Schneider Electric เดินหน้าปลดล็อกองค์กรไทยสู่ความยั่งยืน ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ผนึกซอฟต์แวร์ และ AI
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น ในการจัดการพลังงาน ระบบออโตเมชั่น และความยั่งยืน เผยผลประกอบการปี 2566 ทั่วโลกรายได้ 35,902 ล้านยูโร โตขึ้น ราว 13% (Organic) และด้วยโซลูชั่นด้านความยั่งยืน ช่วยให้ลูกค้าทั่วโลกลดการปล่อยคาร์บอนในปี 2566 เพียงปีเดียว ได้ถึง 112 ล้านตัน พร้อมปักหมุดเดินหน้าสนับสนุนองค์กรในไทย จากผลการสำรวจ Green Action Gap
🛒 สั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์
นายมงคล ตั้งศิริวิช ประธาน ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ดูแลกลุ่มคลัสเตอร์ ประเทศไทย ลาว และเมียนมา เผยว่า ปีที่ผ่านมา รายได้ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ทั่วโลก มีความเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มาจากหลายๆ องค์กรที่เล็งเห็นถึงความสำคัญในการสร้างความยั่งยืน และได้นำเทคโนโลยีมาปรับใช้ ซึ่งผลประกอบการปี 2566 ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ทั่วโลกมีรายได้ 35,902 ล้านยูโร โตขึ้น 13% โซลูชั่นของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เป็นโซลูชั่นที่ช่วยให้องค์กรสร้างความยั่งยืน เราสามารถช่วยให้ลูกค้าทั่วโลกลดการปล่อยคาร์บอนได้ถึง 112 ล้านตันในปี 2566 ภายในเพียงปีเดียว เทียบเท่ากับการดูดซับคาร์บอนของต้นไม้ประมาณ 11,200 ล้านต้น หรือมากกว่า
ปัญหาด้านการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศนับเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ต้องอาศัยความร่วมมือกันในทุกระดับและทุกองค์กร เพื่อให้สามารถไปสู่ความยั่งยืนได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ชไนเดอร์ อิเล็คทริค จึงได้ทำการสำรวจเป้าหมายด้านความยั่งยืนโดยได้มีการพูดคุยกับผู้นำองค์กรจำนวน 4,500 ราย ใน 9 ประเทศ และ 500 องค์กร ในประเทศไทย เพื่อรวบรวมมุมมองของผู้นำธุรกิจในภูมิภาคเอเชียเกี่ยวกับความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม โดยได้มีการดำเนินการสำรวจร่วมกับ Milieu Insight ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์และวิจัยข้อมูล ด้วยการให้ผู้บริหารระดับกลางถึงระดับสูงในภาคเอกชนเข้าร่วมการสำรวจตอบคำถาม 30 ข้อ เกี่ยวกับความยั่งยืน รวมถึงผลกระทบต่อธุรกิจของตนในประเทศต่างๆ ได้แก่ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไต้หวัน เวียดนาม และประเทศไทย
นายมงคล เผยว่า “จากการสำรวจกลุ่มองค์กรในประเทศไทย พบว่ามีข้อมูลและตัวเลขที่น่าสนใจ โดยเกือบทุกบริษัทหรือมากกว่า 90% ตระหนักดีว่า การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญของความยั่งยืน รวมถึงหลายองค์กรให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพการใช้พลังงานเป็นองค์ประกอบพื้นฐานของแผนความยั่งยืน”
นอกจากนี้ ยังพบอีกว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบต่ออุปทานหรืออุปสงค์ด้านพลังงาน ถึง 44% และความสามารถในการฟื้นตัวจำนวน 41% โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการเบื้องต้นหรือเทคโนโลยีที่บริษัทต่างๆ ใช้เพื่อบรรลุเป้าหมายด้านพลังงาน ได้แก่ มาตรการด้านพลังงานและประสิทธิภาพของทรัพยากร จำนวน 51% และพลังงานหมุนเวียนในโรงงาน และการแปลงระบบและการดำเนินงานให้เป็นดิจิทัลถึง 43%
หลายองค์กรมองว่า ความยั่งยืนสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ถึง 44% ช่วยสร้างนวัตกรรมและความสามารถในการแข่งขัน ถึง 42% และช่วยลดต้นทุน ช่วยให้ประหยัด และผลประโยชน์ทางการเงินถึง 38%
อย่างไรก็ตาม ผู้ตอบแบบสอบถามในประเทศไทยจำนวนถึง 98% เผยว่าบริษัทมีแผนและมีเป้าหมายด้านความยั่งยืน ขณะที่มีเพียง 53% เท่านั้น ที่ได้นำกลยุทธ์ความยั่งยืนที่ครอบคลุมไปปรับใช้อย่างชัดเจน ทำให้เกิด ช่องว่างสีเขียว หรือ Green Gap ที่ยังไม่ได้ถูกนำไปปฏิบัติ ถึง 45% เลยทีเดียว
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ตอกย้ำและมุ่งมั่นนำเสนอนวัตกรรมเพื่อสนับสนุนด้านความยั่งยืน และได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เสริมพอร์ตโฟลิโอด้านซอฟต์แวร์ นอกเหนือจาก EcoStruxure เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งและประสิทธิภาพที่จะนำลูกค้าไปสู่ความยั่งยืนได้อย่างครบวงจรยิ่งขึ้น อาทิ AVEVA, IGE+XAO และ ETAP สำหรับลูกค้าที่ใช้ระบบไฟฟ้าเป็นหลัก และซอฟต์แวร์ RIB, Planon สำหรับอาคาร เป็นต้น เพื่อมอบประสบการณ์ที่ครบวงจรให้กับลูกค้าในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมที่ต้องการเดินทางไปสู่ความยั่งยืน
นายมงคลกล่าวว่า “ชไนเดอร์ อิเล็คทริค มีทิศทางที่ชัดเจน พร้อมเป็นเทคคอมพานี (Tech Company) นำเสนอโซลูชั่นและซอฟต์แวร์ตอบโจทย์ให้กับภาคธุรกิจในทุกอุตสาหกรรม ตั้งแต่การเริ่มต้นในการวางแผน การสร้าง ไปจนถึงกระบวนการดำเนินงานอย่างไรให้ยั่งยืน นอกจากนี้ ยังได้มีการลงทุนกับเทคโนโลยี AI และแมชชีนเลิร์นนิ่ง มาช่วยลูกค้าในการให้คำปรึกษาเพื่อนำเสนอบริการด้านพลังงานและความยั่งยืน ที่ให้มุมมองเชิงลึกและการวิเคราะห์ในส่วนของพอร์ตด้านพลังงานและความยั่งยืนของบริษัท”
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ในประเทศไทย เป็นองค์กรที่มุ่งมั่นในการถ่ายทอดองค์ความรู้ และเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืนอย่างจริงจัง โดยในปี 2565 ยังได้ริเริ่มโครงการ Green Heroes for life เป็นโครงการด้านความยั่งยืน มีเป้าหมายเพื่อช่วยผลักดันชุมชนของพลเมือง ธุรกิจ และสถาบันที่มีความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ให้มีกิจกรรมร่วมกัน
โดยล่าสุด ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้ออกแคมเปญ Impact Maker ที่มุ่งสนับสนุนให้องค์กรต่างๆ ร่วมและลุกขึ้นมาเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงและสร้างโลกที่ยั่งยืนขึ้น ผลักดันเป้าหมายที่ตั้งไว้ ด้วยการดำเนินการปฏิบัติ ลด Green Gap ที่ยังคงมีอยู่ เพราะเรื่องความยั่งยืน เราไม่สามารถสร้างได้โดยเพียงลำพัง แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย และต้องนำเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้วจริง นำมาปรับใช้และช่วยสร้างความยั่งยืน






