รีวิว ROG Phone 8 Pro มือถือเกมมิงที่ดีและแรงที่สุดในตลาด!
ROG Phone 8 Pro สมาร์ตโฟนเกมมิงตัวจบของ “ROG” ประเทศไทย กับการเดินทางครั้งใหม่ที่ทางแบรนด์บอกกับผมว่า ครั้งนี้ ROG Phone ที่พวกเขาฟูมฟักได้เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่แล้ว กับงานดีไซน์ที่มีความสุขุมมากขึ้น แต่ก็ยังคงมีความขี้เล่น และเกมมิงที่มีอยู่ในสายเลือด
โดยการมาครั้งนี้ของ ROG Phone 8 Series ทางทีมงานเล่าว่า พวกเขานำเอาข้อเสนอของลูกค้ามาตั้งเป็นวัตถุประสงค์ในการพัฒนารุ่นที่ 8 นี้ ซึ่งลูกค้าของ ROG Phone มีรีเควสอยากให้ยกระดับในเรื่องของกล้องถ่ายรูปและงานออกแบบเป็น 2 อันดับแรก ทาง ROG จึงนำรีเควสนั้นมาใช้พัฒนา ปรับปรุง จนออกมาเป็น ROG Phone 8 Series ในครั้งนี้ครับ และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของสมาร์ตโฟนเกมมิงที่หลายคนรอคอย!
เลือกอ่านตามหัวข้อที่สนใจ |
ข้อมูลสเปกตัวเครื่องของ ROG Phone 8 Pro
- จอแสดงผล SAMSUNG Flexible AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 2,400 x 1,080 พิกเซล (FHD+)
— Refresh Rate 165Hz (LTPO 1-120Hz)
— Touch Sampling Rate 180Hz
— Brightness 1,600 nits / Peak : 2,500 nits
— 107.37% DCI-P3 / 145.65% sRGB / 103.16% NTSC - CPU Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3 (3.3GHz)
- GPU Qualcomm Adreno 750
- RAM 16GB (LPDDR5x)
- ROM 512GB (UFS4.0)
- Android 14 with ROG UI
- กล้องถ่ายรูป Triple Camera
— กล้องถ่ายรูปหลัก ความละเอียด 50MP Main (Sony® IMX890, Gimbal OIS, Quad Bayer technology)
— กล้อง Ultrawide ความละเอียด 13MP (120 องศา)
— กล้อง Telephoto ความละเอียด 32MP (F2.4, OIS, 3X optical zoom, pixel binning 1.4μm)
- กล้องหน้า ความละเอียด 32MP
- ระบบเสียง 5-magnet Receiver; 5-magnet Speaker
- Audio OutputHi-Res Audio up to 384 kHz / 32-bit for 3.5mm Output
— AudioWizard with Multiple Listening Profiles
— Dirac Virtuo for Headphone™ Spatial Sound - Microphone: Tri-microphones with ASUS Noise Reduction Technology
- Wi-Fi (802.11 be/ax/ac/a/b/g/n)
- Dual SIM Card (Dual Standby 5G + 5G)
- Bluetooth 5.3
- USB-C Port, Jack Audio 3.5 mm
- กันน้ำและฝุ่นมาตรฐาน IP68
- แบตเตอรี่ 5500mAh (QC 65W | Qi 15W)
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- ตัวเครื่อง ROG Phone 8 Pro
- คู่มือการใช้งาน
- เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
- เคสป้องกันรอยตัวเครื่อง
- สายชาร์จ USB-C
- อแดปเตอร์ QC 65W
— Design for Lifestyle | งานออกแบบที่เติบโต สุขุม และตอบรับไลฟ์สไตล์มากขึ้น
มาเริ่มกันที่เรื่องของงานออกแบบตัวเครื่องกันก่อนเลย เพราะเป็นสิ่งที่ทาง ROG บอกว่าลูกค้ารีเควสเข้ามามากที่สุด รอบนี้จึงมีการปรับปรุงงานออกแบบตัวเครื่องใหม่ จนแทบจะไม่เชื่อว่านี่เป็นมือถือเกมมิงที่เราคุ้นเคย เพราะตัวเครื่องมีการออกแบบที่ดูเป็นสมาร์ตโฟนเรือธงทั่วไปมากขึ้น เน้นสำหรับการพกพาจับถือไปใช้ในทุกสถานที่และทุกโอกาส กลมกลืนเข้าได้กับทุกไลฟ์สไตล์ ลายเส้นตัวเครื่องที่เคยหวือหวาในรุ่นก่อนถูกลดลงไป โดย ROG Phone 8 Pro มีมิติตัวเครื่องรวมที่เล็กกว่า 17% เบากว่า 9% และบางกว่า 15% เมื่อเทียบกับ ROG Phone 7 Pro
ด้านหน้าของตัวเครื่องมาพร้อมหน้าจอแสดงผล E6 AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับ Adaptive Refresh Rate 1-120Hz และสามารถเลือกเปิดใช้งานรีเฟรชเรทได้สูงสุดที่ 165Hz มีอัตราการตอบสนองของหน้าจอที่ 720Hz พร้อมค่าความสว่างสูงสุด 2,500 nits ซึ่งเป็นค่าความสว่างที่ใช้งานกลางแจ้งได้สบายมาก ๆ
ในขณะที่ขอบ Bazel ด้านบนที่เป็นตำแหน่งของกล้องหน้าความละเอียด 32MP และลำโพงเสียง มีขนาดที่บางลงจากรุ่นก่อนถึง 71% เลยทีเดียวครับ คือตัว ROG Phone 8 Pro มีความหนาจากขอบ 1.65 มิลลิเมตร ในขณะที่รุ่นก่อนมีความหนามากถึง 5.65 มิลลิเมตร
ด้านข้างตัวเครื่องด้านซ้ายมีพอร์ต USB-C สำหรับเชื่อมต่อกับพัดลม Active X Cooler หรือสายชาร์จ USB-C
ส่วนด้านขวาตัวเครื่องจะเป็นตำแหน่งของปุ่มกดปรับระดับเสียงเพิ่ม–ลด และปุ่มเปิด–ปิดตัวเครื่อง (Power)
ด้านหลังตัวเครื่องมีชุดกล้องถ่ายรูป Triple Camera ประกอบด้วย กล้องหลักความละเอียด 50MP, กล้อง Telephoto ความละเอียด 32MP และกล้อง 120° Ultrawide-angle ความละเอียด 13MP ในขณะผิวสัมผัสในรุ่นโปรขึ้นไปจะเป็นแบบด้าน และมีไฟ AniMe Vision ซึ่งเป็น Mini-LED สีขาว 341 ดวง เรียงตัวกันแบบ Dot Matrix ในการแสดงผลบริเวณฝาหลังตัวเครื่อง โดยรูปแบบการแสดผลต่าง ๆ นี้เราสามารถปรับแต่งได้อิสระเลยครับ เพราะถ้าหากเราไม่ชอบรูปแบบที่มีมาให้ในซอฟต์แวร์ ก็สามารถหาไฟล์ภาพ GIF มาโหลดเข้าเครื่องเพื่อแสดงผลได้เลย (รองรับไฟล์ GIF 254*126)
ในขณะที่ถ้าเป็นรุ่น ROG Phone 8 (Standard) ตัวเครื่องจะมีผิวสัมผัสด้านหลังแบบเงา และมีไฟ Aura RGB โลโก้ดวงตา ROG Fearless Eye แบบใหม่แสดงผลแทน ถ้าใครชอบสไตล์ไฟ RGB ก็ได้คำตอบแล้วล่ะครับว่าจะเลือกรุ่นไหน
— Next-level of Camera on Gaming Phone | บอกลาการบูลลี่ว่ากล้องมือถือเกมมิงมีไว้ประดับเครื่องเท่านั้น
ROG Phone 8 Pro มาพร้อมกล้องถ่ายรูป Triple Camera โดยมีกล้องหลักเป็นเซ็นเซอร์ Sony® IMX890 ความละเอียด 50MP มีระบบกันสั่นแบบ OIS Hybrid Gimbal Stabilizer 3.0 แบบ 6 แกน และมี 2x Lossless Zoom ในตัว กล้องตัวที่ 2 เป็นกล้อง Telephoto ความละเอียด 32MP มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว Optical IS ในตัว สามารถซูมแบบ Optical Zoom ได้ที่ 3X
และสามารถซูมได้สูงสุดที่ 30X (Digital Zoom) แบบชัดมาก ๆ เพราะทาง ROG ใส่เทคโนโลยี HyperClarity ที่ตัวกล้องจะนำไฟล์ภาพ RAW มาช่วยประมวลผลหลังการกดชัตเตอร์ เพื่อให้ได้ภาพซูมที่มีรายละเอียดออกมาครบถ้วนมากที่สุด รวมทั้งยังรองรับโหมดกลางคืนขณะซูมได้ด้วยนะครับ โดยความสามารถของกล้อง Telephoto ที่เล่ามานี้ จะมีแค่ในรุ่นโปรขึ้นไปเท่านั้น
ในขณะที่กล้องตัวสุดท้ายเป็นกล้อง Ultrawide-angle เลนส์มุมกว้างพิเศษ 120° ความละเอียด 13MP สามารถถ่ายภาพได้กว้างที่ระยะ 0.7X และมีซอฟต์แวร์ช่วยป้องกันการบิดเบี้ยวของขอบภาพด้วย ยังไม่พอ! รอบนี้ที่ทำให้กล้องของ ROG Phone 8 Pro เก่งขึ้นไม่ได้มีแค่ฮาร์ดแวร์เท่านั้น แต่ยังมีซอฟต์แวร์กล้องใหม่ที่ผสานการใช้ AI เข้ามาด้วย ซึ่งมีลูกเล่นที่น่าสนใจ เช่น
- AI Object Sense AI Object Sense : การแบ่งภาพออกเป็นหลายส่วน เช่น แยกท้องฟ้า ทะเล และทรายออกจากกัน จากนั้นจึงใช้ AI เข้าปรับ Contrast และ Saturation แต่ละส่วนแยกกันอย่างเหมาะสม ทำให้เกิดภาพผลลัพธ์ที่สวยงาม สดใส เป็นธรรมชาติ
- Quick Shot : จับภาพช่วงเวลาสำคัญด้วยการกดปุ่มปรับระดับเสียง 2 ครั้ง กล้องจะถ่ายภาพ 3 ภาพในทันที เพื่อไม่ให้พลาดช่วงเวลาสำคัญใด ๆ
- Light Trail mode : โหมดนี้ใช้การซ้อนภาพหลายเฟรมด้วย AI เพื่อสร้างภาพถ่ายแบบถือกล้องด้วยมือโดยเปิดรับแสงนาน
- Semantic Search in Gallery App : ใช้ AI ในการเรียนรู้และนำเสนอสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการหาด้วยคำพูดทั่วไป ตัวอย่างเช่น “แสดงภาพพระอาทิตย์ตกที่ฉันถ่ายในโตเกียว” จากนั้นระบบจะค้นหาภาพที่ตรงที่สุดมาให้ แต่ปัจจุบันยังใช้ได้แค่เฉพาะภาษาอังกฤษนะครับ
- OZO Audio : สามารถเลือกที่จะกำจัดเสียงรบกวนจากลมเพื่อการบันทึกที่คมชัดได้ เหมาะสำหรับคนที่ชอบบันทึกวีดีโอขณะเดินทางมาก ๆ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องของ ROG Phone 8 Pro
— Powerful of Mobile | ประสิทธิภาพที่ดีและแรงที่สุดบนสมาร์ตโฟนเท่าที่จะไปได้
มากันที่ด้านการประมวลผลของ ROG Phone 8 Pro กันครับ ซึ่งแน่นอนเลยว่า ด้วยการที่เป็นสมาร์ตโฟนเกมมิงตัวท็อปแบบนี้ ประสิทธิภาพการประมวลผลของตัวเครื่องก็ต้องอยู่ในระดับสูงสุดของตลาดมือถือ Android อยู่แล้ว โดยใช้เป็นชิปประมวผลระดับเรือธงอย่าง Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3 ที่เราสามารถ OC สปีดให้ขึ้นไปแตะสูงสุดที่ 3.3GHz ได้ ด้วยซอฟต์แวร์เอกสิทธิ์เฉพาะของ ROG Phone อย่าง “Armoury Crate” ซอฟต์แวร์เกมมิงที่เป็นเหมือนหัวใจของ ROG Phone ทุกรุ่น เพราะสิ่งนี้แหละครับ ที่เป็นจุดที่ทำให้ ROG Phone Series กับสมาร์ตโฟนเรือธงทั่วไป มีข้อแตกต่างกันเมื่อต้องเล่นเกมเหมือนกัน
นอกจากมีชิปประมวผลที่เป็นหัวใจหลักในการทำงานที่ดีที่สุดในตลาดมือถือ Android ตอนนี้แล้ว ROG ยังเอาฮาร์ดแวร์ที่มีผลต่อการทำงานในภาพรวมอย่าง RAM และ ROM ที่ดีที่สุดในตลาด ณ เวลานี้มาติดตั้งให้ด้วย
โดย ROG Phone 8 Pro มาพร้อม RAM LPDDR5x ขนาด 16GB ทำงานร่วมกับ ROM UFS 4.0 ขนาด 512GB ซึ่งมีค่าอ่านและเขียนเฉลี่ยที่ 8,xxx – 9,xxx mbps เลยทีเดียว ทำให้การอ่านและเขียนข้อมูลทำได้รวดเร็ว ดังนั้นเมื่อเราต้องเล่นเกมแนว Open World ตัวเครื่องก็จะสามารถประมวลผลเรนเดอร์ฉากรวมกับ GPU และ CPU ได้ไวขึ้นด้วย
— IMPROVE of Rapid-cooling Conductor | การปรับปรุงระบบระบายความร้อนครั้งใหม่ เอาอยู่ และใช้งานได้จริง!
เรื่องของการควบคุมอุณหภูมิบนตัวเครื่องเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญมาก ๆ สำหรับมือถือเกมมิงเลยล่ะครับ เพราะมือถือเกมมิงจำเป็นต้องใช้ฮาร์ดแวร์ที่แรงในการประมวลผลเกมต่าง ๆ และแน่นอนว่าความแรงก็มากับความร้อนสะสมที่มากด้วยเช่นกัน แถมมือถือยังเป็นอุปกรณ์ที่มีขนาดเล็กด้วย ดังนั้นถ้าหากจัดการเรื่องอุณหภูมิได้ไม่ดีพอ ก็จะมีผลต่อการเล่นเกมตามไปด้วย
ROG Phone 8 Pro มีระบบระบายความร้อนทั้งแบบภายในและภายนอก โดยถ้าหากได้ทั้งสองระบบทำงานพร้อมกันตัวเครื่องก็จะมีอุณหภูมิที่นิ่งและเล่นเกมได้ต่อเนื่องนานขึ้นด้วย โดยระบบระบายความร้อนภายในตัวเครื่องทาง ROG ได้ติดตั้ง “Rapid-cooling Conductor” เพิ่มเข้าไปที่ชั้นในสุดของระบบ เพื่อให้สามารถดึงความร้อนออกจากตัวชิปประมวลผลได้ดีขึ้นถึง 20% จากนั้นจึงส่งต่อไปที่โบรอนไนไตรด์, Vapor Chamber, และแผ่นแกรไฟต์ ที่เป็นชั้นลดอุณหภูมิในระบบต่อเนื่องกัน เพื่อส่งผ่านความร้อนออกมาด้านนอกให้เร็วที่สุด
ในขณะที่ระบบระบายความร้อนภายนอก ยังคงใช้พัดลม AeroActive Cooler X พัดลมระบายความร้อนแบบติดตั้งที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ซึ่งในรุ่นใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวมาพร้อมกับ ROG Phone 8 Series จะมีประ สิทธิภาพในการระบายความร้อนได้ดีขึ้นถึง 30% โดยที่ตัวพัดลมจะมีขนาดเล็กและเบากว่ารุ่นที่แล้ว แต่มีการอัปเกรดรอบการหมุนของพัดลมขึ้นอีก 1.1 เท่า และเพิ่มขนาดของชิประบายความร้อนแบบ Thermoelectric ขึ้น 2.6 เท่า ทำให้ประสิทธิภาพการระบายความร้อนในภาพรวมดีขึ้นอีกถึง 1.3 เท่า เมื่อเทียบกับพัดลมตัวเก่า
จากประสบการณ์ที่ทดสอบเล่นเกมแนว Open World อย่าง Genshin Impact และ Ragnarok Origin ต่อเนื่อง 2-3 ชั่วโมง โดยตั้งค่ากราฟิกแบบปรับสูงสุดทุกอย่าง การใช้พัดลม AeroActive Cooler X ช่วยขณะเล่นด้วย มีผลให้ตัวเครื่องอุณหภูมินิ่งมาก ๆ ครับ และตัวเครื่องไม่ร้อนจัดยังถือเล่นได้สบายมาก ผมก็แนะนำว่าถ้าพอมีงบก็ซื้อไปใช้งานร่วมด้วยจะดีมาก ๆ เพราะถ้าใช้ระบบระบายความร้อนภายในระบบเดียว บ่อยครั้งที่ตัวเครื่องลดอุณหภูมิไม่ทัน ทำให้เราต้องพักวางตัวเครื่องสักพักถึงเอากลับมาเล่นต่อได้
— Display for Gaming & Entertaining | จอแสดงผลที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นเกมและความบันเทิงบนมือถือ
ROG Phone 8 Pro ยังคงมาพร้อมหน้าจอที่ดีที่สุดในตลาดมือถือเหมือนเดิม โดยรอบนี้มาพร้อมจอแสดงผล E6 AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว บนความละเอียดระดับ FHD+ มีค่ารีเฟรชเรทสูงสุด 165Hz รองรับการปรับค่าแบบ LTPO (1 – 120Hz) ได้ ให้ความสว่างสูงสุดถึง 2,500nits ใช้งานได้ในทุกสภาวะแสง และตัวจอถูกครอบทับด้วย Gorilla Glass Victus 2 รุ่นล่าสุดด้วย
ส่วนคุณสมบัติของจอแสดงผลก็มากันครบทุกการรองรับ ไม่ว่าจะเป็น
- Touch Sampling Rate 720Hz สูงที่สุดในตลาดมือถือ ณ ตอนนี้
- โหมดถนอมสายตา
- HDR 10
- 107.37% DCI-P3
- 145.65% sRGB
- 103.16% NTSC
เมื่อด้านการแสดงผลจัดสุดแล้ว ด้านเสียงจะพลาดได้อย่างไรจริงมั้ยครับ ROG Phone 8 Pro มาพร้อมระบบเสียงลำโพงคู่สเตอริโอคุณภาพสูง ให้เสียงระดับ Hi-Res Audio โดยได้รับการปรับจูนเสียงโดย DIRAC และรองรับ DIRAC VIRTUO สำหรับการเชื่อมต่อหูฟัง (รองรับทั้งการเชื่อมต่อผ่าน 3.5mm / USB-C / Bluetooth) ให้เสียงที่มีมิติโอบล้อมเหมือนอยู่ในโรงภาพยนตร์ และยังมีการนำ AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์ในการตัดเสียงรบกวนแบบ Bi-Directional เมื่อเราสนทนาหรือพูดคุยในเกมหรือโทรศัพท์ ทำให้เสียงถูกส่งผ่านได้มีคุณภาพ ซึ่งตอนเล่นเกมผมลองทดสอบพูดกับทีมในเกมดู โดยคนที่เล่นเกมด้วยกันจะไม่รู้สึกว่าเรากำลังเล่นเกมอยู่ข้างนอกเลย บอกเงียบมาก!
— Fill Up Your Style | ตอบรับการใช้ชีวิตเพิ่มขึ้น นอกจากเรื่องเกม
ROG Phone 8 Series นอกจากเหนือจากเรื่องการเล่นเกมแล้ว อย่างที่ได้เกริ่นไปช่วงต้นว่า รอบนี้เขามาพร้อมกับการเป็นมือถือที่ไลฟ์สไตล์มากขึ้น ดังนั้นตัวเครื่องจึงมาพร้อมกับคุณสมบัติการกันฝุ่น สิ่งสกปรก ทราย และสามารถแช่อยู่ในน้ำลึกได้ถึง 1.5 เมตร ด้วยอุณหภูมิและความดันปกติเป็นเวลาครึ่งชั่วโมงตามมาตรฐาน IP68
ในขณะที่ด้านพลังงานตัวเครื่องก็มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5500mAh รองรับการชาร์จเร็วแบบ ROG HyperCharge 65W สามารถชาร์จจาก 0-100% ได้ในระยะเวลาเพียง 39 นาที และยังรองรับการชาร์จไร้สายตามมาตรฐาน Qi 1.3 ที่กำลังไฟสูงสุด 15W ส่วนความอึดในการใช้งานตอนเล่นเกมก็อึดขึ้นนะครับ ถ้าเอาไปเล่นเกมต่อเนื่อง 2-3 ชั่วโมง ในโหมดปกติ แบตเตอรี่จะลดประมาณ 10 – 20% เท่านั้น เพราะฉะนั้นถ้าในด้านการใช้งานทั่วไปอยู่ตลอดวันเลยล่ะ
— Powerful of Gaming Phone and Friendly Design | มือถือเกมมิงตัวแรง กล้องหวังผลได้ กับดีไซน์ที่เป็นมิตรมากขึ้น
สำหรับบทสรุปเกมมิงตัวใหม่ของ ROG ประเทศไทย ส่วนตัวผมมองว่า ROG Phone 8 Series ยังคงเป็นมือถือเกมมิงที่ดีที่สุดของตลาดมือถือเมืองไทยในปีนี้เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมาล่ะครับ เพราะด้วยการที่ ROG เลือกใส่ฮาร์ดแวร์ที่ดีที่สุดของอุตสาหกรรมมาบนตัวเครื่อง จึงทำให้ตัวเครื่องสามารถที่จะทั้งเล่นเกม ทำงาน หรือใช้งานได้ครบทุกมิติของการเป็นสมาร์ตโฟนแล้ว ที่เพิ่มเติมก็คือการมีซอฟต์แวร์เกมมิงของ ROG ที่พัฒนาขึ้นมาสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะเสริมเข้ามา จึงทำให้เป็นจุดแตกต่างที่หลายคนมักจะถามผมว่า ” มือถือเรือธงตัวอื่น ๆ ก็เล่นเกมได้ ทำไมต้องมาซื้อเกมมิงโฟน” ก็เพราะซอฟต์แวร์เกมมิงเนี่ยล่ะครับที่เป็นข้อแตกต่างของเหตุผลดังกล่าว
ในขณะที่ด้านกล้องถ่ายรูปก็เป็นอีกจุดที่ผมประทับใจมาก ๆ เพราะตลอดที่ผ่านมา ROG Phone Series จะมาพร้อมกล้องที่ส่วนตัวรู้สึกว่า “เอาแค่แชร์ให้รู้ก็พอ” แต่สำหรับ ROG Phone 8 Series ในครั้งนี้ ตอนถ่ายครั้งแรกถึงกลับประหลาดใจว่า นี้คือ ROG Phone ที่เราจับมาทุกรุ่นจริงดิ! เพราะภาพที่ได้จากกล้องมันอยู่ในระดับ “หวังผลได้เลยครับ” โดยเฉพาะการเพิ่มลูกเล่นที่กำลังฮิตอย่างการซูมเข้ามา ถึงแม้จะซูมได้สูงสุด 30X แต่ภาพที่ได้ก็สามารถใช้งานได้ต่อได้อยู่นะครับ
สุดท้ายสำหรับผม “ROG Phone 8 Pro” เป็นสมาร์ตโฟนเกมมิงที่แรงสุดในตลาด กล้องหวังผลได้ และลูกเล่นที่ยังคง DNA ของความเป็น ROG Phone ไว้ครบถ้วน ก็น่าจะมาจากการที่ทาง ROG พัฒนาและออกแบบตามคำเรียกร้องของลูกค้า จึงทำให้ครั้งนี้ตัวเครื่องตอบโจทย์ให้กับลูกค้ามากขึ้น มาพร้อมดีไซน์ที่เป็นมิตรกับลูกค้าทั่วไปมากขึ้น แต่อาจจะไม่ถูกใจแฟนบอยเกมมิงมากเท่าไรนัก และมิติการใช้งานทั่วไปที่ขยับจากการเล่นเกมโดยเฉพาะมาสู่ไลฟ์สไตล์มากขึ้นด้วย ดังนั้นผมจึงขอนิยามว่า นี้คือ สมาร์ตโฟนเรือธงที่เด่นด้านการเล่นเกม!
— Price & Promotion | ราคา การวางจำหน่าย และโปรโมชัน
ROG Phone 8 Series เปิดราคาเครื่องไทยอย่างเป็นทางการ โดย ROG Phone 8 รุ่น 12GB / 256GB ราคา 29,990 บาท, ROG Phone 8 Pro รุ่น 16GB / 512GB ราคา 37,990 บาท และ ROG Phone 8 Pro Edition รุ่น 24GB / 1TB ราคา 47,990 บาท สามารถสั่งซื้อได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย ROG Phone ทั่วประเทศ รวมทั้งช่องทางออนไลน์ ASUS Online Store, Lazada และ Shopee
คลิกสั่งซื้อ ROG Phone 8 Series
- ASUS Official Store บน Shopee
— ASUS ROG Phone 8 (Storm Grey) : https://shope.ee/2L9guZkdF7
— ASUS ROG Phone 8 (Phantom Black) : https://shope.ee/5fQ8sqld9s - ASUS Official Store บน Lazada
— ASUS ROG Phone 8 (Storm Grey) : https://s.lazada.co.th/s.mVgZS?cc
— ASUS ROG Phone 8 (Phantom Black) : https://s.lazada.co.th/s.mVg1w?cc
— ASUS ROG Phone 8 Pro (Phantom Black) : https://s.lazada.co.th/s.mVgez?cc
พิเศษ! เมื่อซื้อที่ ASUS Online Store
รับฟรีทันที Devil Case ROG Phone 8 และ Glass Screen Protector มูลค่ารวม 2,080 บาท (ของแถมมีจำนวนจำกัด)
ลงทะเบียนรับเพิ่ม! กระเป๋าสุดเท่ ROG Slash Sling Bag 2.0 มูลค่า 1,990 บาท เมื่อซื้อรุ่นที่ร่วมรายการ สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 – 25 กุมภาพันธ์ 2567 และสินค้าจะเริ่มจัดส่งวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นต้นไป (ของแถมมีจำนวนจำกัด) โดยรุ่นที่ร่วมรายการมีดังนี้
- ROG Phone 8 (12GB / 256GB)
- ROG Phone 8 Pro (16GB / 512GB)
สินค้าจัดส่งฟรี ถึงมือใน 3 ชั่วโมง* พร้อมติดตามได้แบบเรียลไทม์ ในพื้นที่กรุงเทพ และสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ด้วย Easy E-Receipt
“พบกับโปรโมชันเปิดตัว ROG Phone 8 – Early Bird ซื้อก่อน คุ้มกว่า“
- คุ้มแรก : ครั้งแรกกับการ Trade-in ‘เก่าแลกใหม่‘ ที่สามารถนำเครื่องเก่ามาแลกเป็นส่วนลดได้ พร้อมรับส่วนลดเพิ่มอีก 3,000 บาท จากราคาประเมิน เฉพาะร้านตัวแทนจำหน่ายสาขาที่ร่วมรายการเท่านั้น เฉพาะวันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 31 มีนาคม 2567
- คุ้มที่สอง : ซื้อตอนนี้ รับเลย (1) DevilCase for ROG Phone 8 มูลค่า 1,490 บาท (2) Glass Screen Protector for ROG Phone 8 มูลค่า 590 บาท ของแถมจำนวนจำกัด หมดแล้วหมดเลย
- คุ้มที่สาม : สแกน QR Code เพื่อลงทะเบียน รับกระเป๋า ROG Slash Sling Bag 2.0 มูลค่า 1,990 บาท สำหรับเฉพาะลูกค้าที่ซื้อรุ่น ROG Phone 8 (12GB / 256GB) ทั้งสีเทา / สีดำ และ ROG Phone 8 Pro (16GB / 512GB) โปรโมชันนี้ เฉพาะวันที่ 1 – 18 กุมภาพันธ์ 2567 เท่านั้น