Insight Choice — vivo X200 น่าซื้อไหม? กับตัวเลือกการเป็นมือถือสำหรับคนชอบถ่ายภาพ
Insight Choice ส่งท้ายปี 2024 ผมขอปิดด้วย “vivo X200” สมาร์ตโฟนที่กำลังเป็นกระแสในเรื่องของการถ่ายภาพที่เก่งและสวย ณ ช่วงเวลานี้ กับคำถามที่ถูกถามถึงเยอะมากที่สุดว่า “vivo X200 น่าซื้อไหม?” ถ้าหากต้องการนำไปใช้เป็นมือถือคู่ใจสำหรับการถ่ายภาพโดยเฉพาะ หรือควรจะไปมองรุ่น vivo X200 Pro หรือรุ่นอื่น ๆ จากคำถามบวกประสบการณ์ที่ได้รีวิวและใช้งาน vivo X200 แบบเต็มที่ จึงนำมาสู่บทความ Insight Choice ที่ผมอยากแนะนำให้คนที่กำลังสนใจมือถือสุดเก่งของวีโว่รุ่นนี้กันครับ
— กล้องถ่ายรูปครบเครื่องและครอบคลุมทุกโจทย์การถ่ายภาพนิ่งในชีวิตประจำวัน
เรื่องของกล้องถ่ายรูปที่เป็นคำถามและข้อสงสัยหลักของทุกคนว่า vivo X200 ถ้าจะเอาไปใช้งานเป็นมือถือหลักสำหรับการถ่ายภาพเลยไหวไหม? ผมของสรุปให้เลยครับว่า “ไหว” และเก่งไม่แพ้ใครด้วย! แต่ครับแต่! แต่มีเงื่อนไขว่า ในไลฟ์สไตล์ที่คุณจะเอาน้องเขาไปใช้นั้น ถ้าหากไม่ได้มีโจทย์ว่าต้องใช้กล้องเพื่อถ่ายภาพซูมที่ไกลมาก เช่น การไปชมคอนเสิร์ต, ละครเวที หรือกีฬาต่าง ๆ การเลือก vivo X200 ไปเป็นมือถือหลักเพื่อการถ่ายภาพนิ่งรับรองไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
เพราะสามารถให้ผลงานภาพในระดับที่ใครเห็นก็ชมว่า สวยและคม เก็บรายละเอียดได้ดี และการใช้งานกล้องก็ทำได้ง่ายมาก ๆ ไม่ต้องมีขั้นตอนหรือการปรับแต่งอะไรที่วุ่นวาย แค่ยกแล้วกดถ่าย คุณก็สามารถได้ภาพที่สวยงามพร้อมแชร์อวดบนโซเชียลแล้ว
ส่วนถ้าใครมีโจทย์ที่เน้นการซูมตามที่ผมกล่าวไป ผมก็แนะนำให้ขยับไป vivo X200 Pro จะเหมาะสม จบ และถูกใจกว่าแน่นอนครับ รวมถึงงานวิดีโอที่หลายคนถามว่า เป็นอย่างไรบ้าง? ผมก็บอกแบบตรง ๆ เลยว่า ถ้าต้องการนำไปถ่ายวิดีโอทั่วไป เช่น เที่ยว กิน หรือทำ Vlog เพื่อเน้นแชร์ให้เพื่อนครอบครัวดู vivo X200 ทำได้ดีมาก ๆ ครับ ใช้งานได้ดี
แต่ถ้าหากต้องการคุณภาพในระดับที่สูงกว่า ส่วนตัวผมมองว่า vivo X200 ยังไม่สามารถให้ได้ ส่วน vivo X200 Pro จะทำได้ดีกว่าไหมในโจทย์นี้ ต้องบอกก่อนว่าตัวผมเองก็ยังไม่มีโอกาสได้ลองใช้ vivo X200 Pro ถ่ายวิดีโอ จึงยังไม่สามารถยกธงซ้าย-ขวาว่าดีหรือไม่ดีให้เพื่อน ๆ ได้เช่นกันครับ
และสำหรับใครที่ต้องการรายละเอียดและดูตัวอย่างภาพถ่ายเพื่อพิจารณาเพิ่มเติม สามารถรับชมและอ่านข้อมูลต่อผ่านบทความรีวิว vivo X200 ด้านล่างนี้ได้เลย

— ตัวเครื่องขนาดพอดีมือ ถือจับ ใช้งานทุกจังหวะได้กระชับ มั่นใจ
นอกจากมีกล้องที่ดีใช้งานในไลฟ์สไตล์ได้ครบเครื่องแล้ว ขนาดของ vivo X200 รวมถึงการปรับดีไซน์มาเป็นแบบ Flat Display ก็เป็นอีกจุดที่ผมมองว่า vivo X200 ทำได้ดีมาก ๆ กับโจทย์นี้ เพราะในปัจจุบันผู้ใช้งานส่วนมากจะชื่นชอบมือถือที่มีขนาดหน้าจอใหญ่สัก 6 นิ้ว ขึ้นไป แต่ก็ไม่อยากให้ตัวเครื่องถือจับหรือพกพาลำบากด้วย และยิ่งถ้าหากเป็นจอโค้งหลายคนก็มักจะบ่นว่ามีปัญหากับฟิลม์หรือกระจกอีก
ซึ่งทาง vivo เขารับทราบถึง Pain Point ตรงนี้ ประกอบกับเทคโนโลยีจอแสดงผลพัฒนามาถึงจุดที่เราสามารถใช้งานจอแบบใหม่ที่ทาง vivo เรียกว่า “Quad Curved” ได้ นั่นจึงเป็นความลงตัวของสองปัจจัยที่ถูกจับมาใส่บน vivo X200 ไว้อย่างลงตัว ทำให้ตัวเครื่องของ vivo X200 มีขอบแบบ Flat หรือแบนราบ ในขณะที่หน้าจอก็เป็นแบบกึ่งแบนราบ โดยที่ตัวจอจะมีมุมทั้งสี่โค้งเล็กน้อยเพื่อยกตัวขึ้นมาเป็นจอแบนให้ใช้งานและสามารถติดฟิล์มปกติได้เลยครับ
นอกจากนี้ ตัวเครื่องของ vivo X200 ยังมีขนาดที่กระชับมือมาก ๆ ด้วยมิติตัวเครื่อง 160.27 × 74.81× 7.99 มม. และมีน้ำหนักรวม 202 กรัม สามารถถือจับเพื่อถ่ายรูปหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้กระชับ พอดี มีความมั่นใจเวลาถือใช้งานเป็นอย่างมาก และที่สำคัญพกพาใส่กระเป๋ากางเกงได้ดีมาก ๆ ไม่ล้นขอบ
— แบตเตอรี่ขนาดความจุมากบนขนาดตัวเครื่องที่กระทัดรัด
อีกหนึ่งความต้องการของผู้ใช้งานที่ยังไม่มีใครมอบให้ได้สักทีกับปัญหาอยากได้แบตเตอรี่ความจุขนาดใหญ่ แต่ก็ไม่อยากให้มีตัวเครื่องที่หนักหรือใหญ่เกินไป ตอนนี้ vivo เขาทำได้แล้ว! ผ่านเทคโนโลยี BlueVolt ของตนเองครับ จึงทำให้ vivo X200 มากับแบตเตอรี่ขนาดความจุมากถึง 5800mAh พร้อมชาร์จไว 90W บนขนาดตัวเครื่องที่ได้กล่าวไปในหัวข้อก่อนว่ามีความบางเพียง 7.99 มิลลิเมตร เท่านั้น!
— ประสิทธิภาพครบเครื่องในมาตรฐานมือถือเรือธง ณ ตอนนี้
vivo X200 มากับสเปกตัวเครื่องที่เป็นมาตรฐานเรือธง ณ ช่วงเวลานี้ครบทุกอย่างครับ ดังนั้นคำถามที่ว่าจะเล่นเกมนั้นเล่นเกมอันนี้ หรือใช้งานแอปฯ อันนั้นอันนี้ได้ไหม ก็ยืนยันด้วยคำว่า “Flagship Level” การันตีได้แน่นอนว่า ทุกอย่างบนเครื่องคือที่สุดของด้านฮาร์ดแวร์บนมือถือในเวลานี้แล้ว
ไล่ตั้งแต่หน้าจอที่มากับมาตรฐานแสดงผลรวมถึงเทคโนโลยีการแสดงผลครบทุกโลโก้, กล้องถ่ายรูปที่เป็นไปตามคำชมที่เชื่อว่าน่าจะได้ยินกันมาว่า ของแท้ตรงปก, ชิปเซ็ต Dimensity 9400 ชิปที่แรงและดีที่สุดของ MediaTek และแบตเตอรี่ที่น้อยแบรนด์จะมอบให้ได้กับขนาดความจุที่มาก แต่กลับไม่ส่งผลต่อน้ำหนักและขนาดตัวเครื่อง
— บทสรุป
บทสรุปส่งท้ายในอีพีนี้ ผมก็อยากแนะนำว่า ถ้าใครกำลังเล็ง vivo X200 อยู่ และสงสัยว่าน่าใช้ไหม? นำไปใช้เป็นมือถือหลักเพื่อการถ่ายรูปไหวไหม? ตามเหตุผลทั้งหมดที่ผมแนะนำมา ก็คิดว่าเพื่อน ๆ น่าจะพอเห็นภาพคร่าว ๆ แล้วว่าน้องเล็กรุ่นนี้จะสามารถตอบโจทย์ให้กับเพื่อน ๆ ได้มากแค่ไหน
ส่วนใครที่กำลังลังเลจะขยับไปรุ่น vivo X200 Pro ดีไหม ก็น่าจะพอได้แนวทางในการเลือกซื้อด้วย สำหรับผมถ้าคุณไม่ได้ใช้การซูมถ่ายและอยากประหยัดงบไปลงอย่างอื่น ผมก็แนะนำว่า vivo X200 ก็จบได้เช่นกันครับ
— ราคาและการวางจำหน่าย
vivo X200 วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว โดยมาพร้อมความจุ 12GB + 256GB และมีสีตัวเครื่องให้เลือก 3 สี คือ สีน้ำเงิน Ocean Blue, สีเขียว Aurora Green และสีดำ Midnight Black ราคา 29,999 บาท และสำหรับ vivo X200 Pro จะมาพร้อมความจุ 16GB + 512GB ราคา 39,999 บาท จับจองเป็นเจ้าของได้ที่ vivo Brand Shop ทุกสาขา, ช่องทางออนไลน์ Shopee, Lazada และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
ก็หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์และพอเป็นแนวทางในการเลือกซื้อ vivo X200 Series ให้กับคนที่กำลังสนใจไม่มากก็น้อยครับ แล้วกลับมาพบกันอีกทีในปี 2568 ขอให้ทุกคนเดินทางปลอดภัย และรักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ แล้วพบกันครับ
—————
▶︎ อัปเดตข่าวสาร และบทความต่างๆ
คลิกดูต่อที่ insight-daily.com ได้เลย!





















