REVIEW

รีวิว ASUS ROG Phone 5 สมาร์ตโฟนจัดเต็มเพื่อชาวเกมเมอร์! หน้าจอ 144Hz ชิปเซ็ต Snapdragon 888 พร้อมแบตใหญ่ 6,000 mAh

ASUS ROG Phone 5 สมาร์ตโฟนเกมมิ่งรุ่นใหม่ล่าสุด ภาคต่อในซีรีส์ Republic of Gamers หรือ ROG จากค่ายเอซุส กับสเปกเทพ ๆ จัดเต็มเอาใจเกมเมอร์แบบขั้นสุด ซึ่งในรุ่นที่ 5 นี้ ได้มีการอัปเกรดครั้งใหญ่ เริ่มตั้งแต่งานดีไซน์โฉมใหม่ Dotted Matrix ไปจนถึงสเปกที่โดดเด่น โดยมาพร้อมหน้าจอ 144Hz AMOLED 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ อัตรารีเฟรชเรท 144Hz ตอบสนองรวดเร็ว เพียง 0.001 วินาที ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 888 5G พร้อมแบตเตอรี่ความจุ 6,000 mAh ระบบเสียง GameFX และฟีเจอร์สำหรับการเล่นเกม X Mode, AirTrigger 5 และ Game Genie รวมทั้งอุปกรณ์เสริม AeroActive Cooler 5 ที่อัดมาให้สำหรับการเล่นเกมแบบเน้น ๆ

แกะกล่อง – Unbox

สำหรับ ASUS ROG Phone ในครั้งนี้ไม่ได้มาพร้อมกับดีไซน์กล่องที่ดูหวือหวาและแปลกตาอย่างในรุ่นก่อน ๆ แต่นับเฉพาะแค่กล่องก็ถือว่ามีลูกเล่นมาให้สนุกกันพอสมควรเลยค่ะ โดย ROG Phone 5 มาพร้อมกล่องสี่เหลี่ยมสีดำ สกรีนลาย Dotted Matrix ออกแบบเปิดกล่องด้านข้าง ซึ่งเมื่อเปิดฝากล่องออกมา ก็จะเจอกับลายเส้นอนิเมะ Akira ซึ่งเราสามารถดูเนื้อหาที่เป็นภาพเคลื่อนไหวได้ด้วยลูกเล่น AR โดยเมื่อเปิดเครื่องขึ้นมาครั้งแรกก็จะมีให้สแกนตัวกล่อง หรือถ้าใครข้ามไปแล้ว ก็สามารถดูผ่าน Armory Crate ได้ด้วยเหมือนกัน ไล่ดูไปแต่ละช่อง เหมือนกำลังดูอนิเมะเลย ไม่ธรรมดาจริง ๆ

อุปกรณ์ภายในกล่อง
  1. ตัวเครื่อง ASUS ROG Phone 5
  2. อะแดปเตอร์ชาร์จไฟ 65W
  3. เคสตัวเครื่อง Aero Case แบบเปิด (Hard Case)
  4. สายชาร์จแบบถัก USB-C to USB-C
  5. เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
  6. จุกยางสำรองสำหรับปิดพอร์ตด้านข้างตัวเครื่อง
  7. สติกเกอร์ ROG
  8. คู่มือการใช้งานเบื้องต้นและใบรับประกันสินค้า

อุปกรณ์เสริม AeroActive Cooler 5 (เพิ่มเติมนอกกล่อง)

ถึงแม้ว่ารอบนี้ ASUS ROG Phone 5 จะไม่ได้ใส่อุปกรณ์เสริมคู่บารมีอย่างพัดลมระบายความร้อน AeroActive Cooler 5 มาให้ในกล่องด้วยเลยก็ตาม แต่ทาง ROG ยังคงมีแถมมาให้นอกกล่องค่ะ โดยมาในดีไซน์และพอร์ตการเชื่อมต่อแบบใหม่ทั้งหมด พร้อมแสดงไฟ Aura Sync และมี Kick Stand ขาตั้งในตัวที่สามารถกางออกมาเพื่อวางตัวเครื่องได้เลย นอกจากนี้ยังเพิ่มปุ่มกดพิเศษอีก 2 ปุ่ม สำหรับเพิ่มความสะดวกในการเล่นเกมมาให้ในตัวอีกด้วย

การออกแบบ – Design

สำหรับงานออกแบบของ ASUS ROG Phone 5 การจัดวางองค์ประกอบต่าง ๆ จะยังคงใกล้เคียงกับในรุ่นก่อน ๆ แต่ดีไซน์ฝาหลังที่เรียกว่า Dotted Matrix Design ที่มาพร้อมกับการรองรับลูกเล่นแสงไฟ RGB ที่สามารถเปลี่ยนสีและลักษณะการแสดงไฟได้ ก็ถือว่าโดดเด่นสะดุดตาอยู่ไม่น้อย

ASUS ROG Phone 5 มีขนาดตัวเครื่องกว้าง 173 x 77 x 9.90 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 239 กรัม มาพร้อมหน้าจอแสดงผล Samsung AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD+ (2,448 x 1,080 พิกเซล) ในสัดส่วน 20.4:9 อัตรา Refresh Rate 144Hz ตอบสนองรวดเร็วในเวลาเพียง 1ms, อัตราตอบสนองต่อการสัมผัสหรือ Touch Sampling Rate 300Hz, ค่าความหน่วง Touch Latency 24.3ms, รองรับ HDR10+ แสดงผลของสีสันได้คมชัด สดใส และแม่นยำด้วยค่าสี Delta-E < 1 พร้อมครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass Victus

ด้านบนของหน้าจอจะมีไฟ LED แสดงสถานะ, ช่องลำโพงเสียง ที่เป็นทั้งลำโพงสนทนาและลำโพงเสียงตัวเครื่องทำงานร่วมกับลำโพงตัวล่างด้วย และกล้องหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซล

ตัวเครื่องด้านบนมีแถบเส้นเสาสัญญาณ และมีรูไมโครโฟนซ่อนอยู่ ด้านล่างตัวเครื่องมีรูไมโครโฟน, พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C และช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร นอกจากนี้ ที่ขอบด้านล่างตัวเครื่องยังมีลำโพงเสียงอีกหนึ่งตัว ทำให้ประสิทธิภาพทางด้านเสียงของ ASUS ROG Phone 5 ที่เมื่อผสานเข้ากับเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ใส่มาให้แล้ว ดังกระหึ่ม คมชัด มีมิติ และทรงพลังมาก ๆ ตอบโจทย์ในแง่ของการใช้งานทางด้าน Entertainment เต็มร้อยแน่นอน

ด้านซ้ายตัวเครื่องมีพอร์ต Side-mounted อยู่ตรงกึ่งกลาง โดยเป็นพอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C ตัวที่ 2 และอีกหนึ่งอันเป็นพอร์ตแบบพิน สำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริม ขยับลงมาด้านล่างจะเป็นถาดสำหรับใส่ซิมการ์ด Dual Nano-SIM แบบพลิกหน้า-หลัง พร้อมสีแดงเด่นและดีไซน์เท่ ๆ สะดุดตาเอามาก ๆ ส่วนทางด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่มปรับเพิ่ม-ลดระดับเสียง, ปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง, รูไมโครโฟน และมีเซนเซอร์ AirTrigger 5 ฟีเจอร์แตะขอบเครื่องสองตัว บน-ล่าง เหมือนการกดปุ่ม L1, R1 ที่ยังคงใส่มาให้เหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมความสามารถใหม่เข้ามาอีกเพียบ

ด้านหลังตัวเครื่องมีกล้องถ่ายรูป Triple Camera วางเรียงกันในแนวนอน ประกอบด้วย เลนส์หลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล, เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และเลนส์ Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล มีไฟแฟลช LED มาให้ในตัว พร้อมรูไมโครโฟนอีกหนึ่งตัว ขยับลงมาท่อนล่างของฝาหลังจะพบกับงานออกแบบใหม่ Dotted Matrix Design ที่ออกแบบให้สามารถแสดงลูกเล่นไฟ RBG แบบไล่สีตรงโลโก้ ROG ได้ด้วย

เมนูและฟีเจอร์การใช้งาน – ROG UI

ASUS ROG Phone 5 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย ROG UI หน้าตาการออกแบบ ธีม และลูกเล่นต่าง ๆ ยังคงความพิเศษในแบบฉบับของเกมเมอร์ไว้เช่นเคย ภาพรวมการใช้งาน การสั่ง และเรียกเมนูต่าง ๆ ไม่ยุ่งยากค่ะ พร้อมหน่วยความจำ (RAM) และพื้นที่เก็บข้อมูล (ROM) ให้เลือก 8GB + 128GB และ 16GB + 256GB ใช้งานได้เหลือ ๆ

ฟีเจอร์เด่นบน ROG UI; Android 11
  • 144Hz Refresh Rate

ROG Phone 5 มาพร้อมหน้าจอแสดงผลอัตรา Refresh Rate สูงถึง 144Hz พร้อมอัตรา Touch Sampling Rate หรืออัตราตอบสนองการสัมผัส 300Hz และค่าความหน่วง Touch Latency 24.3 มิลลิวินาที มอบประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหล และการตอบสนองต่อการสัมผัสที่รวดเร็ว เล่นเกมไม่สะดุด ทัชลื่น และรับชมคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้อย่างเต็มอรรถรส

  • Always-on Panel

Always-on Panel เป็นฟีเจอร์สำหรับเรียกดูสถานะ เช่น วันที่ เวลา แบตเตอรี่ และการแจ้งเตือนต่าง ๆ ได้ แม้โทรศัพท์จะอยู่ในโหมดสแตนด์บายก็ตาม โดยมีรูปแบบให้เลือกปรับเปลี่ยนมากถึง 7 รูปแบบ

  • 5G SA/NSA Dual-SIM + Wi-Fi 6

ASUS ROG Phone 5 รองรับการเชื่อมต่อเครือข่าย 5G ที่สามารถใช้งานได้พร้อมกันทั้ง 2 ซิม พร้อมรองรับ Wi-Fi 6 ซึ่งช่วยให้การเชื่อมต่อแบบไร้สายมีความเสถียร เร็วและแรงมากยิ่งขึ้น

  • Theme

ธีมถือว่าเป็นอีกหนึ่งความพิเศษของ ASUS ROG Phone 5 ในครั้งนี้ โดยมีชุดธีมภาพเคลื่อนไหวใหม่ที่รองรับการแสดงผลวิดีโอหน้าจอล็อค (วิดีโอภาพเคลื่อนไหว), Always-on Display, การโทร (ภาพเคลื่อนไหว), ROG Vision และเอฟเฟกต์เสียงต่าง ๆ โดยสามารถเรียกการตั้งค่าได้ด้วยการปัดนิ้วลงจากด้านบนของหน้าจอเพื่อเข้าถึงการตั้งค่าด่วน เลือก “ธีม” > “ฉัน” > “ธีมของฉัน” แล้วเลือกธีมที่ต้องการ เช่น Akira-Futuristic infiltration ธีมไฮไลท์ที่มีมาให้ (เท่สุด ๆ) จากนั้นเลือก “นำไปใช้” แค่นี้ก็ได้ธีมสวย ๆ ไว้ใช้บนเครื่องแล้ว

  • AirTrigger 5

AirTrigger เป็นฟีเจอร์สำหรับการแตะที่ขอบตัวเครื่องเพื่อเพิ่มความสามารถในการเล่นเกมให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งสำหรับ AirTrigger 5 เพิ่มความไวต่อการสัมผัสด้วยเซนเซอร์แบบ Ultrasonic ตำแหน่งวางอยู่ที่ด้านบนตัวเครื่อง ฝั่งเดียวกับปุ่มเปิด-ปิดตัวงเหมือนในรุ่นก่อน โดยการใช้งานจะเหมือนการกดปุ่ม L1, R1 บนจอยเกม โดยเราสามารถตั้งค่ากำหนดลักษณะและตั้งค่ารูปแบบการสัมผัสได้เองเลย คิด ๆ ไป ถ้ารวมบน AeroActive Cooler 5 ก็นับเป็น L2, R2 แล้วนะ อย่างโกงงงงเลย 555+

  • X Mode

X Mode เป็นโหมดสำหรับช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมบนตัวเครื่องโดยเฉพาะ เสมือนเป็นโหมดที่เอาไว้คัสตอมให้แรงขึ้นกว่าเดิม เช่น การตั้งค่าเครือข่าย – เปิดใช้งาน HyperFusion, บังคับการจำกัดการซิงค์ข้อมูลเบื้องหลัง, เปิดใช้งาน Wi-Fi สองคลื่นความถี่ พร้อมทั้งการเลือกความลื่นไหลของการแสดงผลหน้าจอ 60Hz / 120Hz / 144Hz) รวมไปถึงการเพิ่มความแม่นยำและความไวในการสัมผัสบนหน้าจอให้มากขึ้นด้วย โดยสามารถเข้าไปเซ็ตค่าผ่าน Armory Crate ได้เลยค่ะ ซึ่งเมื่อเราเปิดใช้งาน X Mode ธีมเครื่องจะเปลี่ยนเป็นสีแดง และเปิดไฟ RBG ด้านหลังเครื่องด้วย เท่มาก ๆ

  • Aura RGB

ROG Phone 5 มาพร้อมกับไฟ Aura RGB พร้อมโลโก้ ROG ตรงด้านหลังเครื่อง เป็นจุดที่ชอบมากอีกจุดหนึ่งเลยค่ะ รอบนี้สามารถแสดงไฟแบบไล่ระดับได้ 2 สีพร้อมกัน และยังแสดงผลได้หลายรูปแบบ เช่น ส่องสว่างตลอดเวลา, กะพริบถี่ ๆ, ดาวหาง, แสงผสม, แสงรุ้ง ฯลฯ และยังสามารถปรับตั้งค่าอื่น ๆ อีกหลากหลายผ่าน Armory Crate ได้เลย

  • Game Genie

Game Genie ฟีเจอร์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมที่ทำให้เราสามารถเลือกปรับแต่งการแสดงผลและการตั้งค่าคุณสมบัติพิเศษต่าง ๆ ในหน้าเกมได้ เช่น การบันทึกหน้าจอ, เปิดฟังก์ชั่นการใช้งานไฟฟ้าโดยตรงจากที่ชาร์จโดยไม่ผ่านแบตเตอรี่, การล็อกความสว่าง, การล็อคปุ่มนำทาง ปิดกั้นการแจ้งเตือน, แสดงผลการทำงานของ CPU, GPU, FPS และแบตเตอรี่ เป็นต้น

  • In-display Fingerprint

ทางด้านของระบบรักษาความปลอดภัยนั้น นอกจากการปลดล็อกโดยปกติแล้ว เอซุส ยังคงเลือกใส่ระบบสแกนนิ้วมือใต้หน้าจอและปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้ามาให้เช่นเคย ซึ่งสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำดีค่ะ

ประสิทธิภาพ – Performance

ASUS ROG Phone 5 ใช้ชิปประมวลผลตัวท็อปสุดอย่าง Qualcomm Snapdragon 888 5G มาเป็นขุมพลังหลัก CPU แบบ Octa-core เทคโนโลยี 5 นาโนเมตร ความเร็วสูงสุด 2.84GHz ทำงานร่วมกับ RAM 8GB (LPDDR5) + ROM 128GB (UFS 3.1) และ RAM 16GB (LPDDR5) + ROM 256GB (UFS 3.1) พร้อม GPU Adreno 660 ดังนั้นประสิทธิภาพการใช้งานต่าง ๆ ตั้งแต่เบาไปจนถึงหนัก ผ่านฉลุย!

ผลคะแนนทดสอบประสิทธิภาพ
  • ทดสอบประสิทธิภาพด้วย AnTuTu Benchmark ได้คะแนน 602,691 คะแนน
  • ทดสอบประสิทธิภาพด้วย Geekbench ได้คะแนน Single-Core ที่ 753 และ Multi-Core ที่ 2,871 คะแนน
  • ทดสอบประสิทธิภาพความเร็วการอ่าน-เขียนของหน่วยความจำด้วย AndroBench ได้ Sequential Read 1,957.97 MB/s และ Sequential Write 785.67 MB/s
  • ทดสอบ DRM Info รองรับการแสดงผลความละเอียดระดับสูงด้วย Google Widevine CDM ระดับ L1
ระบบเสียง

ASUS ROG Phone 5 มาพร้อมระบบเสียง GameFX รุ่นใหม่ ลำโพงคู่สเตอริโอด้านหน้าแบบ Symmetrical 7-magnet พร้อมเทคโนโลยี Dirac, Hi-Res Audio Qualcomm aptX Adative และ ESS DAC เกรด Hi-Fi ผ่านช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร สามารถปรับแต่งเสียงได้ด้วย AudioWizard เปลี่ยนรูปแบบเสียงได้ 4 โหมด เก็บรายละเอียดของเสียงได้ดี สมจริง มีมิติ และดังฟังชัด ไม่ว่าจะเล่นเกม ฟังเพลง ดูหนัง ก็สามารถแสดงประสิทธิภาพออกมาได้ดีมาก ๆ ตอบโจทย์การใช้งาน โดยเฉพาะใครมาสายเสพความบันเทิงไม่เสียใจแน่นอน

เกม

มาถึงพาร์ทหลักของ ASUS ROG Phone 5 ที่เป็นจุดเด่น จุดแข็ง จุดขายกันแล้ว โดยเราได้ทำการทดสอบเล่นทั้งหมด 2 เกมดัง RoV และ Call of Duty ซึ่งทั้งสองเกมสามารถเล่นได้ดีมาก ๆ ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด สามารถเปิดโหมดเฟรมเรทสูงและการแสดงผลภาพกราฟิกในระดับสูงสุดได้ เล่นได้ไหลลื่นตลอดทั้งเกม การควบคุมเกมทำได้ดี ภาพสีสันสวยงามคมชัด ระบบเสียงฟิน ๆ อย่างที่เคยเกริ่นไปก่อนหน้านี้ ด้วยองค์ประกอบที่มีมาให้ครบรอบด้านทั้งภาพและเสียง ทำให้ยิ่งเล่นได้สนุกมากขึ้นกว่าเดิม ในส่วนของเกม RoV ระหว่างเล่น เฟรมเรทวิ่งนิ่ง ๆ ที่ 60 – 61 fps แต่จะมีปัญหาแค่เรื่องอุณหภูมิของตัวเครื่องเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ในรอบแรกที่ทดสอบเป็นการเปิดทุกฟังก์ชันความเร็วแรงแบบจัดเต็ม และยังไม่ได้ใส่ AeroActive Cooler ผลที่ออกมาคือเล่นจบไปแค่แมทช์เดียวเครื่องก็ร้อนแล้ว แต่ก็สามารถเข้าใจได้ เพราะการเลือกเปิดจนสุดทุกอย่างก็ทำให้เกิดปัญหานี้เร็วขึ้นกว่าปกติ

ทั้งนี้ เราสามารถเลือกปรับแต่งประสิทธิภาพสำหรับเพิ่มขีดความสามารถของการเล่นเกมได้แบบสูงสุด ทั้งการปรับตั้งค่าเกมผ่าน Armory Crate – AirTrigger, X Mode, Game Genie รวมทั้งอุปกรณ์เสริมอย่างพัดลมระบายความร้อน AeroActive Cooler หรืออุปกรณเสริมตัวอื่น ๆ เพื่อทำให้การเล่นเกมในแต่ละครั้งได้อรรถรสยิ่งขึ้น

แบตเตอรี่

การเป็นสมาร์ตโฟนเกมมิ่ง จุดสำคัญคือต้องมีขนาดแบตเตอรี่ที่ใหญ่เพียงพอ เพื่อให้รองรับกับการเล่นเกมได้อย่างยาวนานด้วย โดย ASUS ROG Phone 5 มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุมากถึง 6,000 mAh ซึ่งสำหรับการใช้งานพื้นฐานโดยทั่วไป สามารถอยู่ได้ยาว ๆ ทั้งวันแน่นอนค่ะ แต่สำหรับการใช้งานแบบสุดจัด ทั้งเล่นเกม เปิดจอ 144Hz เปิด X Mode เปิดไฟ RGB ข้างหลังตัวเครื่องไปด้วย ก็ถือว่าอยู่ในระดับพอดี สมเหตุสมผลกับขนาดความจุแบตเตอรี่ที่ให้มาค่ะ

ASUS ROG Phone 5 ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Hyper Charge 65W สามารถชาร์จไฟเต็ม 100% ได้ในเวลาเพียง 51 นาที ประสิทธิภาพความเร็วเป็นที่น่าพอใจมากค่ะ ไม่ต้องรอนานเลย พอร์ตชาร์จมี 2 จุด คือ ด้านล่างกับด้านข้าง ซึ่งพอร์ตด้านข้างนี้ เป็นพอร์ตที่เสริมเข้ามาเพื่อสร้างความสะดวกในช่วงที่เราถือมือถือในแนวนอนอยู่ ไม่ว่าจะเล่นเกมหรือดูหนังก็ตาม และกำลังติดลม แต่แบตฯ ดันจะหมดพอดี นอกจากนี้ยังมีโหมดถนอมแบตเตอรี่ สำหรับเปิดการชาร์จแบบคงที่ รวมไปถึงโหมดประหยัดแบตเตอรี่ และการตรวจสอบความสมบูรณ์ของแบตเตอรี่มาให้อีกด้วย

กล้องถ่ายรูป – Camera

ASUS ROG Phone 5 มาพร้อม Flagship Triple Camera ระบบกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลัก เซนเซอร์ Sony IMX686 ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.8, กล้อง Ultra Wide-angle เก็บภาพมุมกว้าง 125˚ ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4 และกล้อง Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.0 สำหรับการถ่ายวัตถุขนาดเล็กระยะใกล้ ให้รายละเอียดภาพที่คมชัด สวยงาม แม้ทางแบรนด์จะไม่ได้ชูจุดขายทางด้านนี้ก็ตาม แต่ผลงานที่ออกมาถือว่าทำได้น่าประทับใจดีทีเดียวค่ะ

ทางด้านการถ่ายภาพเคลื่อนไหว ASUS ROG Phone 5 รองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุด 8K UHD (7,680 x 4,320) ที่ 30 fps, 4K UHD (3,840 x 2,160) ที่ 30/60 fps, 1080p FHD ที่ 30/60 fps, 720p HD ที่ 30 fps, รองรับการบันทึกวิดีโอ Time Lapse ความละเอียด 4K UHD และวิดีโอ Slow Motion ความละเอียด 4K ที่ 120 fps, 1080p ที่ 240/120 fps, 720p ที่ 480 fps พร้อมด้วยระบบกันสั่น EIS แบบ 3 แกน (3-axis)

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง
Portrait Mode
Ultra Wide-angle 125˚
Macro Mode
Night Mode

ทางด้านกล้องหน้าของ ROG Phone 5 ให้ความละเอียดกล้องที่ 24 ล้านพิกเซล ที่ถือว่าทำได้ดีพอควรเลยค่ะ รองรับโหมด Portrait ถ่ายภาพเซลฟี่ละลายหลังได้สวยงามเป็นธรรมชาติ พร้อมด้วยโหมด Beauty ปรับหน้าสวย ผิวเนียนได้
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า
สรุป

สรุปภาพรวมของ ASUS ROG Phone 5 ก็ต้องยอมรับว่าเป็นสมาร์ตโฟนที่ยิงตรงมาทางสายเกมเมอร์และ “Built for Gamers” จริง ๆ ค่ะ ด้วยฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ใส่เข้ามาเพื่อซัพพอร์ตการเล่นเกมแบบสุดขั้ว ไม่ว่าจะเป็น AirTrigger 5, X Mode รวมไปถึงอุปกรณ์เสริม AeroActive Cooler 5 ที่ทำให้การเล่นเกมเป็นจริงเป็นจังมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีสเปกสเปกเทพ ๆ ชิปเซ็ต Snapdragon 888 5G พร้อมหน้าจอคมชัด สีสันสว่างสดใส ให้การแสดงผลภาพที่สวยงามขึ้นอย่างสัมผัสได้ ค่า Refresh Rate 144Hz, Touch Sampling Rate 300Hz และ Touch Latency 24.3ms ทัชไว ไม่หน่วง ลื่นหัวแตก พร้อมรวดเร็วยิ่งขึ้นด้วยการเชื่องต่อเครือข่าย 5G แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6,000 mAh รองรับชาร์จไว 65W ใช้งานได้ยาว ๆ ไม่ขาดช่วง ปัญหาหลักที่พบคือความร้อนตัวเครื่อง ที่ถ้าไม่ได้ใส่พัดลม AeroActive Cooler 5 ไว้ก็มีจอดตั้งแต่เกมแมทช์แรกแล้ว

สรุปโดยรวมอีกครั้งว่า ASUS ROG Phone 5 เป็นสมาร์ตโฟนที่สร้างขึ้นมาสำหรับชาวเกมเมอร์โดยเฉพาะค่ะ แล้วถ้าคนที่ไม่ได้เล่นเกมจริงจังขนาดนั้นขอสนใจได้มั้ย? ตอบเลยค่ะว่าได้แน่นอน สิ่งที่คุณจะได้ไปเหมือนเป็นของแถมที่สมาร์ตโฟนอื่น ๆ อาจจะยังให้ไม่ถึงในตอนนี้นั่นก็คือ หน้าจอแสดงผลภาพสวยเนียนกริบ เสพความบันเทิงได้แบบจัดเต็มทั้งดูหนัง-ฟังเพลง และรับชมคอนเทนต์อื่น ๆ ใช้งานลื่นไหล รองรับ 5G แบตฯ อึดจุใจ ยิ่งถ้าไม่ได้เล่นเกมหนัก สามารถอยู่ได้สบาย ๆ โดยไม่ต้องชาร์จ หรือถ้าจะชาร์จก็ไม่ต้องรอนาน เพราะใส่มาให้แล้วกับชาร์จไว 65W ชาร์จไฟเข้าเต็ม 100% ภายในเวลา 51 นาทีเท่านั้น ทางด้านของกล้องถ่ายรูปก็ไม่ได้ขี้เหร่ เพราะสเปกกล้องที่ใส่มารวมทั้งผลงานภาพรวมที่ออกมาถือว่าสมน้ำสมเนื้อ เอาเป็นว่าใครสนใจก็ลองไปเทสต์ของจริงกันก่อนได้ค่ะ เชื่อว่าจะต้องหลงรักเอซุสกันแน่นอน!

รายละเอียดสเปก ASUS ROG Phone 5
  • หน้าจอแสดงผล 144Hz Samsung AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD+ (2,448 x 1,080 พิกเซล) ในสัดส่วน 20.4:9 รองรับ HDR10+, Refresh Rate 144Hz / 1 ms, Touch Sampling Rate 300Hz, Touch Latency 24.3ms, Delta-E < 1 และครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass Victus
  • ชิปประมวลผล CPU Snapdragon 888 5G, Octa-core เทคโนโลยี 5 นาโนเมตร ความเร็วสูงสุด 2.84GHz
  • ชิปประมวลผล GPU Adreno 660
  • หน่วยความจำ (RAM) LPDDR5 8GB / 16GB
  • พื้นที่เก็บข้อมูล (ROM) UFS 3.1 128GB / 256GB
  • ถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Dual Slots รองรับ Nano SIM + Nano SIM (ไม่รองรับ MicroSD Card)
  • กล้องหลัง Triple Camera ประกอบด้วย เลนส์หลัก เซนเซอร์ Sony IMX686 ความละเอียด 64MP (f/1.8) + เลนส์ Ultra Wide 125˚ ความละเอียด 13MP (f/2.4) + เลนส์ Macro ความละเอียด 5MP (f/2.0)
  • กล้องหน้า ความละเอียด 24MP
  • การเชื่อมต่อไร้สาย 5G SA/NSA แบบ Dual-SIM, Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac/ax, 2×2 MIMO, aptX, aptX HD, Wi-Fi Direct, Bluetooth 5.2
  • พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C และช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
  • ระบบนำทาง GPS, GLONASS, BDS, GALILEO, QZSS
  • รองรับสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ และปลดล็อกด้วยใบหน้า
  • ลำโพงคู่ด้านหน้า Symmetrical 7-magnet ระบบเสียงสเตอริโอ พร้อมเทคโนโลยี Dirac, Hi-Res Audio Qualcomm aptX Adative และ ESS DAC เกรด Hi-Fi ผ่านช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
  • ไมโครโฟน 4 ตัว พร้อมเทคโนโลยีลดเสียงรบกวน ASUS Noise Reduction
  • ฟีเจอร์สำหรับเล่นเกม AirTriggers 5, Game Genie
  • อุปกรณ์เสริม AeroActive Cooler 5
  • แบตเตอรี่ 6,000 mAh รองรับ Quick Charge 5 และ PD Charging 3.0 (ชาร์จไว HyperCharge 65W)
  • ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย ROG UI
  • มิติตัวเครื่อง 173 x 77 x 9.90 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 239 กรัม

ราคาและการวางจำหน่าย

เอซุส ประเทศไทย ประกาศวางจำหน่าย ASUS ROG Phone 5 ทั้งหมด 2 รุ่น คือ

  • ROG Phone 5 รุ่น RAM 8GB / ROM 128GB ราคา 22,990 บาท (สีดำ Phantom Black และสีขาว Storm White*)
  • ROG Phone 5 รุ่น RAM 16GB / ROM 256GB ราคา 29,990 บาท (สีดำ Phantom Black)

พร้อมมอบสิทธิพิเศษเฉพาะลูกค้า AIS สามารถซื้อสมาร์ตโฟน ROG Phone 5 ได้ในราคาพิเศษเริ่มต้นเพียง 15,990 บาท เมื่อซื้อพร้อมแพ็กเกจที่กำหนด

  • ROG Phone 5 รุ่น RAM 8GB / ROM 128GB ราคาพิเศษเริ่มต้น 15,990 บาท จากราคาปกติ 22,990 บาท
    รายละเอียดแพ็กเกจเพิ่มเติม https://bit.ly/3x2d0ZS
  • ROG Phone 5 รุ่น RAM 16GB / ROM 256GB ราคาพิเศษเริ่มต้น 22,990 บาท จากราคาปกติ 29,990 บาท
    รายละเอียดแพ็กเกจเพิ่มเติม https://bit.ly/3v3DIQi

โดย *สีขาว Storm White ในรุ่น RAM 8GB / ROM 128GB จะวางจำหน่ายเฉพาะช่องทาง Online เท่านั้น สามารถจับจองเป็นเจ้าของทั้ง 2 รุ่นย่อยได้แล้ววันนี้ ที่

 

Leave a Reply