INSIGHT BRANDSMOBILE

Insight Brand: เรื่องเล่าหลังงานเปิดตัว “vivo X100 series” กับการเติบโตสู่แบรนด์มือถือที่มีกล้องถ่ายรูปแถวหน้าของอุตสาหกรรม!

เมื่อช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้เป็นตัวแทนสื่อไทย บินไปร่วมงานเปิดตัว vivo X100 Series อย่างเป็นทางการที่ประเทศจีน ซึ่งการได้ร่วมงานเปิดตัวถึงถิ่น ข้อดีเลยก็คือ เราจะไดัรับข้อมูลโดยตรงจาก HQ ของแบรนด์ ทั้งจากการสอบถามและการรับฟังในช่วงเปิดตัว รวมถึงการได้ซึมซับบรรยากาศ ความอิน และ Passion ของโปรดักส์และแบรนด์แบบเต็มคาราเบลมาด้วย

โดยตลอดการรับชมและรับฟังเนื้อหาตั้งแต่เริ่มจนจบ ผมก็มีข้อมูลหลายอย่างเกี่ยวกับการเดินทางไปครั้งนี้มาเล่าให้ฟังเยอะมาก ๆ เลยตัดสินใจเปิดสกู๊ป Insight Brand ด้วยคอนเทนต์โปรดักส์ที่เป็นหัวใจในครั้งนี้ครับ

การมาของ vivo X100 Pro ในครั้งนี้ อาจมีความแตกต่างจากครั้งก่อนอยู่สักหน่อย เพราะครั้งนี้ผมรับรู้ได้เลยว่า ทาง vivo มีความพร้อมในการพัฒนา Hardware และ Software ให้เป็นแนวทางของตนเองมากขึ้นมาก ๆ โดยได้เริ่มใช้เทคโนโลยีที่คิดค้นและพัฒนาขึ้นมาสำหรับโปรดักส์ของตนเองโดยเฉพาะอย่างชัดเจน ไล่ตั้งแต่ชิปเซ็ต MediaTek for X100, Chip V3, RAM LDDR5T, กล้องถ่ายรูป, แบตเตอรี่ ไปจนถึงซอฟต์แวร์ที่เริ่มเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านจากสอง OS (OriginOS, Funtouch OS) มาสู่ “One OS One vivo” อย่าง BlueOS

รวมไปถึงการพัฒนา “Generative AI” ของตนเอง ผ่าน BlueLM หนึ่งในจักรวาล BlueOS (ไว้มาเขียนอธิบายต่อให้ในหัวข้อหน้านะครับ) และนำมาใช้บน vivo X100 Pro เพื่อเป็น AI Smartphone เต็มตัว โดย AI ที่ใช้มีชื่อว่า Jovi ซึ่งก็เป็นชื่อของ AI ที่เรา ๆ น่าจะคุ้นเคยกันดี เพราะ vivo ใช้เป็น Assistant บนมือถือหลายรุ่นของตัวเองมาหลายปีแล้ว

การที่ vivo เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แบบนี้ ทาง CEO ของ vivo เปิดเผยผ่านการเปิดตัวว่า “พวกเขารับรู้และตระหนักได้ว่า โลกในอนาคตของอุตสาหกรรมมือถือ จะเข้าสู่การแข่งขันที่ใครก็ตาม ที่สามารถควบคุมและเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ ได้ดังใจเหมือนที่ Apple ทำได้ คุณก็จะได้เปรียบคู่แข่งมาก ๆ แถมยังสามารถส่งผ่านประสบการณ์ต่าง ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่แบรนด์ตั้งใจส่งมอบให้ลูกค้าได้โดยตรงและอย่างเต็มที่ด้วย”

ดังนั้น vivo จึงได้เริ่มต้นทำสิ่งนี้เมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว โดยเริ่มจากการจับมือกับพันธมิตรที่มีความเก่งในด้านนั้น ๆ ร่วมกันคิดค้น พัฒนา โดยมีเป้าหมายหนึ่งเดียวกันคือสิ่งที่ vivo อยากส่งมอบให้ลูกค้า ซึ่งสิ่งนี้ก็จะเห็นได้จากตอนผมไปเยี่ยมชม HQ ของ vivo มา โดยทาง ZEISS ที่เป็นพันธมิตรด้านกล้องถ่ายภาพของ vivo มาหลายปี ก็ได้มีการนำทีมมานั่งที่ตึก vivo เพื่อทำงานร่วมกับทีม R&D ของ vivo เลย

และในการวิจัย พัฒนา กล้องร่วมกับทีม ZEISS อันนี้ผมชอบมาก ๆ เลย เพราะทาง vivo จะมีการทดสอบทั้งในด้านวิทยาศาสตร์ ทฤษฎี ผ่าน Data พร้อมกับการทดสอบด้าน “ความรู้สึก” ของมนุษย์ด้วย โดยใช้ทีมงานที่มีความชำนาญด้านการถ่ายภาพมาทดสอบถ่ายภาพด้วยสมาร์ตโฟน และนำความรู้สึกต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เก็บมาเป็นข้อมูลเพื่อนำไปพัฒนาและปรับปรุงต่อไปด้วยข้อมูลทั้งสองฝั่ง เพื่อให้ได้สินค้าที่ดีที่สุดออกมา และตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด เพราะบ่อยครั้งที่เราจะเห็นว่า คอมพิวเตอร์มันทำงานเที่ยงตรง จนขาดความอ่อนโยน ความปราณีตบางอย่างไปเหมือนกัน

จากที่ผมเล่ามาก็พอจะรับรู้ได้ใช่ไหมครับว่า การเปลี่ยนแปลงของ vivo ยกใหญ่ขนาดนี้ vivo ทำไปเพื่ออะไร? แน่นอนว่านอกจากลูกค้าของแบรนด์อันเป็นที่รักแล้ว เรื่องของการเดินทางสู่แบรนด์ชั้นนำด้านมือถือของโลก ก็เป็นสิ่งที่ vivo ตั้งใจและปรารถนาจะทำให้สำเร็จในอีก 2-3 ปีข้างนี้นั้นเอง ซึ่งตอนนี้ตามข้อมูลของ Canalys แบรนด์ vivo จะวนเวียนอยู่อันดับ 5-6 ของโลกมาตลอดในช่วง 2-3 ปีหลัง และเป็นอันดับ 3-5 ของไทยวนเวียนไปมาตลอดเช่นกัน ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่รอบนี้ อาจนำไปสู่การเปลี่ยนอันดับของ vivo ในอีก 3-4 ปีข้างหน้านี้ก็เป็นได้


▶︎ อัปเดตข่าวสาร และบทความต่างๆ
คลิกดูต่อที่ insight-daily.com ได้เลย!

 

FIRST

MOBILE | CAR | TECH | MARKETING : อยู่ในวงการมือถือมานานเกิน 10 ปี แต่ก็ยังเป็นนักเขียนที่เป็น Introvert ชอบบอกเล่าสิ่งต่าง ๆ ผ่านบทความมากกว่าออกหน้ากล้อง เลยไม่ค่อยมีคอนเทนต์วิดีโอกับเขา

Leave a Reply