Preview : OPPO Reno Ace Gundam 40th Anniversary Editon กับที่สุดของมือถือกันดั้มจากออปโป้
OPPO Reno Ace Gundam 40th Anniversary Edition เป็นสมาร์ทโฟนที่นำสมาร์ทโฟน OPPO Reno Ace Series ซึ่งเป็นรุ่นท็อปของ OPPO Reno Series ในปีนี้ มาผสมผสานเข้ากับงานออกแบบที่ใช้ Mobile Suite Gundam สุดคลาสสิคอย่าง Gundam RX-78-2 มาเป็นต้นแบบ ออกมาเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นพิเศษของออปโป้ที่มีเพียง 30,000 เครื่องทั่วโลกเท่านั้น จนทำให้คอกันพลาทั่วโลกต่างพากันบินลัดฟ้าไปจับจองกันถึงประเทศจีนเลยทีเดียว ซึ่งนอกจากลวดลายพิเศษที่เป็นลายกันดั้มคุณปู่ RX-78 ในตำนานแล้ว ในด้านของสเปคตัวเครื่องเองก็จัดว่าเป็น Flagship ที่ไม่น้อยหน้าใครในตลาดสมาร์ทโฟนตอนนี้เหมือนกันครับ ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมจะมีอะไรบ้างนั้น ตามผมไปสัมผัสกับสมาร์ทโฟนสุดพิเศษเครื่องนี้จากออปโป้พร้อมกันครับ
Unbox : แกะกล่อง ข้างในมีอะไร?
สำหรับตัวกล่องทาง ออปโป้ ตั้งใจออกแบบและใส่ใจรายละเอียดดีมากๆ มีการนำโทนสีของยาน White Base ซึ่งเป็นยานแม่ของ Mobile Suite RX-78-2 มาใช้คุมโทนสีสันบนตัวกล่องทั้งหมด และได้ใส่ลวดลาย เส้นสายต่างๆ มาเป็นรายละเอียดได้ครบถ้วน รวมทั้งยังออกแบบโลโก้ “Mobile Suit Gundam” ที่ด้านหน้ากล่องได้สวยงามและดูเป็นพิเศษมากๆ ถูกใจสาวกกันพลาแน่นอน ปรบมือให้เลย!!
ส่วนด้านในตัวกล่องจะมีอุปกรณ์พื้นฐานใส่มาให้ครบชุด ดังนี้
- OPPO Reno Ace Gundam 40th Anniversary Edition
- คู่มือการใช้งาน
- เข็มจิ้มซิม
- เหรียญ 40th Anniversary Gundam
- เคสตัวเครื่องที่ออกแบบให้เหมือนโล่ของ RX-78-2
- สายชาร์จ USB-C (สีแดง-เหลือง)
- อแดปเตอร์ชาร์จไฟ Super VOOC 2.0 (65W)
การออกแบบ (Design)
OPPO Reno Ace Gundam 40th Anniversary Edition ใช้ลายเส้นสายของตัวหุ่นยนต์ Mobile Suite Gundam มาเป็นองค์ประกอบหลักในการออกแบบ ซึ่งทางออปโป้ลงรายละเอียดต่างๆ ได้ลึกซึ้งพอสมควร ทำให้ตัวเครื่องออกมาดูมีคาแร็คเตอร์ของหุ่นยนต์ มีการลงสีทั้งสีน้ำเงินและสีแดงซึ่งเป็นโทนสีของ Rx-78-2 ที่ขอบตัวเครื่อง ทำออกมาได้สวยมากๆ
มิติตัวเครื่องของ OPPO Reno Ace Gundam 40th Anniversary : กว้าง 75.7 x สูง 161 x หนา 8.7 มิลลิเมตร มีน้ำหนักตัวเครื่องรวม 200 กรัม
ด้านหน้าตัวเครื่อง มาพร้อมหน้าจอแสดงผล Waterdrop Display ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ FullHD+ มีพื้นที่หน้าจอให้ใช้งานมากถึง 91.7% รองรับการแสดงผลด้านสี DCI-P3, HDR10+, ค่าความสว่างสูงสุด 700 nits และสามารถแสดงผลด้วย Refresh rate สูงสุดที่ 90Hz
เหนือหน้าจอขึ้นตรงบริเวณรอยหยดน้ำ มีกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล (F2.0, FOV 79 องศา)
ด้านล่างตัวเครื่อง ใช้เป็นสีแดงอมเงิน และมีพอร์ตเชื่อมต่อ USB-C, ลำโพงเสียงตัวเครื่อง และรูเสียบชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
ด้านซ้ายตัวเครื่อง เป็นสีเทาอมเงินเหมือนฝาหลัง บริเวณด้านข้างมีปุ่มกดปรับระดับเสียงเพิ่ม-ลด (Volume)
ตัวขวาตัวเครื่อง มีช่องถาดซิมการ์ด รองรับซิมการ์ดแบบ Dual NanoSIM และปุ่มกดเปิด-ปิด ตัวเครื่อง (Power)
ด้านหลังตัวเครื่อง ใช้สีเงินอมเทาเป็นพื้นสีตัดกับเส้นลวดลายสีขาว บริเวณตรงกลางเครื่องด้านหลังจะมีแทบชื่อ “OPPO Gundam RX-78-2” สีแดง ในขณะที่บริเวณกล้อง 4 ตัว จะใช้สีทองตัดที่บริเวณขอบกล้อง และใช้สีเขียวตัดที่เลนส์กล้องตัวแรก จนดูเหมือนกับตาของโมบิลสูทก็ว่าได้

- กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล (F1.7)
- กล้อง TelePhoto ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล (F2.4)
- กล้อง Ultrawide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (F2.2)
- กล้อง MonoChrome ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
รายละเอียดสเปคตัวเครื่องของ OPPO Reno Ace Gundam 40th Anniversary Edition
- หน้าจอแสดงผล Waterdrop Display ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด 2400×1080 พิกเซล (Refresh rate 90Hz)
- CPU Snapdragon 855+ ความเร็ว 2.96GHz
- GPU Adreno 640 RAM 8GB (LPDDR4X)
- ROM 256GB (UFS 3.0)
- กล้องถ่ายรูป Quad camera ความละเอียด 48 + 13 + 8 + 2 ล้านพิกเซล (Main + Telephoto + Ultrawide + MonoChrome)
- กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
- Color OS 6.1 Base on Android OS 9.0
- Bluetooth 5.0, NFC Support
- Dual Nano SIM
- สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
- แบตเตอรี่ 4000 mAh (SuperVOOC 2.0, 65W)
บทสรุป
OPPO Reno Ace Gundam 40th Anniversary Edition เป็นสมาร์ทโฟนที่ถ้าหากมองในมุมของคนที่ชื่นชอบกันพลาหรือ Gundam Series อยู่แล้ว คงต้องบอกว่า “ของมันต้องมี” ล่ะครับ งานออกแบบดีงามขนาดนี้ ประกอบกับได้สมาร์ทโฟนสเปคที่จัดว่าเพอร์เฟ็คมากๆ ดังนั้นคงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ควรซื้อ แต่ถ้าหากคุณเป็นไม่ได้เป็นแฟนคลับใดๆ แค่อยากได้สมาร์ทโฟนที่มีสีสันแปลกใหม่ เจ้า Reno Ace Gundam รุ่นนี้ก็สามารถตอบโจทย์ให้คุณได้เป็นอย่างดีแน่นอนครับ เพราะสเปคพื้นฐานของรุ่นนี้ก็คือ Reno Ace ที่เป็นรุ่น Flagship ของ OPPO อยู่แล้วนั่นเอง เพียงแต่ว่าไม่ว่าจะอยากได้หรือควรต้องมีด้วยเหตุผลใดๆ ท้ายที่สุดในตอนนี้ ก็คงทำได้แค่มองไปก่อนเท่านั้น เพราะตอนนี้ทางออปโป้ได้จำหน่ายไปหมดแล้ว 30,000 เครื่อง และยังคงไม่มีทีท่าว่าจะผลิตเพิ่มแต่อย่างใด ดังนั้นเราคงทำได้แค่มองและภาวนาว่า ทางออปโป้จะเปลี่ยนใจ…..เพลี้ยง!














