TECHHEADPHONEINSIGHT NEWS

เปิดตัว Samsung Galaxy Buds3 FE หูฟังดีไซน์ระดับไอคอนิก พลังเสียงคมชัด ตัดเสียงรบกวนเก่ง

ซัมซุง เปิดตัว Samsung Galaxy Buds3 FE หูฟังรุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูล Galaxy Buds ที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับนวัตกรรมเสียงให้เข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น เพลิดเพลินกับเสียงเพลงได้ทุกอารมณ์ ผ่านฟีเจอร์ระดับพรีเมียมในราคาที่จับต้องได้ ด้วยดีไซน์ Blade เรียบ เท่ มาพร้อมประสิทธิภาพเสียงที่ได้รับการอัปเกรดใหม่ ใช้งานได้ยาวนาน ต่อเนื่อง 8 ชั่วโมง และความสามารถของ Galaxy AI [1] สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของซัมซุงในการเป็นผู้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเสียงระดับโลก 

Galaxy Buds3 FE ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์ด้านเสียงที่ดียิ่งขึ้น การพัฒนานี้ถือเป็นก้าวสำคัญในตระกูล Galaxy Buds ที่ต่อยอดมาจากนวัตกรรมในฟีเจอร์หลัก ไม่ว่าจะเป็นระบบตัดเสียงรบกวนรอบข้าง (ANC) คุณภาพเสียงสนทนา อายุการใช้งานแบตเตอรี่ ความสบายในการสวมใส่ และอื่น ๆ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้อย่างอิสระในแบบที่ต้องการ ทุกที่ ทุกเวลา โดยการเปิดตัว Galaxy Buds3 FE ครั้งนี้ถือเป็นการส่งมอบประสบการณ์เสียงคุณภาพให้กับผู้คน ผ่านฟีเจอร์ระดับพรีเมียมในราคาจับต้องได้

ซัมซุงมองว่าหัวใจสำคัญของประสบการณ์การใช้งาน Galaxy Buds คือคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม โดย Galaxy Buds3 FE ถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับการฟังเสียงคุณภาพในทุกช่วงเวลา ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่ต้องการความเงียบสงบบนรถไฟที่แออัด หรือช่วงเวลาที่ต้องการให้เสียงชัดเจนท่ามกลางถนนที่มีลมแรง หรือแม้แต่การฟังเพลงในเพลย์ลิสต์โปรดระหว่างเดินทางกลับบ้าน พร้อมมอบเสียงทรงพลังด้วยลำโพงที่ขยายขนาดใหญ่ขึ้น [2] ได้ยินเสียงชัดเจนทั้งเสียงทุ้มต่ำและเสียงแหลมสูง [3] นอกจากนี้ยังมีระบบตัดเสียงรบกวนรอบข้าง (Active Noise Cancellation: ANC) ที่ได้รับการพัฒนาใหม่ [4] ช่วยลดเสียงรบกวนรอบตัวเพื่อมอบประสบการณ์การฟังที่ดื่มด่ำยิ่งขึ้น และยังมีเทคโนโลยี Crystal Clear Call มีการใช้โมเดล Machine Learning ขั้นสูง เพื่อแยกเสียงผู้ใช้ออกจากเสียงรบกวน ทำให้การสนทนายังคงชัดเจนแม้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังจากภายนอก นอกจากนี้ ประสบการณ์การคุยสายยังดีขึ้นด้วยการปรับตำแหน่งไมโครโฟนให้หันเข้าหาปากของผู้ใช้ เพื่อให้เหมาะสมต่อการรับเสียงมากที่สุด

ความง่ายในการใช้งานถือเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของการออกแบบ Galaxy Buds3 FE ที่ต้องใช้งานควบคุมสั่งการได้ง่าย ช่วยให้การใช้งานราบรื่น เพียงบีบ (Pinch) ที่ตัว Blade เพื่อเลือกคำสั่ง หรือเลื่อนขึ้น-ลง (Swipe) เพื่อปรับระดับเสียง อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อได้สะดวกยิ่งขึ้นด้วยปุ่มจับคู่บนเคสชาร์จ เพื่อสลับการใช้งานระหว่างอุปกรณ์ Galaxy [5] และยังมีฟีเจอร์ Auto Switch Galaxy Buds3 FE ที่จะตรวจจับการใช้งานเสียงและสลับการเชื่อมต่อได้อย่างลื่นไหล เพื่อให้สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องบนทุกอุปกรณ์ Galaxy ของผู้ใช้ [6] 

นอกจากนี้ ฟีเจอร์ AI และการออกแบบของ Galaxy Buds3 FE ยังทำให้การเปิดเพลย์ลิสต์ถัดไปหรือการแปลจากภาษาหนึ่งไปอีกภาษาหนึ่งเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายขึ้น เพียงแค่พูดหรือกดค้างเท่านั้น เช่น เมื่อผู้ใช้พูดคำว่า “Hey Google” Buds3 FE ก็จะสามารถฟัง ทำความเข้าใจ และตอบกลับได้ โดยใช้แค่เสียง [7] ไม่ต้องใช้หน้าจอหรือมืออีกต่อไป โดยประสบการณ์เหล่านี้ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว เป็นธรรมชาติ เหมือนคุยกับเพื่อนมากกว่าการใช้อุปกรณ์ รวมทั้งยังสามารถตรวจสอบตารางงานประจำวันหรืออีเมลได้โดยไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋า นอกจากนี้สำหรับฟีเจอร์การแปลภาษา [8] สามารถใช้ Buds3 FE ร่วมกับแอป Galaxy AI Interpreter [9] บนสมาร์ทโฟน เพื่อฟังการบรรยายในภาษาต่างประเทศหรือสนทนากับผู้อื่นในอีกภาษาหนึ่งได้ง่าย ๆ

ด้านดีไซน์ Blade ของ Galaxy Buds3 FE มีการชูเอกลักษณ์เฉพาะตัวของตระกูล Galaxy ให้เห็นอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นผิวสัมผัสแบบด้านในโทนสีคู่ (Dual-Tone) และการตกแต่งด้วยวัสดุกึ่งโปร่งแสงที่ทำให้ดีไซน์ดูทันสมัย แต่ยังแฝงไปด้วยความสนุกสนานเฉพาะตัว

Galaxy Buds3 FE ถือเป็นการเปิด Chapter ใหม่ของประสบการณ์บน Galaxy ตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพที่เชื่อถือได้ เพื่อเติมเต็มไลฟ์สไตล์ด้วยฟีเจอร์อัจฉริยะ และดีไซน์สุดไอคอนิกในราคาสุดคุ้ม พร้อมยังเชื่อมต่อ Ecosystem ของ Galaxy ได้ง่ายกว่าที่เคย สามารถผสานการทำงานกับอุปกรณ์ Galaxy ได้อย่างไร้รอยต่อ และเข้าถึงได้อย่างรวดเร็วจากเมนูการตั้งค่า ให้ผู้ใช้ควบคุมได้โดยไม่ต้องพึ่งแอปบนหน้าจอ [10]

Galaxy Buds3 FE เริ่มวางจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีดำ และสีเทา ในราคา 4,290 บาท ที่ Samsung Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการ หรือสั่งซื้อช่องทางออนไลน์ทาง Samsung.com พิเศษ! โปรโมชันเปิดตัว รับส่วนลดทันที 30% เมื่อซื้อสินค้าพร้อมสมาร์ทโฟนหรือแท็บแล็ตที่เข้าร่วมรายการ ตั้งแต่วันนี้ – 5 ต.ค. 68 นี้เท่านั้น

*ข้อมูลจำเพาะอาจแตกต่างกันไปตามตลาด
**ฟังก์ชัน คุณสมบัติ ข้อมูลจำเพาะ และข้อมูลผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ระบุในเอกสารนี้ อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า


[1] ต้องใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ Galaxy ที่รองรับฟีเจอร์ Galaxy AI จากซัมซุง โดยจะให้บริการฟรีจนถึงสิ้นปี 2568 บนอุปกรณ์ Samsung Galaxy ที่รองรับ
[2] เมื่อเปรียบเทียบกับ Galaxy Buds FE รุ่นก่อนหน้า
[3] ต้องใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนที่รองรับ
[4] ระบบตัดเสียงรบกวนรอบข้าง (ANC) จะเปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้น และการตั้งค่าท่าทางการบีบค้าง (Pinch and Hold) เพื่อเปิด/ปิด ANC สามารถตั้งค่าได้ที่เมนูการตั้งค่าของโทรศัพท์หรืออุปกรณ์ที่ใช้ One UI 8.0 หรือใหม่กว่า สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ One UI เวอร์ชันก่อนหน้า สามารถตั้งค่าได้ในแอป Galaxy Wearable
[5] การเชื่อมต่อ Samsung Galaxy Buds เป็นอุปกรณ์เสียงบลูทูธสามารถทำได้ไม่ว่าจะใช้ระบบปฏิบัติการใดก็ตาม สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ One UI 8.0 หรือใหม่กว่า สามารถตั้งค่าได้ที่เมนูการตั้งค่าของโทรศัพท์ สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ One UI เวอร์ชันก่อนหน้านั้น สามารถตั้งค่าได้ในแอป Galaxy Wearable นอกจากนี้ การใช้แอป Galaxy Wearable ต้องจับคู่ Samsung Galaxy Buds กับสมาร์ทโฟนที่ใช้ Android 11.0 หรือใหม่กว่า และมีหน่วยความจำอย่างน้อย 1.5 GB
*ต้องเข้าสู่ระบบ Samsung Account เพื่อเปิดใช้งานและเปลี่ยนการตั้งค่า Galaxy Buds3 FE ในแอป Galaxy Wearable
[6] ฟีเจอร์ Auto Switch ใช้ได้เฉพาะบนสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy และ Galaxy Tab ที่ใช้ One UI 3.1 หรือใหม่กว่า และบน Galaxy Watch4 หรือใหม่กว่า อุปกรณ์ต้องเข้าสู่ระบบ Samsung Account เพื่อเปิดใช้งาน Auto Switch โดยความพร้อมของฟีเจอร์บางอย่างใน Auto Switch อาจแตกต่างกันไป
[7] ฟีเจอร์ Voice wake-up จะปิดโดยค่าเริ่มต้น และสามารถตั้งค่าได้ที่เมนูการตั้งค่าของโทรศัพท์หรือบนอุปกรณ์ที่ใช้ One UI 8.0 หรือใหม่กว่า ฟีเจอร์นี้ใช้การตั้งค่า Digital Assistant เริ่มต้นของโทรศัพท์
*Gemini เป็นเครื่องหมายการค้าของ Google LLC ผลลัพธ์มีไว้เพื่อการอธิบาย ตัวฟีเจอร์ Gemini Live ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Google ความพร้อมของการให้บริการอาจแตกต่างตามประเทศ ภาษา และรุ่นอุปกรณ์ ฟีเจอร์อาจแตกต่างกันไปตามการสมัครใช้งาน และผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไป ใช้งานได้กับฟีเจอร์และบัญชีบางประเภทเท่านั้น
**ฟีเจอร์ Gemini voice wake-up ใช้ได้บน Galaxy Buds3 Pro, Galaxy Buds3 และ Galaxy Buds3 FE ที่ใช้ One UI 8.0 หรือใหม่กว่า
[8] Galaxy Buds3 FE รองรับฟีเจอร์ Galaxy AI เช่น Interpreter และ Live Translate เมื่อจับคู่กับอุปกรณ์ Samsung Galaxy ที่รองรับ ความพร้อมของฟีเจอร์ Galaxy AI อาจแตกต่างกันไปตามรุ่นของอุปกรณ์
[9] Galaxy Buds3 FE รองรับฟีเจอร์ Galaxy AI เช่น Interpreter และ Live Translate เมื่อจับคู่กับอุปกรณ์ Samsung Galaxy ที่รองรับ ความพร้อมของฟีเจอร์ Galaxy AI อาจแตกต่างกันไปตามรุ่นของอุปกรณ์
*ฟีเจอร์ Interpreter ต้องเข้าสู่ระบบด้วย Samsung Account บางภาษาอาจต้องดาวน์โหลดแพ็กภาษา ความพร้อมในการให้บริการอาจแตกต่างกันไปตามภาษา ความแม่นยำของผลลัพธ์ไม่สามารถรับประกันได้ ความพร้อมและฟีเจอร์ที่รองรับอาจแตกต่างกันไปตามประเทศ ภูมิภาค หรือผู้ให้บริการ ความพร้อมของภาษาที่รองรับอาจแตกต่างกันไป
**Audio interpretation ใช้ได้เฉพาะเมื่อสวมใส่ Samsung Galaxy Buds และเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy เท่านั้น ฟีเจอร์ Interpreter ไม่ได้ทำงานโดยตรงบน Galaxy Buds แต่จะแสดงผลการแปลบนหน้าจอสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy
***ฟีเจอร์ Galaxy AI รองรับบน Galaxy S25 Series, Galaxy S24 Series, Galaxy S23 Series, Galaxy S23 FE, Galaxy Z Fold7, Galaxy Z Fold6, Galaxy Z Fold5, Galaxy Z Flip7, Galaxy Z Flip6, Galaxy Z Flip5, Galaxy Z Flip7 FE, Galaxy Tab S10 Series และ Galaxy Tab S9 Series ณ เดือนมีนาคม 2568 รายการอุปกรณ์ที่รองรับอาจมีการอัปเดตและเปลี่ยนแปลงได้ ประเภทของฟีเจอร์ Galaxy AI ที่รองรับอาจแตกต่างกันไปตามอุปกรณ์
****อุปกรณ์ Samsung Galaxy อาจต้องอัปเดตซอฟต์แวร์เวอร์ชันล่าสุดเพื่อให้รองรับฟีเจอร์ Galaxy AI ได้อย่างสมบูรณ์
*****การเปลี่ยนโหมด Interpreter เป็น Listening Mode ต้องตั้งค่าในแอป Interpreter
[10] ความพร้อมของฟังก์ชันอาจแตกต่างกันไปตามประเทศ ภาษา รุ่นอุปกรณ์ และแอปพลิเคชัน วิดเจ็ตบางอย่างอาจต้องเชื่อมต่อเครือข่ายและ/หรือเข้าสู่ระบบด้วย Samsung Account ซึ่งใช้งานได้บนอุปกรณ์ Samsung Galaxy ที่ใช้ One UI 8.0 หรือใหม่กว่า และในอนาคตอาจมีอุปกรณ์เพิ่มเติมที่รองรับ

—————
▶︎ อัปเดตข่าวสาร และบทความต่างๆ
คลิกดูต่อที่ insight-daily.com ได้เลย!

 

Leave a Reply