มินิรีวิว : Xiaomi Redmi 9 มือถือสุดคุ้ม สเปกดี จอใหญ่ แบตฯ อึด ในราคาเริ่มต้น 3,899 บาท

Xiaomi Redmi 9 สมาร์ทโฟนซีรีย์ระดับ Entry Phone ของ Xiaomi และเป็น Redmi Series รุ่นล่าสุดที่เข้ามาทำตลาดในไทยด้วย โดยทางเสียวมี่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่า “Redmi 9 Series” จะต้องเป็นสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นที่มอบความคุ้มค่าที่ดีที่สุดไปพร้อมกับ การมอบประสบการณ์การใช้งานที่ครบครั้นให้กับผู้ใช้งาน ถึงแม้ราคาค่าตัวจะไม่แพงมากนัก

ทำให้เราที่ตอนนี้อยู่ในสถานะมองหาสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ให้กับคุณแม่อยู่ เกิดความสนใจมากๆ เพราะดูจากสเปกตัวเครื่องแล้วถือว่า “คุ้มดีนะ” จนตัดสินใจกดสั่งซื้อมาให้คุณแม่ทันที และพอตัวเครื่องมาถึงที่บ้านเลยแกะออกมาทดสอบก่อนส่งมอบให้คุณแม่ เลยได้มีโอกาสเห็นตัวเครื่องได้ลองสัมผัสดูถึงกับอุทาน! “นี้สมาร์ทโฟนราคา 3,xxx บาทจริงหรือ? มันดูดีเกินที่คิดไว้ เลยตัดสินใจหยิบตัวเครื่องขึ้นมาถ่ายรูป และเก็บความประทับใจและข้อติในแง่มุมต่างๆ มาบอกเล่าให้กับทุกคนไว้ใช้ประกอบการตัดสินใจผ่านบทความนี้กันครับ ลองไปดูกันครับว่า Redmi 9 เครื่องจริงเป็นอย่างไรบ้าง และมีจุดไหนบ้างที่ยังเป็นข้อคิดก่อนซื้อ

Design (งานออกแบบ)

Xiaomi Redmi 9 มาพร้อมงานออกแบบสไตล์ Unique Circle Design ซึ่งตัวเครื่องจะเป็นแบบยูนีคบอดี้ทำให้ไม่สามารถแกะฝาหลังได้นะครับ ด้านหน้าจะมีหน้าจอแสดงผล IPS ดีไซน์แบบ Dot drop Display ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (394PPI) เป็นหน้าจอที่สู้แสงแดดจัดๆ ไม่ค่อยดีนัก ถึงแม้บนตัวเครื่องจะมีโหมด Sunlight support แต่พอใช้งานท่ามกลางแดดเปรี๊ยงๆ ผมว่ายังไงก็ต้องมีเอามือบังแดดเพื่อดูหน้าจอกันแน่นอน

ตรงบริเวณรอบหยดน้ำหรือ dot drop มีกล้องหน้าความละเอียด 8MP (F2.0, FOV 77.8 องศา) การโฟกัสภาพเป็นแบบ Fixed Focus นะครับ ดังนั้นตอนถ่ายก็ดูดีๆ ก่อนกด เพราะหากถ่ายใกล้หรือไกลเกินระยะโฟกัสไปภาพถ่ายจะออกมาเบลอแน่นอน

ด้านซ้ายตัวเครื่อง มีช่องสำหรับใส่ถาดซิมการ์ด (Triple slot) รองรับการใช้ซิมการ์ด 1 และ 2 (Dual 4G Standby) พร้อมกับ MicroSD Card รองรับสูงสุด 256GB

ด้านขวาตัวเครื่อง มีปุ่มกดปรับระดับเสียงเพิ่ม-ลด (Volume) และปุ่มกดเปิด-ปิดตัวเครื่อง (Power)

ด้านบนตัวเครื่อง มีพอร์ต IR สำหรับใช้งานร่วมกับ Mi Remote ในการแปลงมือถือให้การเป็นรีโมทสั่งการร่วมกับอุปกรณ์ในบ้าน ซึ่งในแอปฯ มีรีโมทแบรนด์ต่างๆ ทั้งเก่า-ใหม่ให้เลือกมากมายเลยล่ะครับ

ด้านล่างตัวเครื่อง มีพอร์ตเชื่อมต่อ USB-C, ลำโพงเสียงตัวเครื่อง, รูเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร และไมค์สำหรับสนทนา

ด้านหลังตัวเครื่อง ฝาหลังพื้นผิวเป็นแบบด้าน (Matte) ช่วยลดการเกิดรอยนิ้วมือได้ดีเลย ในขณะที่ด้านบนตรงบริเวณเลนส์กล้อง 4 ตัว นอกจากมีแป้นสแกนลายนิ้วมือแล้ว ยังมีการทำลวดลายวงกลมตามคอนเซ็ปต์การออกแบบ ทำให้พอถือใช้งานแล้วดูแปลกตาและแปลกใหม่สุดๆ เลยล่ะครับ

ส่วนกล้องถ่ายรูปทั้ง 4 (AI Quad camera) ประกอบด้วย

• กล้องหลัก ความละเอียด 13MP (Wide Angle camera, F2.2, FOV 75.2 องศา)
• กล้องมุมกว้างพิเศษ (Ultrawide Angle camera) ความละเอียด 8MP (F2.2, FOV 118 องศา)
• กล้อง Depth sensor ความละเอียด 2MP (F2.4, Fixed Focus)
• กล้อง Macro ความละเอียด 5MP (F2.4, Fixed Focus)
• ไฟแฟลช LED

รายละเอียดสเปกตัวเครื่องของ Xiaomi Redmi 9 (RAM 4GB | ROM 64GB)

• Display dot drop ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด 2340×1080 พิกเซล (394PPI, ค่าความสว่าง 400nits)
• CPU Octa-core MediaTek Helio G80 (12nm)
• GPU Mali G52 MC2
• RAM 4GB (LPDDR4X)
• ROM 64GB (eMMC 5.1)
• AI Quad camera ความละเอียด 13+8+5+2 MP (Wide + UltraWide + Depth + Macro)
• กล้องหน้าความละเอียด 8MP (F2.0)
• Android 10 with MIUI 11
• Dual SIM Dual 4G Standby
• Fingerprintscan, FaceUnlock
• WiFi 802.11 b/g/n
• Bluetooth 5.0
• Battery 5,020 mAh (Quick Charge 18W)

อุปกรณ์ภายในกล่อง

• Xiaomi Redmi 9
• เคสตัวเครื่องสีชา (Softcase)
• คู่มือการใช้งาน
• เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
• สายชาร์จ USB-C
• อแดปเตอร์ชาร์จไฟ

Software (Android OS 10 with MIUI 11)

สำหรับซอฟต์แวร์บน Redmi 9 จะทำงานบน Android OS 10 ครอบทับด้วยอินเทอร์เฟซ MIUI 11 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นที่ผมค่อนชอบเลยล่ะ เพราะแก้ปัญหาบัคต่างๆ จากตอนเวอร์ชั่น 10 เกือบหมดแล้ว และลดการแสดงผลของ Ads ต่างๆ ที่มักจะชอบลักลอบโชว์ให้เรารู้สึกหงุดหงิดด้วย แต่ยังมี Blotware ติดตั้งมาให้ตั้งแต่ตอนเปิดเครื่องอยู่ แต่ก็น้อยมากๆ ครับ เหลือเพียง 5-7 แอปฯ เท่านั้น ผิดกับตอนก่อนที่โผล่มาเป็นสิบเลย

ในขณะที่หน้าตาไอคอนและเมนูการใช้งานต่างๆ มีการจัดการหมวดหมู่และลดเมนูลัดที่ซ้ำซ้อนกันออกไป ทำให้ภาพรวมใช้งานได้ง่ายขึ้น และเป็นมิตรกับผู้ใช้งานมากขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งคุณแม่ผมที่ไม่ค่อยถนัดสมาร์ทโฟนแอนดรอย์ที่มี UI ซนๆ ยังสามารถเปิดใจและลองใช้งานให้คล่องได้ภายในครึ่งวันเท่านั้น ดังนั้นยืนยันอีกเสียงว่า มือใหม่ที่พึ่งย้ายบ้านมาแอนดรอยด์หรือเสียวมี่สามารถเริ่มต้นใช้งานได้ง่ายแน่นอนครับ ไม่ต้องกังวล

This slideshow requires JavaScript.

กล้องถ่ายรูป Quad camera 13MP

เนื่องจากผมไม่ได้ลองถ่ายรูปตัวอย่างจากกล้องมือถือโดยตรงมาให้ เพราะอยากให้คุณแม่เป็นคนใช้เป็นคนแรก เลยต้องขออภัยด้วยครับ ไว้จะขอรูปถ่ายจากคุณแม่มาอัปเดทให้ภายหลังนะครับ แต่เท่าที่ลองเปิดถ่ายเล่นดู ส่วนตัวรู้สึกว่าเป็นกล้องที่มีคาแร็คเตอร์โทนสีออกจัดจ้านและคอนทราสหนักพอสมควร และดูจะไม่เก่งกับการถ่ายภาพในที่แสงน้อย เพราะจะเจอนอยด์รบกวนเยอะมากๆ

ส่วนสเปกกล้องทั้ง 4 ของ Redmi 9 อย่างที่ได้เกริ่นไปแล้วว่า ครั้งนี้ทางเสียวมี่เลือกใส่กล้องมุมกว้างมาให้ทั้งกล้องหลัก และกล้อง Ultrawide เลย ทำให้น่าจะตอบโจทย์กับการถ่ายภาพแนววิวทิวทัศน์เป็นอย่างดี ส่วนการซูมภาพสามารถซูมได้สูงสุดที่ 10X (Digital Zoom) และ Optical Zoom 2X รองรับการบันทึกภาพวีดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 1080P

สรุปภาพรวม Xiaomi Redmi 9 (RAM 4GB | ROM 64GB)

ภาพรวมสำหรับ Redmi 9 รุ่น RAM 4GB | ROM 64GB ที่ผมได้มาในราคา 3,400 บาท (ราคากลางเริ่มต้นที่ 3,899 บาท) ถึงแม้จะได้ลองเล่นตัวเครื่องอยู่สักพักในช่วงตอนตรวจเช็คเครื่องให้คุณแม่ แต่ก็คิดว่าน่าจะเพียงพอที่จะสรุปออกมาเป็นประสบการณ์การใช้งานให้เพื่อนๆ ได้ฟังครับ โดยภาพรวมผมคิดว่าเจ้า Redmi 9 เป็นสมาร์ทโฟนที่คุ้มค่ามากๆ ในช่วงราคานี้ สเปกตัวเครื่องและฟีเจอร์ต่างๆ ที่ใส่มาให้ก็สามารถตอบรับกับการใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วไปได้แบบลงตัว และครอบคลุมมากๆ ไม่ว่าจะใช้เล่นทั่วไปหรือทำงานต่างๆ ก็ยังคงทำได้ดี

กล้องถ่ายรูปถึงแม้ผลลัพธ์หลังกล้องจะยังสู้เพื่อนบ้านอย่าง C11 ที่ส่วนตัวรู้สึกว่ากล้องของ C11 ทำออกมาได้ดีกว่า แต่กล้องของ Redmi 9 เองก็ไม่ได้แย่ซะน่าเกลียดอะไรขนาดไม่น่าใช้นะครับ เพราะถ้าเราเข้าใจว่าเขาคือมือถือราคา 3,xx – 4,xxx บาท ซึ่งคาดหวังไว้ในระดับถ่ายภาพออกมาให้สวย เพื่อเพียงพอกับการส่งหรือแชร์ไปในโลกโซเชียลให้กับเพื่อนๆ ร่วมมีประสบการณ์ด้วยกัน ก็เพียงพอแล้วล่ะครับสำหรับความสวยงามที่ได้

ในขณะที่เรื่องของซอฟต์แวร์และการใช้งานทั่วไป ข้อสังเกตที่ผมเจอก็คือเรื่องของน้ำหนักตัวเครื่องที่หนักเหมือนกันนะ ยิ่งถ้าเป็นคุณผู้หญิงใช้และถือใช้นานๆ ก็น่าจะเมื่อยเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน ส่วนอีกจุดก็คือเรื่องของหน้าจอแสดงผลที่ถ้าหากนำไปใช้งานกลางแดดจะมองแทบไม่เห็นเลยล่ะ อาจต้องใช้มือป้องดูกันหน่อย นอกนั้นการทัช การเรียกใช้แอปพลิเคชั่น และการสลับแอปฯ ไปมาเพื่อใช้งาน สามารถทำได้ดีและลื่นไหลครับ

มาถึงตรงนี้ ก็ขอฟันธงอีกเสียงว่า Xiaomi Redmi 9 เป็นสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจและน่าซื้อมากๆ ในช่วงราคาหลักพันต้นๆ ซึ่งใครที่มองหาความคุ้มค่าและกำลังคิดว่าในราคาเท่านี้จะมีมือถือรุ่นไหนที่จะใช้งานได้แบบสบายใจได้บ้าง Redmi 9 จะเป็นคำตอบให้คุณได้แน่นอนครับ และส่วนตัวก็ให้คะแนนความประทับใจที่ 8 / 10 คะแนน ทิ้งท้ายไว้ล่ะกัน