vivo Brand Shop ทุกสาขา, ช่องทางออนไลน์ Lazada, Shopee, Tiktok Shop และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

พิเศษ! สำหรับผู้ที่สั่งซื้อภายในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ – 31 มีนาคม 2568 นี้ จะได้สิทธิ์รับของสมนาคุณมูลค่ารวมสูงสุดกว่า 11,688 บาท ประกอบด้วย

  • ประกัน vivo Care ประกันตัวเครื่อง 2 ปี และประกันหน้าจอแตก 2 ปี 1 ครั้ง มูลค่า 8,999 บาท
  • เคสสมาร์ตโฟน V50 มูลค่า 890 บาท
  • หูฟัง vivo Buds มูลค่า 1,799 บาท*
    (*เฉพาะผู้ที่สั่งซื้อในรูปแบบ walk-in วันที่ 26 กุมภาพันธ์ – 2 มีนาคม 2568 เท่านั้น)

ย้อนกลับไปเลือกหัวข้อ

—————
▶︎ อัปเดตข่าวสาร และบทความต่างๆ
คลิกดูต่อที่ insight-daily.com ได้เลย!

 

FIRST

MOBILE | CAR | TECH | MARKETING : อยู่ในวงการมือถือมานานเกิน 10 ปี แต่ก็ยังเป็นนักเขียนที่เป็น Introvert ชอบบอกเล่าสิ่งต่าง ๆ ผ่านบทความมากกว่าออกหน้ากล้อง เลยไม่ค่อยมีคอนเทนต์วิดีโอกับเขา

Leave a Reply